อองซานซูจี โดนจับกุมโดย กองทัพ ส่อแวว รัฐประหาร ?
เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้นาง อองซานซูจี นักการเมืองชื่อดังของเมียนมาร์ ได้ถูกกุมตัวไว้โดย กองทัพ เมียนมาร์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการ รัฐประหาร ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา (ประมาณเวลา 6-7 โมงเช้า) นาง อองซานซูจี ได้ถูกทาง กองทัพ เมียนมาร์จับกุมตัวไว้ พร้อมด้วยประธานาธิบดีวิน มินต์ และผู้นำคนอื่น ๆ ในรัฐบาล นอกจากนี้แล้วยังได้มีการวางกำลังในเมืองหลวง และมีการรบกวนของสัญญารอินเตอร์เน็ตในเมืองหลักหลายแห่งอีกด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิด รัฐประหาร
ก่อนหน้านี้นั้นพลเอกอาวุโส มินห์ อ่อง หล่าย ได้ออกมาพูดถึงการจะ “ดำเนินการ” เพื่อจัดการกับกรณีการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งผลที่ได้ก็คือ พรรค NLD ของนางอองซานซูจีได้ชนะไปด้วยจำนวนที่นั่ง 86% ของสภา โดยทางกองทัพนั้นออกมาเรียกร้องว่าการเลือกตั้งดังกล่าวนั้นอาจจะมีการฉ้อโกงเกิดขึ้น และได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่ไม่ใช่แค่กองทัพเท่านั้นที่ออกมาเรียกร้องว่าการเลือกตั้งดังกล่าวนั้นมีความไม่โปร่งใส ทั้งพรรคการเมืองอื่น และกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ก็ออกมาเรียกร้องว่าการเลือกตั้งดังกล่าวนั้น มีการปิดโอกาสในการเลือกตั้งด้วยแนวทางที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การจำกัดสิทธิ์ไม่ให้เลือกตั้งของชาวโรฮิงญา และการไม่จัดการเลือกตั้งในบางพื้นที่เนื่องด้วยเหตุผลว่าเป็นพื้นที่สงคราม เป็นต้น
โดยทางกองทัพนั้นได้มีการวางกำลังไปทั่วเมืองหลวง เนปิดอ และเมืองสำคัญอย่าง ย่างกุ้ง, มีการดำเนินการจับกุมคนสำคัญภายในคณะรัฐบาล ร่วมไปถึงในพื้นที่เมืองต่าง ๆ และมีการดำเนินการรบกวนสัญญาณอินเตอร์เน็ตในหลาย ๆ พื้นที่สำคัญ ซึ่งก็มีการออกมาแก้ต่างว่าเป็นความขัดข้องทางเทคนิค
ซึ่งทางโฆษกของพรรค NLD นั้นได้ออกมายืนยันถึงการจับกุมตัวดังกล่าว และได้ออกมาพูดถึงในกรณีนี้ว่า “ขอให้ทุกคนนั้นอย่าทำการตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างหุนหันพลันแล่น และขอให้มีการแสดงออกตามกฎหมายด้วยเช่นกัน” ทั้งนี้แล้วเขาก็คาดว่าจะตัวเขาถูกจับกุมไปด้วยเช่นกันในภายหลัง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความวิตก และความไม่พอใจให้กับผู้คนในหลายพื้นที่ ที่ซึ่งมีความหวังว่าการดำเนินการต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่การลดอำนาจลงของทหารในปี 2011 นั้นจะนำพามาซึ่งหนทางใหม่ของประเทศ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้วนั้น ก็คงได้แต่เฝ้าดูกันต่อไปว่าจะเกิดผลกระทบอะไรต่อไปอย่างไรบ้าง
แหล่งที่มาของข่าว : BBC News
สามารถติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวต่างประเทศ