ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยันตัดสิทธิ์แล้ว 73 คน เซ่น ทุจริตสอบตำรวจนายสิบ คนไม่ผิดเข้ารับราชการปกติ
พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมาถึงกรณีการทุจริตสอบตำรวจนายสิบที่จากการตรวจสอบพบมีผู้ร่วมกระทำความผิด รวม 73 คน ตอนนี้ได้ทำการตัดสิทธิ์ผู้ที่เข้าข่ายมีความผิดการสอบเข้าเป็นนายสิบตำรวจไปแล้ว โดยส่วนที่เหลือซึ่งไม่พบความผิดก็ให้เข้ารับราชการตามปกติ
ขณะที่กรณีที่มีตำรวจและร้อยตำรวจเอกหญิงนายหนึ่งที่ถูกตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท ผช.ผบ.ตร. กล่าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องในการทุจริตหรือไม่ คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถชี้แจงรายละเอียดได้
ส่วนการร้องเรียนเรื่องทุจริตสอบนายสิบตำรวจฝ่ายอำนวยการ ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีการเผยแพร่คำถามและคำตอบของข้อสอบ พบว่าครั้งนี้มีผู้เข้าสอบกว่า 2 แสนคน และสอบผ่านการคัดเลือกไปแล้ว 1,160 คน อยู่ระหว่างการรอสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายที่จะรับเหลือ 725 คน ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าเป็นการทุจริตสอบ เบื้องต้นคำถาม และคำตอบที่นำมาเผยแพร่ตรงกับข้อสอบจริง แต่คาดว่าเป็นการจำคำถามมาแล้วพิมพ์ใหม่ ซึ่งก็จะต้องนำไปตรวจสอบความชัดเจนทั้งหมดว่ามีการทุจริตหรือไม่ ส่วนจะเชื่อมโยงกับการทุจริตสอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.นิรันดร ย้ำว่า หากตรวจสอบว่ามีการทุจริตจริงว่ามีการเฉลยข้อสอบ ในส่วนนี้ก็จะมีกระบวนการคัดกรองคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายออกมา ก่อนจะเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ และหากพบว่ามีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญาต่อไป
ผลการตรวจสอบ ทุจริตสอบตำรวจนายสิบกับตำรวจภูธรภาค 9 รายงานจากความคืบหน้าเพิ่มเติมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีดังนี้
1. ได้ทำการคัดกรองและตัดสิทธิ์ ผู้ทุจริตการสอบทั้งหมดรวม 73 คน ออกจากกระบวนการคัดเลือกแล้ว
2. กรณีที่มีการตรวจพบการทุจริตในห้องสอบ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้เข้าสอบ ที่ปรากฏหลักฐานการทุจริตในการสอบกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาไว้แล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
3. ในส่วนของข้าราชการตำรวจ ยศ ร.ต.อ.หญิง ที่มีการนำเสนอข่าวว่ามียอดเงินเข้ามาในบัญชีจำนวนมาก และอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการสอบนั้น ตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกับ ร.ต.อ.หญิง ดังกล่าว หากผลการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ผลเป็นประการใด จะนำเรียนให้ทราบโดยเร็วต่อไป
อย่างไรก็ตามเพื่อให้การดำเนินการทั้งสองกรณี เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปรับผิดชอบและกำกับดูแล ทั้ง 2 เหตุการณ์ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำและกำชับให้ตรวจสอบคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส เพื่อให้การสรรหาบุคคลภายนอกที่จะเข้ามารับราชการตำรวจ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งหากมีข้าราชการตำรวจรายใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ในกระบวนการทุจริตการสอบดังกล่าว ก็จะดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้มีส่วนร่วมในการทุจริตจนถึงที่สุด
ที่มา : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
