‘ชัยวุฒิ’ ยก ‘ประวิตร’ เหมาะนั่งนายกฯสุด หากการเมืองเปลี่ยนขั้ว
ชัยวุฒิ ยก ประวิตร เหมาะนั่งนายกฯสุด หากการเมืองเปลี่ยนขั้ว ชี้เป็นคนที่มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ นำประเทศไปข้างหน้าได้
นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถึงการโหวตเลือกนายกฯที่จะเกิดขึ้นวันแรกในวันที่ 13 ก.ค. นี้นั้น
นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตามหลักการต้องให้พรรคที่ได้เสียง ส.ส.อันดับ 1 เสนอชื่อก่อน หากไม่ผ่านก็เป็นสิทธิของพรรคอันดับ 2 แต่หากแคนดิเดตของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ไม่ผ่าน คงต้องมีการพูดคุยกันว่าจะมีพรรคการเมืองอื่นเข้ามาช่วย หรือสมการการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่อย่างไรรัฐบาลก็ต้องเป็นเสียงข้างมาก และหากมีการพลิกขั้ว โดยพรรคเพื่อไทยจับมือกับขั้วรัฐบาลเก่าก็จะต้องมีการเจรจากัน ว่าแคนดิเดตของพรรคใดเหมาะสมจะเป็นนายกฯ
ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ เหมาะสมที่สุด ตนอยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องมองว่าคนของพรรคพลังประชารัฐเหมาะสมที่สุด พรรคเพื่อไทยก็อาจมองว่าคนของพรรคเพื่อไทยเหมาะสม แต่สุดท้ายต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลผสม ใครจะเป็นนายกฯอยู่ที่การเจรจา
เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร มีคุณสมบัติที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ สามารถนำพาประเทศให้ไปข้างหน้าอย่างสงบสุขได้ แต่สุดท้ายต้องอยู่ที่รัฐสภา
เมื่อถามว่า เวลานี้ พล.อ.ประวิตร มีความพร้อมจะเป็นนายกฯหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พร้อมมานานแล้ว และเชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับว่า พล.อ.ประวิตรไม่ขัดแย้งกับใคร สามารถประสานงาน และเป็นที่เคารพของเกือบทุกกลุ่ม ทุกพรรค ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอชื่อนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น ตามหลักการพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะต้องพูดคุยกันก่อน และจะเสนอชื่อเพียงคนเดียว
นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า โดยหลักต้องคุยกันอยู่แล้ว พรรครัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อคนเดียว ตอนนี้ทุกพรรคมีสิทธิเสนอ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ยังมีสิทธิ หรือพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องคุยกัน ยังมีเวลา สุดท้ายก็ต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำงานด้วยกันอยู่ดี และเชื่อว่าการเลือกนายกฯจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นนายกฯจากแคนดิเดตของพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าเป็นไปได้ยากที่จะได้นายกฯคนนอก ซึ่งบุคคลในบัญชีนายกฯมีหลายคนที่พร้อมจะเป็นนายกฯ