อัยการสั่งฟ้อง ‘เอกชัย’ คดี ม.110 ชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จ
อัยการสั่งฟ้งฟ้อง ‘เอกชัย’ และพวกใน คดี ม.110 และ ม.215 กรณีชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ทางอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือฟรานซิส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth), นายชนาธิป ชัยชะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ ห้าผู้ต้องหาคดี ม.110 และ ม.215 เดินทางมารายงานตัวที่สำนักงานอัยการ
หลังจากที่นักงานสอบสวน สน.ดุสิต มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ในความผิดฐาน ประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีฯ ตาม ป.อาญา ม.110 กับข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ให้เกิดความวุ่นวาย ม.215 และกีดขวางการจราจรฯ กรณีชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จพระราชินีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดย นายเอกชัย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกันตัว ส่วนจำนวนเท่าใดไม่ขอเปิดเผย คดีนี้ก่อนหน้านี้ในชั้นฝากขัง ศาลเคยไม่ให้ประกันตัวเพราะโทษสูงกลัวหลบหนี และอยู่ระหว่างการสอบสวน ต่อมาศาลปล่อยตัว วันนี้อัยการส่งฟ้อง การสอบสวนสิ้นสุดแล้ว ซึ่งเวลาผ่านมาเกือบ 5 เดือน หากตนหลบหนีก็ทำได้ง่าย
ทั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่า ตนไม่เคยคิดที่จะหนี ส่วนประเด็นที่เคยร้องขอให้อัยการสอบพยานเพิ่มนั้น เท่าที่คุยกับทนายความระบุอัยการรับ แต่ยังไม่จำเป็นต้องพิจารณาตอนนี้ เข้าใจว่าวันนี้ส่งฟ้องไปก่อน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มาขอความเมตตาจากศาล แต่ต้องการความเป็นธรรม
ขณะที่นายบุญเกื้อหนุน ได้อ่านคำแถลงอันมีสาระสำคัญสรุปได้ว่า เราไม่มีความประสงค์ หรือความพยายามที่จะกระทำตามข้อกล่าวหา และเรายืนยันในความบริสุทธิ์ของพวกเรามาตลอด แต่หลังจาก 5 เดือนผ่านไป พร้อมกับความอัปยศและความยากลำบาก พวกเราได้รับทราบถึงข้อสรุปจากอัยการได้ตัดสินใจเตรียมการส่งคดีฟ้องต่อศาลอาญา และจะเป็นช่วงการดำเนินการยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อไป ถ้าหากไม่สำเร็จ พวกเราทั้ง 5 คนจะต้องถูกขัง และถูกริดรอนเสรีภาพของพวกเราโดยทันที
“พวกเราได้มีโอกาสต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เพื่อความยุติธรรม กับเพื่อนของผมอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ และถึงขนาดนั้นเอง ผมเชื่อว่าเรายังมีอะไรอีกมากที่ยังต้องช่วยเหลือ เกื้อกูลและทำต่อ ถึงจุดนี้ ผมคงเพียงพูดแค่ว่า มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ ถ้าหากความเป็นอยู่ของผมต้องจบลงในขณะที่ถูกจองจำ
ผมจะเผชิญหน้าต่อไปโดยปราศจากความเสียใจทั้งสิ้น ต่อกรกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพร้อมรอยยิ้มและความพึงพอใจ ที่ได้รู้ว่าสิ่งที่เราได้สละชีพให้จะมีความหมาย และชื่อเสียงเรียงนามของผมจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ โดยที่รู้ว่าจิตวิญญาณ จิตใต้สำนึก และความศรัทธาของเราจะไม่มีวันถูกทำลายได้อย่างแน่นอน” นายบุญเกื้อหนุน กล่าว
ด้าน น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความผู้ต้องหา กล่าวถึงเรื่องการปล่อยชั่วคราวหากถูกยื่นฟ้อง ว่า ตามหลักการตามกฏหมายผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี จะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และก่อเหตุภยันตรายประการอื่น หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อพนักงานสอบสวน ถ้าเอาข้อเท็จจริงมาประกอบกับข้อกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 5 จะต้องได้รับการปล่อยชั่วคราว 100 เปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาได้เตรียมหลักทรัพย์คนละ 3 เเสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวหากถูกฟ้องตกเป็นจำเลย