ข่าว

ทัพเรือ เปิดหลักฐานมัดตัว กัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา-เจนีวา

กองทัพเรือ เปิดหลักฐานมัดตัว กัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา-เจนีวา หลังสามารถยึดระเบิดรวมถึงเอกสารการใช้งาน PMN-2

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณบ้านหนองรี ซึ่งเดิมเป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา โดยจากการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ตรวจพบคลังเก็บทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกดัดแปลงจากทุ่นระเบิดดักรถถังจำนวน 16 ลูกในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งถือเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย (บ้านสามหลัง) และตรวจยึดเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นบันทึกรายละเอียดของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 โดยเนื้อหาครอบคลุมทั้งลักษณะทั่วไป การวาง และการเก็บกู้ ระบุวันที่จัดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เอกสารฉบับนี้ถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ฝ่ายกัมพูชามีการฝึกอบรมให้กำลังพลใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญ แต่เป็นการแสดงเจตนาในการใช้ “สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ต่อฝ่ายไทยอย่างชัดเจน

กองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ค.ศ. 1997 ที่สั่งห้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 แห่งอนุสัญญาเจนีวา ที่บัญญัติหลักการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารและพลเรือน

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ ครอบครอง รวมถึงดัดแปลงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว และเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพันธกรณีตามกฎหมายสากลเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการไม่เคารพหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน และกองทัพเรือขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าจะดำเนินการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button