ข่าวต่างประเทศ

ฮุน เซน อวดภาพตัวเองบัญชาการรบ สั่งให้ตอบโต้ ไม่ปล่อยไทยทำตามใจชอบ

ฮุน เซน อวดภาพตัวเองบัญชาการรบ สั่งให้ตอบโต้ ไม่ปล่อยไทยทำตามใจชอบ ปกป้องกัมพูชา หลังอดทนมากว่า 24 ชั่วโมง

สมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “หลังจากที่เราอดทนมากว่า 24 ชั่วโมงเพื่อให้เกียรติข้อตกลงหยุดยิง และเพื่อให้มีเวลาอพยพประชาชนออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย เมื่อคืนวาน เราจึงได้ตอบโต้เพิ่มเติม ทั้งเมื่อคืนและเช้าวันนี้

ตามที่นายกรัฐมนตรีไทย อนุทิน ได้ประกาศว่าจะใช้กำลังเข้ายึด 11 จุด ซึ่งเราเองก็ไม่ชัดเจนว่า 11 จุดนั้นอยู่ที่ตรงไหนบ้างเพื่อไม่ให้ยุ่งยากและไม่ต้องเสียเวลาหาตำแหน่ง กองกำลังของเราที่มีอาวุธครบทุกประเภท จำเป็นต้องตีตอบ ทุกจุดที่ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามา

เราปกป้องดินแดนของเราด้วยฐานที่มั่นที่แข็งแกร่ง พร้อมอาวุธครบมือทุกรูปแบบ ส่วนฝ่ายที่รุกราน—เมื่อพวกเขาเคลื่อนกำลังบุกเข้ามายังที่มั่นของเรา—พวกเขาไม่สามารถฝ่าฐานที่มั่นของเราได้ และหัวของพวกเขาก็ไม่ได้ทำจากเหล็ก

สถานการณ์นี้ทำให้เรามีความได้เปรียบ ในการใช้ยุทธวิธีทำลายกำลังรบของฝ่ายศัตรู ผ่านการตั้งกำลังสกัดและปะทะ

ทางด้านผู้บัญชาการทหารไทยได้ประกาศว่า เพื่อความมั่นคงของประชาชนไทย จะต้องทำลายขีดความสามารถของกองกำลังป้องกันประเทศของกัมพูชาในระยะยาว คำพูดเช่นนี้—แม้แต่ประเทศมหาอำนาจทางทหารของโลกก็ยังไม่กล้าพูดในลักษณะนี้เลย พวกเราคงไม่ได้นั่งกอดอกปล่อยให้พวกท่านทำลายเราได้ตามใจชอบแน่นอน

สุดท้ายนี้ ผมกำลังจับตามองคนบางกลุ่ม ที่เมื่อเดือนกรกฎาคมตอนกัมพูชาตอบโต้เพื่อป้องกันตัว พวกเขากล่าวหาว่าเราก่อสงคราม แต่เมื่อเรายอมอดทนและเคารพการหยุดยิง พยายามแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี พวกเขากลับกล่าวหาว่าเรากลัวไทย ไม่กล้าตอบโต้ หรือแม้แต่ยอมตัดดินแดนให้ไทยเพื่อแลกสันติภาพ และตอนนี้—เมื่อเราตอบโต้เพื่อป้องกันตัวอีกครั้ง พวกเขาจะกล่าวหาว่าอย่างไรต่อไปอีก?

กัมพูชาต้องการสันติภาพ แต่กัมพูชาถูกบังคับให้ต้องตอบโต้ เพื่อปกป้องดินแดนของเรา”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button