กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย ทางเลือกการลงทุนเพื่ออนาคต
รู้จัก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย KTAM Happy Life อีกหนึ่งวิธีการลงทุน ความเสี่ยงต่ำที่จะมอบประโยชน์ให้ตัวคุณในอนาคต มารู้จักกันว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร ผลประโยชน์และสิทธิ กรณีลาออก เสียชีวิต จะต้องติดต่อรับเงินกองทุนอย่างไร รวมถึงกองทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ มาดูคำตอบกัน
KTAM กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรุงไทย คืออะไร?
ก่อนจะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติพิเศษของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย หลายคนคงอยากรู้ว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่นายจ้างหรือผู้ประกอบการ และลูกจ้างหรือพนักงาน ตกลงสมัครใจจัดตั้งขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย วัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
- เพื่อเป็นหลักประกันให้พนักงานเมื่อออกจากงานหรือเกษียณ
- เป็นแรงจูงใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อส่งเสริมการออม
โดยพนักงานจะต้องจ่าย “เงินสะสม” เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเป็นจำนวนเงินที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าจ้าง ส่วนผู้ประกอบการจะต้องจ่ายจะเรียกว่า “เงินสมทบ”
การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อมาควบคุมด้วย โดยต้องมีการทำสัญญาว่าจ้าง จดทะเบียนกองทุน และรายงานผลการดำเนินงานกองทุนเป็นระยะ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรุงไทย มีกี่รูปแบบ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรุงไทย มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไทยมั่นคง มาสเตอร์ พูล ฟันด์ เน้นการลงทุนผ่านกองทุนรวม
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย มาสเตอร์ พูล ฟันด์ เน้นการลงทุนตรง
สมัครเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรุงไทย ต้องทำอย่างไร
ก่อนสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลูกจ้างสามารถเรียกดูข้อบังคับกองทุนจากคณะกรรมการกองทุนได้ โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
- คุณสมบัติของการเป็นสมาชิกกองทุน
- อัตราเงินสะสมที่ลูกจ้างส่งเงินเข้ากองทุน: ต้องอยู่ในช่วง 2 – 15% ของค่าจ้าง
- อัตราเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายเพิ่มเติมให้ : ต้องอยู่ในช่วง 2 – 15% ของค่าจ้าง
- เงื่อนไขต่างๆ เมื่อสิ้นสมาชิกภาพ เช่น เงื่อนไขการลาออกจากกองทุน รูปแบบการรับเงิน เป็นต้น
- อื่น ๆ เช่น ระยะเวลาในการจ่ายเงินคืน เป็นต้น
โดยวิธีการสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีดังนี้
- กรอกใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุน
- กรอกข้อมูลในหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ ควรระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์และสัดส่วนเงินที่จะได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในกรณีที่สมาชิกเสียชีวิต
นอกจากนี้ผู้สมัครสมาชิกควรจดข้อมูลสำคัญเก็บไว้เผื่อต้องใช้ในอนาคต เช่น เปลี่ยนผู้รับประโยชน์หลังจากแต่งงานและมีบุตร เป็นคู่สมรสหรือบุตร-ธิดา แทนพ่อแม่ เป็นต้น
สิ่งที่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพควรรู้
- สมาชิกกองทุนควรติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน โดยสามารถขอดูข้อมูลได้จากคณะกรรมการกองทุน ประชาสัมพันธ์ของบริษัท หรือใบแจ้งยอดเงินสมาชิกกองทุนราย 6 เดือน
- เปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยตรวจสอบจากใบแจ้งยอดเงินสมาชิกกองทุนราย 6 เดือน
- วิธีคิดคำนวณ อัตราผลตอบแทนสะสม ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การสิ้นสุดการเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นอีกสิ่งที่สมาชิกกองทุนควรศึกษาไว้เพื่อขอรับเงินกองทุนจากคณะกรรมการกองทุน โดยสามารถเกิดได้หลายกรณี ดังนี้
1. กรณีสมาชิกเกษียณอายุ/ออกจากงาน
ให้สมาชิกติดต่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อแจ้งการสิ้นสุดเป็นสมาชิก พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้บริษัท จากนั้นบริษัทจัดการจะดำเนินการส่งเงินให้สมาชิกโดยตรงหรือผ่านคณะกรรมการกองทุน
2. กรณีโอนย้ายกองทุน
ให้สมาชิกติดต่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อแจ้งย้ายไปกองทุนอื่น หลังจากนั้นคณะกรรมการกองทุนจะแจ้งให้บริษัททราบพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทอาจส่งเงินคืนให้สมาชิก เพื่อให้นำไปมอบแก่บริษัทรายใหม่ด้วยตัวเอง หรือดำเนินเรื่องส่งเงินต่อให้บริษัทรายใหม่โดยตรง
3. กรณีสมาชิกเสียชีวิต
ผู้รับผลประโยชน์ที่สมาชิกระบุชื่อ ต้องติดต่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อแจ้งบริษัทให้ทราบพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น บริษัทจะดำเนินการออกเช็คในนามผู้รับผลประโยชน์ตามที่สมาชิกได้ระบุไว้ กรณีที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้ บริษัทจะจ่ายให้บุตร สามีหรือภริยา และบิดามารดา ตามลำดับ
โดยสมาชิกจะได้รับเงินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นสมาชิก หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วยังไม่ได้รับเงิน สมาชิกรวมถึงผู้รับผลประโยชน์ ควรติดต่อไปยังคณะกรรมการกองทุนหรือบริษัทจัดการ สมาชิกจะได้รับเงิน 2 ส่วน ดังนี้
1. เงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินสะสม : สมาชิกต้องได้รับทั้งจำนวน
2. เงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสมทบ : สมาชิกจะได้รับตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน
ประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรุงไทย
ประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับนายจ้าง
- เพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงานในการทำงาน
- เป็นสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน
- นายจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จากเงินสมทบที่จ่ายเข้ากองทุน โดยสามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้
ประโยชน์สำหรับลูกจ้าง / พนักงาน ที่เป็นสมาชิกกองทุน
– เสมือนได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายให้
– เป็นสวัสดิการเงินได้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อออกจากงานหรือเกษียณอายุ
– เป็นหลักประกันให้กับชีวิตและครอบครัวกรณีทุพพลภาพหรือเสียชีวิต
– เงินกองทุนได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อสมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพทุกกรณี จะได้รับเงินสะสม และผลประโยชน์เงินสะสมเต็มจำนวน และอยู่นอกเหนือเหตุแห่งการบังคับคดีทั้งปวง
– เป็นโอกาสออมเงินให้กับตนเองและครอบครัว
– เงินออมอยู่ภายใต้การบริหารของมืออาชีพ
– สามารถนำเงินสะสมไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี
– รายได้จากการลงทุนได้รับการยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
– เมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ เงินได้ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถนำไปลดหย่อน หรือยกเว้นภาษีเงินได้ ตามเหตุของการสิ้นสุดสมาชิกภาพ เช่น ลาออกจากงานโดย ณ วันที่ลาออกมีอายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี หากไม่ถึง 5 ปีก็อาจไม่ได้รับสิทธิ์ส่วนนี้ หรือกรณีลาออกจากงานเมื่ออายุตัว 55 ปี บริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวน เป็นต้น
หากสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ smarttrade.ktam.co.th หรือโทร 0-2686-6100 กด 9 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-295-592
อ้างอิงจาก (1)
- เช็กสิทธิ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน ช่วยเหลือลูกจ้าง 2565 กรณีเกิดเรื่องร้ายจากการทำงาน
- รู้จัก กองทุนประกันวินาศภัย คืออะไร ? ช่องทางช่วยเหลือ กรณีบริษัทประกันปิดกิจการ
- กรุงไทย เริ่มขาย หุ้นกู้ JP Morgan MOZAIC XRP แล้วตั้งแต่วันนี้ – 13 พ.ค.
- สมัคร สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท อนุมัติกี่วัน ดอกเบี้ยเท่าไหร่ เช็กที่นี่