สุขภาพและการแพทย์

วิธีวัดขนาดถุงยาง เลือกถุงยางอนามัย ให้เข้ากับน้องชาย 49 ถึง 56

วิธีวัดขนาดถุงยาง สำหรับ เลือกซื้อถุงยางอนามัย ใช้ให้ถูกไซซ์ 49 52 54 หรือ 56 พร้อมทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้สำเร็จลุลวงอยู่รอดไปจนถึงฝั่งฝัน!

ทีมงาน The Thaiger Thailand เชื่อว่า หลายคนที่แม้จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ก็ยังคงไม่ทราบถึงวิธีวัดถุงยาง ไม่รู้ว่า ขนาดน้องชาย ใส่เครื่องป้องกันไซซ์ใด ให้ถูกต้องเหมาะสมกับตัวเอง

บางคนไม่กล้าถาม เพราะรู้สึกเขินอาย หรือกลัวคนอื่นจะมองเราแปลก ๆ จนปล่อยให้ความไม่รู้เหล่านั้นสั่งสมกระทั่งเกิดเป็นความเข้าใจผิดต่อ วิธีการเลือกใช้ถุงยางอนามัย ทำให้เสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรค์โดยไม่พึงประสงค์ได้นั่นเอง

วันนี้ จะมาดูกันว่า ถ้าจะวัดขนาดอวัยวะเพศ เพื่อซื้อถุงยางอนามัย ก่อนมีเซ็กซ์ จะมีอะไรที่ต้องรู้บ้าง ตามเข้ามาอ่านในนี้กันได้เลยครับ

จับเข่าคุย วิธีวัดขนาดถุงยาง สำหรับชายไทย นิยมใส่ 49 ถึง 56

 

วิธีวัดถุงยาง ต้องวัดขนาดอวัยวะเพศ แบ่งตามขนาดเส้นรอบวงน้องชาย

เริ่มต้นกันที่ ขนาดเส้นรอบวงของถุงยางอนามัยก่อน โดยปกติแล้ว ยี่ห้อที่จัดจำหน่ายส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้

  • 49 มม. = เล็ก
  • 52 มม. = ทั่วไป
  • 54 มม. = มีขายบางยี่ห้อ
  • 56 มม. = ใหญ่ (ไซซ์ยุโรป)

ถุงยางอนามัยที่เหมาะสมกับชายไทยส่วนมาก จะอยู่ที่ 49 มม. กับ 52 มม. หากใหญ่กว่านั้น จะเป็นไซซ์ 56 มม. หรือถ้าใส่ 56 แล้วยังคับ อาจต้องหาถุงยางอนามัยของประเทศในโซนยุโรปมาสวมใส่กันครับ

รู้หรือไม่ว่า ในยุโรป ถุงยางอนามัย ไซซ์ 58 60 ก็ยังมีนะ

 

วิธีวัดขนาดอวัยวะเพศ ตามความยาว

อาจไม่ได้จำเป็นเท่ากับการวัดขนาดเส้นรอบวง แต่การรู้ความสั้น-ยาวที่ชัดเจน จะช่วยทำให้เราค้นพบกับถุงยางอนามัยที่เหมาะสมมากที่สุด

1. เริ่มต้นปลุกอวัยวะเพศให้ผงาดค้ำโลกก่อน

2. วางไม้บรรทัดหรือสายวัดบริเวณโคนของอวัยวะเพศที่แข็งตัวลงบนหัวหน่าวจนถึงกระดูกหัวหน่าว

3. จับอวัยวะเพศทาบไปตามแนวไม้บรรทัดให้แนบชิดกันด้วยความเบามือ

4. วัดระยะจากฐานจนถึงปลายสุด

5. ในกรณีที่อวัยวะเพศมีความโค้ง ให้วัดความยาวระนาบตามความโค้งไปเลย

วิธีการวัดเส้นรอบวงอวัยวะเพศ เพื่อให้เข้ากับขนาดถุงยาง

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดการเลือกใช้ถุงยางของเรานับจากนี้เลยทีเดียว (เพราะบนบรรจุภัณฑ์ของถุงยางอนามัยจะระบุเป็นขนาดเส้นรอบวง) ถ้าพร้อมแล้วก็จับคุณน้องชายให้มั่น ๆ กันได้เลย ?

1. ปลุกคุณน้องชายอีกครั้ง!

2. เลือกตำแหน่งที่หนา / อวบสุด

3. พันสายวัดให้ครบรอบแบบพอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป

4. เมื่อวัดขนาดเส้นรอบวงได้แล้วก็นำผลที่ได้มาหาร 2.3 ก็จะได้ขนาดที่แท้จริง เช่น วัดได้ 120 มม. นำมาหาร 2.3 จะได้ขนาดถุงยางที่ใช้ได้อยู่ที่ 52 มม.

* ข้อควรระวัง!

ย้ำอีกครั้งว่าการวัดเส้นรอบวงนั้นสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าเราเลือกขนาดกว้างไปก็อาจทำให้หลุด หรือถ้าเล็กไปก็อาจทำให้ถุงแตกได้เช่นกัน

ถุงยางอนามัยขนาดต่าง ๆ

ปัจจุบันถุงยางอนามัยในท้องตลาดมีให้เลือกหลายแบบหลากขนาด ซึ่งอาจจะมีตั้งแต่ 49, 52, 52.5, 53, 54, และ 56 มิลลิเมตร และสามารถรองรับขนาดของอวัยวะเพศได้เกือบทุกคนครับ (ยกเว้นบางคนที่พิเศษกว่าคนอื่น) หากเจอใครที่มาอวดสรรพคุณอ้างว่ายิ่งใหญ่คับฟ้า แล้วอยากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยาง ก็ลองพิจารณากันดี ๆ นะครับ

 

การสวมใส่ถุงยางอนามัย

พอเตรียมอุปกรณ์พร้อมเสร็จสรรพแล้ว ก็ได้เวลาสวมเกราะให้กับน้องชายนักสู้ของเราสักที ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ชายไทยไม่ควรประมาทกันนะครับ เพราะการสวมใส่ที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้เรารู้สึกฟินแล้ว ยังช่วยป้องกันการรั่วไหลของถุงยาง และอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วยนะครับ ?

1. รอให้อวัยวะเพศแข็งตัวแบบสุด ๆ

2. สวมใส่โดยให้ รอยม้วน ของถุงยางหันออกด้านนอก

3. ใช้มือบีบตรงกระเปาะถุงยาง (ที่ใช้เก็บน้ำอสุจิ) ไล่อากาศออกจนหมด (แต่ถ้าถุงยางที่ใช้ไม่มีกระเปาะ ก็ให้ดึงถุงยางออกมาครึ่งนิ้ว สำหรับเป็นพื้นที่เก็บน้ำเชื้อแทนครับ

4. จากนั้นก็รูดถุงยางลงมาให้สุดโคนอวัยวะเพศ แล้วก็เตรียมบรรเลงเพลงรักกันได้เลยจ้าา

 

วิธีถอดถุงยางอนามัย

หลังจากเสร็จกิจอันยิ่งใหญ่แล้ว หลายคนมักพลาดตกม้าตายตอนจบกันแทบทุกครั้ง บ้างอารมณ์ค้างจนลืมเอาออก หรือเอาออกแล้วก็กลับมาทำกิจกรรมกันต่อ อันนี้อาจเสียงติดโรค และการรั่วของอสุจิได้นะครับ ดังนั้น เมื่อท่านได้ทำภารกิจเสร็จสิ้น ก็อย่าลืมทำตามขั้นตอนดังนี้

1. ให้นำอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดหลังเสร็จกิจทันที ก่อนที่มันจะหดตัว

2. ค่อย ๆ ใช้มือที่พระเจ้าให้มาจับตรงส่วนฐานของถุงยางแล้วรูดขึ้น

3. ผูกปมง่าย ๆ เหมือนผูกถุงผ้าหรือเชือกรองเท้า ห่อด้วยกระดาษทิชชู่ แล้วนำไปทิ้งขยะ *ย้ำอีกครั้ง! ห้ามนำลงไปทิ้งชักโครก ถ้าคุณไม่อยากส้วมตันในภายหลังนะ

สรุปขั้นตอนทั้งหมด ก่อน กลาง หลัง ภารกิจ

  • เลือก ขนาด ที่พอดีไม่แน่น ไม่หลวม เกินไป
  • ก่อนเลือกใช้ เช็กบรรจุภัณฑ์ดี ๆ ว่าชำรุดหรือหมดอายุรึยัง
  • ใส่ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น
  • แนะนำให้ฉีกบรรจุภัณฑ์ถุงยางอนามัยด้วยมือแทนการใช้ของมีคม
  • อย่าลืม บีบกระเปาะก่อนรูดลง
  • ขอบม้วนของถุงยางต้องอยู่ด้านนอก
  • รูดลงไปให้สุดโคน
  • เมื่อเสร็จกิจ ให้ถอดออกตามขั้นตอนที่กล่าวไปข้างต้น แล้วห่อกระดาษทิชชู่นำไปทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อย
  • ถุงยางอนามัยต้อง ใช้ครั้งเดียว เท่านั้น
  • เมื่อถอดเสร็จแล้วห้ามสัมผัสอวัยวะเพศกัน

 


 

จะเห็นว่ากว่าจะมาถึงช่วงทำการบ้านบนเตียง ต้องผ่านหลายขั้นตอน แถมเมื่อถึงช่วงท้ายก็ยังต้องเก็บกวาดเช็กความเรียบร้อยกันอีก แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อลดความเสี่ยงของการติดโรคทางเพศสัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ เพื่อที่เราจะได้กลับมาเล่นจ้ำจี้กันอีกครั้งกับคู่รักของเราได้อย่างมีความสุข ปลอดภัยหายห่วงนั่นเอง

วาเลนไทน์นี้คู่ไหนจะรักสวีทหวานกันแค่ไหน ก็อย่าลืมศึกษาและพกถุงยางกันด้วยนะครับ ไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดเลย แถมยังดีซะอีกเพราะเป็นการรู้จักป้องกันตัวเองและคู่รักของเรา อีกทั้งยังเป็นการแสดงความใส่ใจของเราอีกด้วยนะ ปีนี้ 2022 เลิกอายกันได้แล้ววว ?

อ้างอิงจาก : 1 2

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button