ข่าวต่างประเทศ

นายกฯ มาเล เหน็บแรง คุยกับทรัมป์ เป็นความลับ ถ้ามีคลิปเสียงหลุด คงไม่มีใครอยากคุยด้วย

อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย เปิดเผยรายละเอียดการสนทนาส่วนตัวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ บนรถลีมูซีน พร้อมเตือน หากผู้นำคุยกันแล้วมีคลิปเสียงหลุดออกมา จะไม่มีใครกล้าทำธุรกิจด้วยอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงรายละเอียดการพูดคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นบนรถลีมูซีนกันกระสุนของผู้นำสหรัฐฯ

อันวาร์ระบุว่า รายละเอียดบางส่วนของการสนทนาเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นความลับพร้อมย้ำอย่างชัดเจนว่า “นี่เป็นการสนทนาส่วนตัวระหว่างผู้นำ และคุณต้องเคารพในสิ่งนั้น ถ้าคุณปล่อยข้อมูลการสนทนาทางโทรศัพท์แล้ว ก็จะไม่มีใครอยากคุยกับคุณ”

การกล่าวเช่นนี้ของอันวาร์ มีการคาดการณ์ว่าอาจเป็นการพาดพิงถึงกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมาของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่เพิ่งเป็นประเด็นร้อนเมื่อไม่นานมานี้

President Donald Trump meets with Malaysia’s Prime Minister Anwar Ibrahim on the sidelines of the ASEAN Summit in Kuala Lumpur, Malaysia, Sunday, Oct. 26, 2025. (AP Photo/Mark Schiefelbein)

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า เขาใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการพูดคุยกับทรัมป์ และทรัมป์เป็นผู้ฟังที่ดี โดยหัวข้อหลักที่หารือกันคือ สถานการณ์ในฉนวนกาซา

อันวาร์เผยว่า ทรัมป์ทราบเรื่องการประชุมระหว่างเขากับผู้นำฮามาสที่กรุงโดฮามาก่อนแล้ว ซึ่งอันวาร์ได้อธิบายถึงเหตุผลที่เขาเดินทางไปที่นั่น “ผมบอกเขาว่า ผมเรียกร้องให้ฮามาสสนับสนุนโครงการสันติภาพ โดยมีประเทศเพื่อนบ้านอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) เป็นผู้สนับสนุน”

เขายังกล่าวต่อว่า เขากับทรัมป์มีมุมมองร่วมกันในบางประเด็น และในประเด็นที่เห็นต่างกันก็สามารถถกเถียงกันได้อย่างสุภาพ “ไม่มีใครโต้แย้งได้ว่าทรัมป์มุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพในฉนวนกาซา แต่ผมบอกเขาว่า หากเขาพูดถึงสันติภาพที่ยั่งยืน สันติภาพนั้นต้องครอบคลุมทุกด้าน”

President Donald Trump hand s a pen to Malaysia’s Prime Minister Anwar Ibrahim during a document signing ceremony on the sidelines of the ASEAN Summit in Kuala Lumpur, Malaysia, Sunday, Oct. 26, 2025. (AP Photo/Mark Schiefelbein)

นอกจากเรื่องสงครามแล้ว ผู้นำทั้งสองยังได้หารือถึงประเด็นทางการค้า โดยเฉพาะ อตราภาษีนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียไปยังสหรัฐฯ ที่ 19% ซึ่งอันวาร์ได้กล่าวว่าอัตราภาษียังสูงเกินไป แต่ก็ขอบคุณทรัมป์ที่เสนอการยกเว้นภาษีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์

อันวาร์ได้กล่าวปกป้องการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนของทรัมป์ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย “หากทรัมป์ไม่ได้มาที่นี่ เราก็จะไม่มีโอกาสได้แสดงความเห็นของเราต่อเขาเลย”

อ้างอิง : www.thestar.com.my

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button