มีการรายงานข่าวมาว่า Electronic Arts (EA) นั้นอาจจะพิจารณาถึงการปล่อยสัญญาที่ทำกับ FIFA เนื่องจากราคานั้นสูงขึ้นเกินไปถึง 2 เท่า
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการรายงานข่าวมาว่า Electronic Arts (EA) บริษัทเกมส์ชื่อดัง ได้อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงการปล่อยสัญญาลิขสิทธิ์ที่ทำร่วมกับ FIFA เนื่องด้วยทางหน่วยงานเรียกราคาของสิทธิ์สูงมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อวาระ (4 ปี ระหว่างฟุตบอลโลก) และอื่น ๆ
โดยข่าวดังกล่าวนั้น มาจากทางสำนักข่าว New York Times ที่ซึ่งรายงานว่า เหตุผลของการพิจารณาปล่อยสัญญานั้นมาจากข้อตกลงเรื่องเงินเป็นหลัก โดยในส่วนแรกนั้นเนื่องจากทางฟีฟ่า FIFA ได้มีความต้องการเพิ่มมูลค่าของสัญญาขึ้นอีก 2 เท่า ซึ่งจะมีมูลค่ารวมทั้งหมดมากกว่า 1 พันกว่าล้านดอลลาร์ต่อ 1 ช่วงวาระ (ระยะเวลา 4 ปี) และอีกส่วนหนึ่งนั้นมาจากความประสงค์ของ FIFA ที่ต้องการตั้งข้อจำกัดในการใช้งานลิขสิทธิ์โดยเฉพาะของทาง Electronic Arts
ที่ซึ่งมีความต้องการที่จะขยายทางเลือกอื่น ๆ ให้การสร้างรายได้ (monetization) ของตัวเกมส์ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงเวลาสำคัญ (highlights) ของการแข่งขันจริง – ทั้งในแบบต่อนัดและรายการแข่งขัน รวมไปถึง NFT ที่ซึ่งเป็นฉนวนในการพิจารณาอย่างหนัก
โดยทาง Fédération Internationale de Football Association, หรือ International Federation of Association Football (FIFA) นั้นมีความต้องการที่จะเก็บแนวทาง NFT เอาไว้เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ของตนเอง
ทั้งนี้แล้วยังเป็นเพียงแค่การรายงานถึงข่าววงใน แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่า EA เองก็มีความพร้อมที่จะเดินต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งพาฟีฟ่า เนื่องด้วยการที่ EA นั้นได้ครองความเป็นใหญ่ภายในตลาดเกมส์กีฬาประเภทฟุตบอล (Soccer) ในเวลานี้ รวมถึงถือครองสัญญากับลีคฟุตบอลต่าง ๆ โดยตรง
ทำให้การผลิกโฉมของแบรนด์เกมส์โดยฉับพลันนั้น สามารถที่จะทำได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ล่าสุดนี้ทาง EA เองก็ได้ต่อสัญญาความร่วมมือกับสมาคมนักฟุตบอลนานาชาติ (FIFPro) ที่ซึ่งก็ให้สิทธิ์ในการใช้งานชื่อ, ใบหน้า และรูปลักษณ์ของนักฟุตบอลร้อยกว่าคนได้ ซึ่งก็จะให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับสัญญาลีคฟุตบอลต่าง ๆ อย่าง UEFA Champions League, CONMEBOL Libertadores, Premier League, Bundesliga, LaLiga Santander และอื่น ๆ โดยตรง – ไม่มีปัญหา หรือส่งผลกระทบต่ำต่อทาง EA
Peter Moore, อดีต CEO ของ EA Sports ที่ปัจจุบันได้เป็น CEO ของ Liverpool ทีมฟุตบอลประจำลีคประเทศอังกฤษ (Premier League) ได้กล่าวไว้โดยคร่าวว่า EA นั้นอาจจะมีความกังวลถึงถ้าหากต้องตกลงกับข้อตกลง หรือสัญญาที่มีแนวทางบีบบังคับโดยเฉพาะ ที่ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่มากเพียงพอจะเดินจากไปจากทั้งหมด มากกว่าจะต้องยืนยอม และใช้ร่วมกันกับผู้ซื้อสัญญารายอื่น ๆ
กล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าวไว้ว่า “เดียวก่อนนะ, พวกเราได้เสียเงินจำนวนร้อยกว่าล้านดอลลาร์ในการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา และคุณจะมาบอกผมว่า Epic Games สามารถมาร่วมด้วย และใช้งานลิขสิทธิ์ของชื่อ (แบรนด์) ที่เราได้สร้างขึ้นมา รวมถึงเราจะต้องทำการโปรโมทไปให้ด้วย และต้องมีความพร้อมเพียงกันนั้น” “ก็ไม่แปลกใจหากผมจะต้องเจรจา และสู้เพื่อรักษาสิทธิ์ของผม”
ก่อนหน้านี้นั้น ทางผู้บริหารของ EA Sports Group เองก็ได้ประกาศถึงการพิจารณาในแนวทางของการเปลี่ยนชื่อเกมส์แนวฟุตบอลของบริษัทเอง ที่ซึ่งจะทำให้เราต้องหันมาพิจารณาข้อตกลงกับทางฟีฟ่า ที่ถือว่าเป็นสัญญาแยกจากความร่วมมือและสัญญาต่าง ๆ จากบรรดาหุ้นส่วนที่ให้ด้านฟุตบอลทั่วโลก
รวมไปถึงข่าวในการจดลิขสิทธิ์ภายในชื่อ EA Sports FC ในภูมิภาคยุโรป ที่ซึ่งจะเป็นสำหรับ “ซอฟต์แวร์เกมส์คอมพิวเตอร์” และ “บริการด้านความบันเทิง” ที่ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนึ่งในความพร้อมถึงการยุติสัญญาความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กร
แต่ทั้งนี้แล้วการตัดสินใจของอนาคตในตัวสัญญา FIFA นั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ (2021)
แหล่งที่มาของข่าว : PC Gamer
สามารถติดตามข่าวเกมส์เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเกมส์
- Genshin Impact ปล่อยอัปเดตใหม่ 2.2 : เนื้อหาเกมส์ใหม่ และรองรับ 120FPS
- F1 2021 เพิ่มสนามแข่ง Imola Circuit – San Marino, Italy
