งบอุ้มโมโตจีพี 4000 ล้าน เดือด ! มติครม.เอื้อ “อนุทิน-เนวิน” ใช้หนี้ถึงปี 74
กำลังเป็นประเด็นร้อนเวอร์ชั่นการเมืองไทย 4 เดือน ของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีที่หลังจากวานนี้ (9 พ.ย.68) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติและอดีตรมว.ยุติธรรม สาดข้อมูลเบื้องลึกงบประมาณทุ่มสะบัดจัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” (MotoGP) ร่ายยิบครม.4 เดือน “นายกฯ หนู” จัดงบล่วงหน้าร่วม 4,000 ล้าน พ่วงสัญญาผูกมัดระยะยาว 5 ปี
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไม่รอช้าออกมาวิเคราะห์อีกมุมที่น่าสนใจ โดยชี้ชัดเชิงตั้งคำถามรัฐบาลกล้าขนาดไปซื้อไลเซนซ์ลิขสิทธิแข่งศึก 2 ล้อทั้งๆ ที่โฉนดของสนามช้างบุบรีรัมย์ เซอร์กิต ยังมีคดีฟ้องร้องอยู่ได้เช่นไร ?
สำหรับงบอุ้มโมโตจีพี (Moto GP) ซึ่งเวลานี้มีหลายขั้วออกมาตั้งคำถาม ตัวอย่างพันตำรวจเอกทวีซึ่งระบุชัด ! การอนุมัติงบประมาณล่วงหน้า 3,997 ล้านบาทเศษ เพื่อจัดอีเวนต์ดังกล่าวในระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ปี 2570–2574 ซึ่งมติที่ประชุมครม. เมื่อ 4 พ.ย.68 เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาธรรมาภิบาลเชิงโครงสร้างของรัฐไทย
แม้ต่อมา สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โต้ข้อครหา พ.ต.อ.ทวี อดีตรมว.ยุติธรรม กล่าวหางบการจัดโมโตจีพีเอื้อธุรกิจบุคคลใดเป็นพิเศษหรือไม่ ? รวมถึงอีกมุมซึ่งนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย ข้องใจตัวเลขไม่คุ้มทุนทั้งหมดนั้น “ทำการบ้านน้อยไปหน่อย”
โฆษกสำนักนายกฯ คนปัจจุบัน กล่าวว่า การประเด็นที่หยิบยกมาพูดนั้นหยิบมาเพียงมุมเดียว ไม่ครบถ้วน คิดว่าทำให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานว่า อาจจะขาดประสบการณ์หรือความพยายามที่จะทำความเข้าใจ พุ่งเป้าแต่จะโจมตีทางการเมืองอย่างเดียว
นายสิริพงศ์ กล่าวกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยตั้งคำถามถึงค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้นในขณะที่การคาดการณ์คนเข้าลดลงนั้น ต้องอธิบายว่า การจัดการแข่งขัน จัดมาตั้งแต่ ปี 2561 – 2568 จัดมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ละปีมีอัตราเติบโตขึ้นทุกปียกเว้นปีหลังสถานการณ์โควิด-19 ปีสุดท้ายมีผู้ชม กว่า 2.2 แสนคน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 5 พันล้านบาทในปีนั้น แต่เวลามาคิดฐาน คือ 2 แสน คิดต่ำกว่าจำนวนฐานในปีล่าสุดซึ่งเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่ในความเป็นจริงแนวโน้มโตขึ้น โดยการคิดต่ำไว้ก่อน เพื่อให้เกิดการรัดกุมในเรื่องของการประมาณการ เพื่อให้เห็นว่า ขนาดประมาณต่ำยังมีความคุ้มค่า
เน้นย้ำว่าลิขสิทธิ์ของการจัดการแข่งขันระดับโลก มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะมีผู้รับชมจำนวนมาก นับร้อยล้านคนจากช่องทางการถ่ายทอด และคิดเป็นเงินสกุลต่างประเทศ อย่างรอบนี้คิดเป็นเงินยูโร ประมาณ 14 -17 ล้านยูโร โดยในสัญญามีอัตราการปรับขึ้น 5% ในแต่ละปี แต่เนื่องจากทำมาตั้งแต่ปี 2561 ในความเป็นจริงหากจะเข้าปีนี้ ค่าใช้จ่าย จะแพงกว่าการขึ้นมาแบบขั้นบันไดแบบนี้ด้วยซ้ำ
รายการนี้เป็นรายการเปิดสนามรายการแรกของโลก ที่ประเทศไทย จากทั้งหมด 22 สนาม ซึ่งในเอเชีย มีประเทศที่สามารถจัดการแข่งขันได้ไม่เพียงกี่ประเทศ ซึ่งมีไทยเป็นหนึ่งในนั้น เป็นสนามเปิดฤดูกาลของทุกปี นี่ต่างหาก ที่เป็นโอกาสทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย มีโอกาสมาท่องเที่ยวในเชิงกีฬา สร้างงานสร้างรายได้ สร้างแรงบันเาลใจ สร้างอาชีพ กระจายเงินสู่ท้องถิ่น

สรยุทธ เปิดโต๊ะถาม โฆษกพท. อีกคำรบ จี้สนามบุรีรัมย์อยู่ในโฉนดที่มีการฟ้องร้อง มาผูกสัญญากับรัฐไป 5 ปี เหมาะสมหรือไม่
สำหรับช่วเช้าที่ผ่านมา กรรมกรข่าว คุยนอกจอ มีโอกาสสอบถามกับนายศึกษิษฏ์ โฆษกของพรรคเพื่อไทย โดยประเด็นแรกเคลียร์ข้อสงสสัยของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการทันที ถึงกรณีรัฐบาลอ้างว่าการใข้มหกรรมกีฬาหรืออีเวนต์ที่มีสเกลใหญ่ระดับโลกจะช่วยสร้างประโยชน์กลับมาในแง่ของท่อเที่ยวนั้น ส่วนหนึ่งถือว่าถูกต้องตามข้อเท็จจริง แต่ประเด็นทุม่งบโมโตจีพี 4 พันล้านกว่าหนนี้
นายศึกษิษฏ์ชี้ชัดมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะต้องไม่ลืมว่า สนามสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่เป็นของ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด ตั้งอยู่ที่ 30/2 หมู่ที่ 4 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เป็นบ้านเลขที่เดียวกันกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และยังปรากฏชื่อ “นายเนวิน ชิดชอบ” , ”นางสาวชิดชนก ชิดชอบ” , “นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์” และ “นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง” เป็นกรรมการบริษัทฯ
ผลประโยชน์เชิงพาณิย์มหาศาล ค่าเช่าเชิงพาณิชย์ปล่อยเช่าราคาที่สูงขึ้น ข้อสังเกตข้างต้นทำให้โฆษกพรรคพท. สรุปเบื้องต้นว่า งบอุ้มโมโตฯ เที่ยวนี้อย่างไรเสียก็ปฏิเสธผลประโยชน์ทางอ้อมได้ยากจริงๆ
“สนามบุรีรัมย์ยูไนเต็ดอยู่ในโฉนดที่มีการฟ้องร้องกับการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ ดังนั้นการนำที่ดินซึ่งมีข้อพิพาทมาผูกสัญญากับรัฐไป 5 ปี เหมาะสมหรือไม่ ? จะบอกไม่มีเงินหลวงก็คงไม่ใช่ เพราะซื้อค่าไลเซนซ์ นำเงินค่าสนับสนุนจากกองทุนกีฬาฯ ลงไปใส่ในการจัดแข่งที่บุรีรัมย์จำนวนมาก
“ถึงขนาดที่ต้องไปขอบคุณ ผมก็คิดว่าอาจจะมันก็เป็นผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย” จะกล่าวว่าสนามให้ใช้ฟรีไม่คิดค่าเช่า ค่าใช้จ่ายอื่นใด แต่ในระนาบเดียวกันต้องไม่ลืมว่ามีผลประโยชน์เชิงพาณิชย์มหาศาล นอกเหนือจากค่าเช่า ที่ดินในพื้นที่บริเวณรอบๆ ที่มีการจัดแข่งขันฯ ก็ยังสามารถนำไปปล่อยเช่าได้ใสราคาที่สูงขึ้น ผลประโยชน์ทางตรงอาจไม่มีแต่สุดท้ายก็ยังมีทางอ้อมที่ไปเอื้อให้อยู่ดี

ที่ตนพยายามสื่อสาร คือ ต่อให้บอกว่าค่าเช่าไม่ต้องจ่าย ให้ประชาชนไปขอบคุณเจ้าของสนามอาจเป็นการทวงบุญคุณที่ผิดรูปแบบไปนิดหนึ่ง !
เมื่อถามการเอาที่ดินพิพาทไปทำข้อตกลงกับโมโตจีพี 5 ปี เกมือนกับเป็นตัวประกันถ้าการรถไฟฯ จะไล่จะรื้อก็จะทำได้ยากตามไปด้วยใช่หรือไม่ ? อีกฝ่ายตอบทันควันทั้งขึ้นทั้งร่องตนยังนึกไม่ออกประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากการเร่งรัดไปเซ็นสัญญายาวเป้นเวลา 5 ปี สมมติมีการฟ้องขับไล่ “คุณก็อ้างว่าถ้าขับไล่ฉันต้องเบรกสัญญาตรงนี้นะ ! ค่าเสียหายอาจตามมาอีก 4-5 พันล้านฯ หรืออะไรก็แล้วแต่ ทีนี้ประเด็นที่ตามมาคือการตรวจสอบว่า จะมีสิทธิเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ทำให้รัฐเสียหายหรือเปล่า ? อาจเกิดการกล่าวหาว่า คุณตั้งใจทำคดีนี้ทำให้ประเทศเสียหายต้องนำค่าภาษีค่าอะไรของชาติไปชดเชย จึงมองว่า อันดับแรกความเร่งด่วนที่ไปเซ็นสัญญา เพราะต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลสัญญาจะเข้ามาแค่ 4 เดือน และก็เน้นย้ำจะเร่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้ตนยังมีข้อสงสัยในความตั้งใจจริงอยู่ แต่อีกมุมกลับมาเร่งรัดการทำสัญญาที่มีการผูกมัด 5 ปี ซึ่งถ้าแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดความเคลือบแคลงไปใหญ่.
ขอบคุณคลิป : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว @sorrayuth9115
อ่านข่าวการเมืองหน้า 4 เดือนรัฐบาลอนุทิน ประเด็นเด่น-ปมร้อน ตรวจสอบที่นี่
- กกท. ชงเข้า ครม. สัปดาห์หน้า ต่อสัญญา ไทยจีพี รายการโมโตจีพี 5 ปี
- ชื่นมื่น! เนวิน พา นายกอิ๊งค์ ชมสนามช้าง บุรีรัมย์ สยบข่าวรอยร้าวสองพรรค
- การรถไฟฯ เดินหน้ายื่นถอนที่ดิน เขากระโดง เพิ่มอีก 9 แปลง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





