‘ทิดไพรวัลย์’ สวนกลับเรื่องเพศอย่างโดน ชี้ สังคมควรมองเป็นเรื่องปกติสักที
‘ทิดไพรวัลย์’ สวนกลับเรื่องเพศอย่างโดน ชี้ สังคมควรมองเป็นเรื่องปกติสักที ไม่ว่าใครจะมีรสนิยมแบบไหนก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ควรไปยุ่งกัน
เป็นที่พูดถึงกันมากตั้งแต่สมัยยังมี พระ นำหน้า แม้จะสึกออกมาแล้วแต่ความแรงก็ไม่มีแผ่ว ล่าสุด (9 ม.ค. 65) ก็ยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงในโลกออนไลน์ไม่หยุดกับการที่ ‘ทิดไพรวัลย์’ สวนกลับเรื่องเพศอย่างโดน ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตอบคำถามแบบไม่ตอบ แต่ฝากไว้ให้คนถามได้คีสสส กับประเด็นเรื่องเพศกันนั่นเอง
ทิดเอก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เหมือนจะมาตอบคำถามที่มีคนถามกันมาอย่างล้นหลามว่า ทิดเอกเป็นชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ซึ่งคุณไพรวัลย์ก็ได้มาไขข้อข้องใจ พร้อมปิดท้ายด้วยคำถามกลับไปให้หลายคนได้เจ็บ ๆ คัน ๆ ไป ดังนี้
“พูดเรื่องเพศสภาพ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผมถึงไม่ยืนยันว่า ผมเป็นผู้ชายแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่พูดให้ชัด ๆ ไปเลยว่า ตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมอยากจะพูดให้ชัดตรงนี้เลยว่า นี่คือความตั้งใจของผมที่ต้องการให้เป็นแบบนั้น
ผมอยากให้สังคม โดยเฉพาะสื่อเข้าใจเสียทีว่า ไม่ว่าการจะชอบเพศไหน หรือการมีรสนิยมทางเพศแบบใด มันคือเรื่องส่วนบุคคลของคนอื่นที่เราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่มยาม ไม่มีสิทธิ์ตัดสินหรือกำหนดกฎเกณฑ์ แม้เพียงการพยายามเค้นถามเรื่องพวกนี้ ก็เป็นอะไรที่ไร้มารยาทและดูไม่มีการศึกษาสุด ๆ
ผมพยายามจะทำให้สังคมมองเห็นว่า การที่ใครสักคนจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหนมันปกติมาก ๆ (เน้นคำว่า ปกติมาก ๆ) ผู้ชายรักผู้หญิง ผู้หญิงรักผู้ชาย ผู้ชายรักผู้ชาย และผู้หญิงรักผู้หญิง หรืออื่น ๆ อีกมากมาย นี่มันคือเรื่องปกติ
มากไปกว่านั้น แม้การไม่ชัดเจนเรื่องเพศสภาพก็เป็นเรื่องปกติ การที่ใครสักคนไม่ปิดกั้นตัวเองว่า ควรจะต้องมีคู่รักเป็นคนเพศสภาพแบบไหน การที่ใครสักคนซึ่งเคยชอบผู้หญิงแล้วจะเปลี่ยนมาชอบผู้ชาย หรือการที่ใครสักคนซึ่งเคยชอบผู้ชายจะเปลี่ยนมาชอบผู้หญิง นี่ก็เป็นเรื่องปกติ (ปกติชนิดที่ไม่ควรตั้งคำถาม เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า มันไม่ปกติ หรือเป็นเรื่องผิดแปลกอะไร)
สำหรับผม สังคมไหนก็ตามที่ยังซอกแซกเรื่องส่วนบุคคลของคนอื่น เรื่องรสนิยม ไม่ว่าจะรสนิยมทางเพศ รสนิยมทางการแต่งตัว และอื่น ๆ สังคมที่ยังมาตั้งคำถามเสร่อ ๆ แบบหน้าตาลอยว่า แมนหรือเปล่า แมนร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม เป็นสังคมที่การศึกษายังไม่พัฒนานะ และควรจะต้องพัฒนาได้แล้ว”