ข่าว

“โฆษกรัฐบาล” แจ้งเป็นภาพเก่า สมัยไทย-เขมร ยังไม่มีปัญหา อัดนิสัยมิจฉาชีพ

โฆษกรัฐบาล แจงภาพ อนุทิน ถ่ายคู่กับผู้ว่าเขมร เป็นภาพเก่า สมัยชายแดนไม่มีปัญหา อัดนิสัยมิจฉาชีพ ชอบใช้วิธีแบล็กเมล ลั่นนายกไม่หวั่นไหว

จากที่ สมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์รูป นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และ จ๋า ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยาของนายอนุทิน ถ่ายภาพร่วมกับ บาน สเรยมัม ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นภาพเก่าตั้งแต่ยังไม่มีปัญหาชายแดน เป็นเรื่องปกติน่าจะเป็นการถ่ายภาพในร้านอาหาร คิดว่าเป็นสไตล์ของทางกัมพูชาที่ชอบใช้วิธีแบบสแกมเมอร์ที่จะเอามาแบล็กเมล ซึ่งนายกฯ ทราบเรื่องนี้แล้ว ไม่ได้มีความหวั่นไหวแต่อย่างใด

เรื่องความสัมพันธ์เก่า ๆ ไม่อาจจะเอามาเปรียบเทียบกับอธิปไตยของไทยได้ ดังนั้นการปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจได้ มั่นใจในกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ทำผลงานให้เราได้เห็นมาแล้วในหลายเวที และขอให้มั่นใจในตัวนายกฯ และรัฐบาล

กรณีดังกล่าวนายกฯ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ สิ่งที่เรามุ่งหวังวันนี้มันไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับใคร แต่มันเป็นเรื่องอธิปไตยของชาติ เป็นเรื่องที่ตอนนี้คนไทยทั้งชาติรวมใจกัน อยากจะให้ตระหนักว่าวันนี้การที่ผู้นำของกัมพูชามาโพสต์ลักษณะนี้ต้องการอะไร ต้องการให้เกิดการโจมตีนายกฯ หรือไม่ ย้ำว่าภาพนี้เป็นภาพเก่าที่นายอนุทินเดินทางไปกัมพูชาในอดีต ก่อนจะมีปัญหา

ทั้งนี้ หากจะมีการปล่อยภาพเพิ่มเติมก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าดูจากภาพก็เป็นความสัมพันธ์ธรรมดา ไปร้านอาหาร ไปวัด ไมได้ไปเดินในห้องนอนเขา ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดขนาดนั้น ซึ่งเข้าใจได้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งเชื่อมั่นและอีกส่วนหนึ่งไม่เชื่อมั่น แต่ถือเป็นทัศนคติของแต่ละคน แต่อยากให้มั่นใจในทหารและกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อได้เห็นท่าทีเหล่านี้แล้ว นั่นแสดงว่ารัฐบาลซัพพอร์ตการดำเนินการเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยถูกกล่าวหาว่าคนในพรรคไปลงทุนในกาสิโนจะถือโอกาสนี้แก้ข้อกล่าวหาเลยหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะการดำเนินการทั้งหมดมันเริ่มต้นจากฝั่งเขาก่อน มีการดำเนินการที่มุ่งหมายชีวิต ซึ่งจากภาพเราจะเห็นว่าภาพของทหารที่ถูกยิง ถ้าไม่มีเสื้อเกราะคงจะเสียชีวิตไปแล้ว

“การโต้ตอบแต่ละครั้งหมัดต่อหมัดเท่ากัน น้ำหนักตัวเราเยอะกว่าเขา เขาเจ็บกว่าเราแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องของอธิปไตย เป็นเรื่องที่คาราคาซัง เป็นเรื่องที่คนไทยถามหลายครั้งว่าเมื่อไหร่จะจบสักที และรัฐบาลคิดว่าคราวนี้มันต้องจบ” นายสิริพงศ์ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button