ประวัติ โจ้ พฤทธิกร สาระกุล นักโทษคดี 112 โดนคุก 20 ปี

คำพิพากษาของศาลอาญาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ตัดสินจำคุก นายพฤทธิกร สาระกุล หรือ “โจ้” เป็นเวลา 20 ปี ในความผิดตามประมวลกฎหากอาญามาตรา 112 นำมาซึ่งคำถามใคร่รู้ถึงภูมิหลังของชายผู้นี้ เขาคืออดีตข้าราชการครู นักวิชาการอิสระ และอดีตทีมงานคณะก้าวหน้า ผู้ผันตัวจากหนอนหนังสือในจังหวัดร้อยเอ็ดสู่ผู้ลี้ภัยทางความคิด
โจ้ พฤทธิกร เด็กชายจากทุ่งกุลาฯ บัณฑิตฟิสิกส์
พฤทธิกร สาระกุล เกิดเมื่อเดือนเมษายน 2525 เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวนาจากหมู่บ้านโนนสะอาด อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด พื้นฐานเป็นคนให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างยิ่ง เขาฉายแววความเป็นเลิศทางวิชาการมาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยผลการเรียนอันดับหนึ่งของรุ่นและเกรดเฉลี่ยสูงสุด 3.95 ตลอดช่วงมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศรีธวัชวิทยาลัย ซึ่งในขณะนั้นเป็นโรงเรียนโครงการพิเศษเตรียมอุดมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้วยความมุ่งมั่นในวิถีแห่งปัญญา พฤทธิกรสอบผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผ่านระบบโควตารับตรง จนสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตวิทยาศาสตร์เต็มตัว
เส้นทางอาชีพเริ่มต้นด้วยการเป็น “ครูโจ้” สอนวิชาวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมุ่งหน้าเข้าสู่ภาคเอกชน ทำงานกับบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ในพื้นที่สมุทรปราการ และย้ายถิ่นฐานมายังเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
นิยามที่พฤทธิกรใช้เรียกตนเองเสมอคือ “ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต” เขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงปริญญาใบแรก แต่ยังคงเดินหน้าสะสมความรู้ผ่านมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จนคว้าปริญญาตรีเพิ่มอีกหลายใบ ทั้งสาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ รวมถึงสะสมสัมฤทธิบัตรในสาขาวิชาที่หลากหลาย ตั้งแต่อาชีวอนามัย เศรษฐศาสตร์ ไปจนถึงการเกษตร
เขามักใช้เวลาว่างขลุกอยู่กับกองหนังสือและห้องสมุด มีแนวคิดต่อต้านความงมงาย เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์และเหตุผล โดยประกาศตนว่าเป็น “เสรีชนปัญญาชนอีสานหัวก้าวหน้า” ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม การลดความเหลื่อมล้ำ และการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องรื้อถอนความเชื่อเดิมที่ไม่สมเหตุสมผล
อนาคตดับวูกับคดีความมั่นคง
จากนักวิชาการผู้รักการอ่าน เส้นทางของพฤทธิกรเริ่มเกี่ยวพันกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในฐานะอดีตทีมงานก้าวหน้า จุดแตกหักทางกฎหมายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัวจำนวน 10 ข้อความ ซึ่งมีเนื้อหาในลักษณะดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องเขาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวน ซึ่งยืนยันตัวตนผู้ใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียดังกล่าว ประกอบกับพยานหลักฐานแวดล้อมที่มีน้ำหนัก เชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระรวม 10 กระทง
บทสรุปคำพิพากษา
แม้จำเลยจะให้การเป็นประโยชน์จนศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 จากเดิมจำคุกกระทงละ 3 ปี เหลือกระทงละ 2 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 20 ปี แต่ในวันอ่านคำพิพากษา พฤทธิกรไม่ได้เดินทางมาศาลเนื่องจากหลบหนีไประหว่างได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสืบพยาน ส่งผลให้ศาลต้องอ่านคำพิพากษาลับหลังและออกหมายจับ เพื่อนำตัวมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลสั่งจำคุก 20 ปี “พฤทธิกร สาระกุล” คดี ม.112 หลบหนีระหว่างสืบพยาน
- ศาลฎีกา แก้โทษ “บัสบาส” คดี ม.112 ลดโทษ เหลือจำคุก 46 ปี
- สั่งฟ้อง 2 แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ม.112 เหตุติดป้ายร้องยกเลิกกฎหมาย-ปล่อยผู้ต้องขังการเมือง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





