ไปทุกคนไป รีวิว Interceptor สงครามขีปนาวุธ (2022) หนังแอ็คชั่นสุดมันส์จากทาง NETFLIX ได้กลิ่นอายความสนุกยุค 90 เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย มีพากษ์ไทยด้วยนะ
เชื่อว่าใครที่เกิดทันยุค 90 ต้องเคยดูหนังบู๊แหลกจากทางฝั่ง ฮอลลิวูด มาหลาย ๆ เรื่องอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็น Broken Arrow, Crimson Tide หรือ True Lies ที่ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นหนังแนวแอ็คชั่นในตำนาน ที่แม้ว่าในช่วงนั้นเอฟเฟคต่าง ๆ จะยังไม่เด่นเท่าไหร่นัก แต่เนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย และฝีมือการแสดงทำให้หนังเหล่านี้กลายเป็นหนังขึ้นหิ้งที่เหมือนกับว่า Interceptor (2022) จะมีกลิ่นอายตรงนั้นมาไม่น้อยเลยละ
รีวิวหนัง Interceptor สงครามขีปนาวุธ (2022) บทเกือบจะดี ? ฉากบู๊เวอร์ แต่สนุกเพลิน ๆ
| Interceptor สงครามขีปนาวุธ (2022)
เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของ Interceptor สงครามขีปนาวุธ (2022) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เจเจ คอลลินส์ (รับบทโดย เอลซา พาทากี) ทหารหญิง ที่ถูกส่งตัวกลับมาปฏิบัติการยังฐานขีปนาวุธกลางทะเล ซึ่งฐานสกัดกั้นมีด้วยกัน 2 แห่ง แต่กลายเป็นว่าก่อนที่เธอจะมาถึงได้ไม่นานนัก ฐานที่ 1 กลับถูกโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายเสียแล้ว
นอกจากที่ฐานจะถูกโจมตี ผู้ก่อการร้ายยังได้ขโมย ขีปนาวุธจากรัซเซีย จำนวน 16 ลูกเพื่อที่จะใช้ในการโจมตีอเมริกา แต่การที่จะโจตีได้นั้น ต้องทำลายฐานสกัดทั้ง 2 ฐาน ทำให้สายแกร่งอย่าง เจเจ คอลลินส์ ต้องออกโรงปกป้องฐานที่เหลืออยู่สุดชีวิต จนเกิดเป็นฉากบู๊สุดโหด ที่มีภารกิจเดิมพันชีวิตกว่าล้านชีวิตเป็นเดิมพัน
| รีวิว Interceptor
โดยส่วนตัวแล้วนั้น แอดมองว่าหนังเรื่อง Interceptor 2022 นี้นั้น เป็นหนังที่มีพ้อยต์หลักของเรื่องแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ฉีกแนวหักมุมเหมือนหนังหลาย ๆ เรื่องในปัจจุบันสักเท่าไหร่นัก ทำให้คนดูอย่างเราสามารถดูได้เพลิน ๆ เปิด Netflix ไปด้วย เล่นโทรศัพท์ไปแปปนึงเงยหน้าขึ้นมาก็ยังดูรุ้เรื่องอยู่
ในส่วนของนางเอกอย่าง เอลซา พาทากี (Elsa Pataky) ภรรยาสุดที่รักของ คริส เฮมสวอร์ธ พ่อหนุ่มธอร์ นั่นเอง ต้องยอมรับเลยว่าเธอนั้นทุ่มสุดตัวจริง ๆ กับฉากบู๊ แอ็คชั่นเลือดสาด (นิดหน่อย) กับบทที่เล่นให้นางเอกนั้น โคตรจะเก่ง 1 ต่อ 7 นางก็ไม่หวั่น อีกทั้งในเรื่องเราจะได้เห็นการปรากฎตัวของสามีอย่าง คริส เฮมสวอร์ธ อีกด้วย
ในส่วนของตัวเนื้อเรื่อง อย่างที่ได้บอกไปว่าเนื้อเรื่องเป็นเส้นเรื่องตรง ๆ คนดูไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ก็จะมีบางจุดที่ เอ๊ะ!? ใช่หรอ อย่างนี้ก็ได้หรอ อยู่บ้างนิดหน่อย อาจจะขัด ๆ กับความสมเหตุสมผลในชีวิตจริงไปบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังทุกเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละเนอะ
| ให้คะแนนรีวิว Interceptor สงครามขีปนาวุธ 7/10
ด้วยความที่ตัวหนังนั้นถ่ายทำในประเทศออสเตรเลียเป็นหลัก ในฉากส่วนใหญ่ก็จะมีในสถานี กลางทะเล ร้านทีวี มีซีนตกน้ำ ซีนปล่อยขีปนาวุธ กราฟฟิกเกือบทั้งหมดดูเรียลในระดับหนึ่ง แต่ก็มีหลายซีนไม่ค่อยสมจริง
ส่วนของเนื้อเรื่องด้วยความที่เราสามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นอย่างกับตาเห็น ทำให้ความตื่นเต้นก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน ส่วนความสนุกจริง ๆ ก็เห็นจะเป็นฉากต่อสู่ระหว่านางเอก ทหารสาวที่เก่งสุด ๆ เก่งอะไรเบอร์นั้น แต่ก็เป็นส่วนที่ทำให้หนังมันส์จริง ๆ
ส่วนตัวร้ายในเรื่อง ของแอบบอกตามตรงว่าดูไม่ออกจริง ๆ ว่าเป็นตัวร้าย ขนาดหนังจบก็ยังแทบไม่เชื่อเลยว่านี่หรือคือลาสบอส ที่น่าเกรงขาม เพราะด้วยลุคที่ดูดีจนเรียกได้ว่าจริง ๆ แล้วควรจะมาเป็นฝั่งตัวเอกมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นอะไรที่หนังน่าจะวางเรื่องมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
- รีวิว Love, Death + Robots Vol.3 ตอน Jibaro เมื่อดันทุรังในรักที่ไม่ใช่ ฝืนต่อไปก็มีแต่จะเจ็บ
- รีวิว Moon Knight EP.6 ตอนจบ จุด(ไม่)จบศึกอัศวินแห่งจันทร์ทรา จะมีภาคสองไหม ?
- รีวิว Doctor Strange 2 “หมอแปลก” ภาคต่อ เผยภัยร้ายบทใหม่ เตรียมถล่มจักรวาล MCU
- รีวิว 365 Days: This Day หนังสุดแซ่บจาก Netflix พระเอกงานดี บทเผ็ชแบบงงๆ กลิ่นน้ำเน่าแรง
