ผ่านไปแล้วสำหรับงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple โดยในงานครั้งนี้แอ้ปเปิ้ลมีโชว์นวัตกรรมใหม่ๆมากมาย ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และบริการต่างๆ พร้อมปล่อยเซอร์ไพรส์มากมาย ให้เหล่าวาสกได้ตื่นเต้นกัน
Apple Arcade หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Games Store ของแอ้ปเปิ้ลเลยก็ว่า เพราะเป็นการแยกส่วนเฉพาะเกมส์ออกมาอย่างชัดเจน และอัดแน่นไปด้วยเกมส์คุณภาพสูงจากเหล่านักพัฒนาเกมส์ชื่อดัง เช่น Capcom, Konami และอีกมากมาย ที่จับมือกับ Apple เพื่อสรรสร้างเกมส์ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านาเพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดกับสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด,
โดย Apple Arcade จะเปิดให้บริการแบบเก็บรายเดือน เพียงเดือนละ 4.99 เหรียญ และจะเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 19 กันยายนนนี้ พร้อมทดลองใช้ฟรี 1 เดือน(ในกลุ่มประเทศแรกๆนะ)
Apple TV+ ที่อัดแน่นไปด้วยซีรี่ย์คุณภาพจากแอ้ปเปิ้ลและค่ายอื่นๆมากมาย โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤษจิกายนนี้ และเซอร์ไพรส์ด้วยค่าบริการรายเดือนเพียง 4.99 เหรียญฯต่อเดือน
เท่านั้นยังไม่พอ Apple ยังมีเซอร์ไพรส์ เมื่อคุณซื้อ iPhone, iPad, MacBook หรือแอ้ปเปิ้ลทีวีรุ่นใหม่ Apple ใจดีแถมบริการ Apple TV+ ฟรี 1 ปี, นอกจากนี้ยังมีการฉายตัวอย่างซีรี่ย์ใหม่ SEE ที่ได้พระเอกอาควาแมน Jason Momoa แสดงนำอีกด้วย
iPad เป็นไปตามคาดสำหรับไอแพดสำหรับการเปิดตัวไอแพด เจนเนอเรชั่นที่ 7 ที่รูปทรงยังคงความเป็นไอแพดรุ่นเดิมเอาไว้ ปุ่มโฮมและสแกนลายนิ้วมือยังคงอยู่ ขอบจอที่หนาเตอะยังคงอยู่ แต่ครั้งนี้ไอแพดมาพร้อมหน้าจอขนาดใหม่ 10.2 นิ้ว แบบ Retina Display ที่มีให้ตความละเอียดมาถึง 3.5 ล้านพิกเซล พร้อม CPU A10 fusion ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานกับ iPad OS แบบเต็มกำลัง และรองรับการทำงานกับ Apple Pencil ได้เต็มที่ และเชื่อมต่อสมาร์ทคีย์บอร์ดได้อีกด้วย
Apple Watch เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Apple Watch Series 5 เจนใหม่ที่มาพร้อมฟังชั่นใหม่ๆ ที่เปิดหัวด้วย Always On Display หน้าจอแอ้ปเปิ้ลของคุณจะไม่ดับอีกต่อไปแต่เป็นการลดแสงและเพิ่มขึ้นเมื่อคุณยกขึ้นมาดู และ Compass หรือเข็มทิศ และอื่นๆ พร้อมเปิดตัวสองรุ่นใหม่ที่มาในตัวเรือนที่เป็นไทเทเนี่ยม และ เซรามิก.
ครั้งนี้ Apple มุ่งเน้นไปในเรื่องของการเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น พร้อมเปิดตัว 3 ฟังชั่นใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม อย่าง Apple Hearing Study ที่สามารถวัดเสียงรอบตัวของคุณและเตือนเมื่อเสียงดังกล่าวเข้าขั้นที่อาจเป็นอันตรายต่อคุณ. Apple Women’s Health Study ที่สามรถตรวจวัดรอบประจำเดือนของสภาพสตรี ความผิดปกติต่างๆขณะอยู่ในรอบเดือน. Apple Heart&Movement Study เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายและหัวใจ ซึ่งฟังชั่นเหล่านนี้ยังเป็นเวอร์ชั่นทดลอง และ Apple จะเปิดให้ผู้ใช้เข้าไปทดลองเพื่อเก็บข้อมูลนำไปพัฒนาต่อไป.
iPhone ไคลแม็กของงาน ครั้งนี้เปิดตัวสามรุ่นใหม่ตามคาด iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max โดยเริ่มต้นที่ iPhone 11 ซึ่งเป็นการอัพเกรตและแทนที่รุ่น iPhone XR ในปีที่แล้ว มาพร้อมหน้าจอใหม่ Liquid Retina Display และกล้องหลังคู่ใหม่ ที่มาพร้อมเลนส์มุมกว้างถึง 120 องศา และ Night mode, Quick take, slowfie
ขณะที่รุ่นโปรทั้งสอง แน่นอนต้องมีอะไรที่เหนือกว่า เริ่มต้นด้วยหน้าจอแบบใหม่ที่ครั้งนี้ Apple เรียกว่า Super Retina XDR และแน่นอน iPhone ใหม่ทุกรุ่นมาพร้อมชิพเซ็ตใหม่ A13 Bionic ที่ทรงพลังและครั้งนี้ยังมีการพัฒนาให้ประหยัดพลังงานอีกด้วย ขณะที่แบตเตอรี่ ทาง Apple เคลมว่า iPhone 11 Pro จะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น 4 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ขณะที่รุ่น iPhone 11 Pro Max จะยืดได้ถึง 5 ชั่วโมง และมีหัวชาร์จ 18 วัตต์เพิ่มเข้ามาให้อีกด้วย(สักที)
กล้องใหม่ที่เป็นอีกหนึงจุดเด่น ครั้งนี้ให้มาถึง 3 ตัว ตามคาด กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล F1.8 OIS ตัวที่สอง 12 ล้านพิกเซล Telephoto ระยะเลนส์ 52 มิล F2.0 OIS และเซนเซอร์ใหม่ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล F2.4 ระยะเลนส์ 13 มิล และยังมีฟังชั่นใหม่ๆมากมาย พร้อมเปิดตัวความร่วมมือกับ Filmic ผู้พัฒนาแอ้ปถ่ายวีดีโอแบบมือโปรที่เพิ่มความสามารถของกล้องสมร์ทโฟนของคุณให้เทียบเท่าระดับมืออาชีพ
สิ่งที่น่าสนใจคือราคาเปิดตัวที่เริ่มต้นด้วย iPhone 11 ที่ราคา 699 เหรียญฯ ซึ่งถูกกว่าราคาเปิดตัว iPhone XR ปีที่แล้วถึง 50 เหรียญฯ ขณะที่ iPhone 11 Pro ราคา 999 เหรียญณ และ iPhone 11 Pro Max 1099 เหรียญฯ ซึ่งเป็นราคาเดียวกับ iPhone XS และ XS Max ในปีที่แล้ว
