วิธีป้องกัน แฮกเกอร์ (Hacker) ขโมยข้อมูลส่วนตัว ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อใช้โลกออนไลน์อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันในโลกของยุคดิจิตอล ข้อมูลส่วนตัวของเราส่วนใหญ่ ถูกจัดเก็บไว้ในคลาวด์ หรือโลกออนไลน์ เป็นจุดกำเนิดของการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ตามมาด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะสะดวกในการดึงข้อมูลออกมาใช้งาน แต่ก้อย่าลืมว่ายังมี แฮกเกอร์ (Hacker) ที่สามารถเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณ ออกมาสร้างรายได้ ใช้ข่มขู่เพื่อผลประโยชน์ตัวเองได้ด้วย
ล่าสุดไทยเองก็โดนไปด้วยเช่นกันจากการที่ แฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า 9Near ได้โพสต์ขายข้อมูลส่วนตัวคนไทยจำนวน 55 ล้านรายการ ประกอบไปด้วยเลขบัตรประชาชน ชื่อ ที่อยู่ วันเกิดและเบอร์โทรศัพท์ ดังนั้นวันนี้ Thaiger จะมาบอกวิธีป้องกันการโดนแฮ็กข้อมูลเบื้องต้น เพื่อป้องกันตัวเองเป็นด่านแรกให้ทุกคนได้ทำตามกัน
วิธีป้องกัน แฮ็กเกอร์ ขโมยข้อมูลส่วนตัว 2023
เปิดใช้ Multi-Factor Authentication
สิ่งที่น่าจะได้ผลที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อปกป้องข้อมูลบัญชีออนไลน์ของคุณ นั่นก็คือการเปิดใช้งานการตรวจสอบการเข้าถึงสิทธิ์แบบหลายปัจจัย หรือสองปัจจัยสำขึ้นไป
การรับรองความถูกต้องด้วยหลายปัจจัย หรือหลาย ๆ ชั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล โดยกำหนดให้ต้องมีปัจจัยที่สองก่อนเข้าใช้งาน เช่น รหัสข้อความหรือการสแกนลายนิ้วมือ ที่นอกเหนือจากการใส่รหัสผ่าน วิธีนี้จะทำให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงบัญชีได้ยากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะมีรหัสผ่านของคุณก็ตาม
ใช้รหัสผ่านเฉพาะ และไม่ซ้ำใคร
ขั้นตอนสำคัญอีกประการหนึ่งในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณคือการใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและไม่ซ้ำใครสำหรับบัญชีออนไลน์แต่ละบัญชีของคุณ
หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับหลายบัญชี เนื่องจากจะทำให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของคุณได้ง่ายขึ้น หากพวกเขาสามารถถอดรหัสรหัสผ่านเดียวได้ ให้ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านเพื่อสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่ซับซ้อนสำหรับแต่ละบัญชีของคุณแทน
อัปเดตซอฟต์แวร์ OS อยู่เสมอ
แฮ็กเกอร์มักจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ที่เก่าแล้ว เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณนั้น ได้อัปเดตซอฟต์แวร์ทั้งหมดบนอุปกรณ์ของคุณเป็นประจำ
รวมถึงระบบปฏิบัติการ เว็บเบราว์เซอร์ และแอปหรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่คุณใช้ ควรตั้งค่าอุปกรณ์ให้อัปเดตอัตโนมัติทุกครั้งที่มีซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ให้ใช้งาน
ระวังลิงก์แปลกปลอม
การหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง เป็นวิธีการทั่วไปสำหรับแฮ็กเกอร์ในการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล การหลอกลวงเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับการส่งอีเมล หรือข้อความที่ดูเหมือนว่ามาจากแหล่งที่ถูกต้อง เช่น ธนาคารหรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่จริง ๆ แล้วมีลิงก์ที่เป็นอันตราย
การคลิกลิงก์เหล่านี้ อาจทำให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงบัญชีและข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของสแกมฟิชชิง ให้ตรวจสอบที่อยู่อีเมลหรือชื่อบัญชีของผู้ส่งอีกครั้งก่อนคลิกลิงก์ใด ๆ ก็ตาม
เครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย
เครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัยยังเป็นเป้าหมายสำหรับแฮ็กเกอร์ที่ต้องการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล แฮ็กเกอร์สามารถใช้เครือข่ายที่ไม่ปลอดภัยเพื่อสกัดกั้นการรับส่งข้อมูลและขโมยข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ
เพื่อป้องกันให้คุณใช้เครือข่ายที่ปลอดภัยเสมอเมื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และหลีกเลี่ยงการใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ เว้นแต่คุณจะใช้ VPN
การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล จากแฮ็กเกอร์เป็นสิ่งสำคัญในยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ทั้งการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย รหัสผ่านที่รัดกุม การอัปเดตซอฟต์แวร์ และข้อควรระวังเมื่อคลิกลิงก์
ทั้งหมดนี้ คุณสามารถลดความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ และอย่าลืมตรวจสอบบัญชีออนไลน์ของคุณเป็นประจำเพื่อหากิจกรรมที่น่าสงสัย หากใช้อุปกรณ์ส่วนรวม หรืออุปกรณ์สาธารนะอย่าลืม Log out และล้างประวัติก่อนปิดเครื่องด้วยนะ
