สรุปดราม่าสมาคมแบดมินตันฯ เหตุ หมิว พรปวีณ์ ตบขนไก่มือ 1 ไทย เจ้าของ 4 เหรียญทอง 4 เกม เล่าละเอียดปมไม่พอใจฝ่ายพัฒนากีฬาแบดมินตัน เข้าใจผุ้ใหญ่อยากได้เหรียญทอง แต่คาใจประกาศชื่อลุยซีเกมส์ไร้ มิกซ์-หว่าหวา ทั้งที่ฝีมือไปจนผลงาน คือ แชมป์ประเทศ
ณ ชั่วโมงนี้ลืมใบแดง ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางกัปตันทีมชาติไทยที่ไปโดนไล่ออกตอนรับวช้ต้นสังกัดบีจี ปทุม ยูไนเต็ดไปได้เลย เพราะปัจจุบันปัหาที่งอกออกมาดอกล่าสุดนั้น ไปกระจายตัวในแวดวงตบลูกขนไก่อ่อนๆ แต่ดราม่าหนักหน่วงสวนทางกัความเบาดังปุยนุ่นของอุปกรณ์ เมื่อล่าสุด “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นัแบดมินตันมือ 1 ไทยและอนัดับ 6 โลกประกาถอนตัวจากซีเกมส์ 2025 ชนิดที่เหตุผลแม้เจ้าตัวนักกีฬาจะอธิบายคล้ายกระจ่าง แต่ล่าสุดร้อยเอกธรรมัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ ออกมาหล่นคำสั่งตรงแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วยด้วยตัวเอง
โดยระบุว่า ตนตัดสินใจแล้วที่จะเน่งแก้และหาทางออกในเรื่องนี้ โดยล่าสุดมีการออกคำสั่งลงมายังนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งแก้ไขดำเนินการด่วน เพราะเป็นปัญหาที่ใหญ่มากต่อวงการแบดมินตันไทย รวมถึงทีมซีเกมส์ด้วย เนื่องจาก หมิว พรปวีณ์ เป็นนักกีฬาความหวังของทีมแบดฯ ไทย ทั้งในประเภททีมหญิงและประเภทหญิงเดี่ยว นอกจากนี้ร้อยเอธรรมนัสยังแจ้งได้กำชับหนักแน่นไปยังบุคลากรทุหน่วยงานว่า อย่าให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก !
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.ที่ได้รับหนังสือการถอนตัวของพรปวีณ์ นักแบดมินตันคนเก่ง ออกมาชี้แจงภายหลังว่า ตอนนี้อาจจะยังสรุปไม่ได้แต่เรื่องการทำงานต้องเร่งกันแก้ปัญหาที่เกิด เพราะมีเวลาค่อนข้างน้อยในการเตรียมทัวร์นามเนต์ซีเกมส์
“เราไม่อยากให้มีปัญหาต่างๆเกิดขึ้น ฉะนั้นเราจะต้องเร่งหารือกับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และ ท่านถิรชัย วุฒิธรรม จะลงมาช่วยดูความขัดแย้งต่างๆ และทาง กกท.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แล้วตนได้รับเรื่องแล้วก็จะดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่เราก็ยืนยันว่าจะต้องหาทางออกด้วยกัน เมื่อนักกีฬาเก็บตัวฝึกซ้อมในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยแล้ว เราก็ตั้งความหวังว่านักกีฬาเหล่านั้นจะต้องได้แข่งขันซีเกมส์ ซึ่งน้องหมิวก็ถือว่าเป็นนักกีฬาคนสำคัญของทีมชาติไทย ทาง กกท.ก็อยากเห็นหมิวเล่นในซีเกมส์”


ฟังมุม หมิว พรปวีณ์ แถลงแจงเคลียร์ดราม่าถอนตัวซีเกมส์ เหตุข้องใจฝ่ายพัฒนากีฬาขนไก่ ปัดมีปมกกท.
พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ เจ้าของ 4 เหรียญทองซีเกมส์วัย 27 ปี กล่าวถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจไม่เข้าร่วมทัวรฦืนาเมนต์สำคัญ ซีเกมครั้งที่ 33 ซึ่งบ้านเรารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพนั้น หลักๆ คือ ไม่พอใจการทำงานของฝ่ายพัฒนาของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ไม่ปกป้องสิทธิ์ของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยในช่วงที่ผ่านมา
หมิวยังขออนุญาตยกตัวอย่างที่เป็นประเด็นขึ้นมา คือ กรณีของ “มิกซ์-หว่าหวา” รัชพล มรรคศศิธร และ นัทธมน ไล้สวน นักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมแชมป์ประเทศไทยยื่นหนังสือถึง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ, พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย รวมถึงคณะทำงานและผู้ใหญ่ในวงการแบดมินตัน เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ทั้งคู่เห็นว่า “ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรม”
เรื่องนี้ หมิว พรปวีณ์ ยืนกรานในฐานะเธอเองเป็นนักกีฬาด้วยกันและติดตามความเคลื่อนไหวของกันและกันใกล้ชิด ตีแบดฯ ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจึงทราบดีถึงความอดทนความพยายามตลอด 20 กว่าปีเพื่อจะมาติดทีมชาติ อีกฝ่ายต้องทุ่มเทขนาดไหน แล้ววันนี้ทั้งคู่ปฏิบัติตามทุกอย่างที่เข้าเกณฑ์แล้ว แต่ยังมีอะไรที่มิอาจทราบได้ซึ่งส่งผลให้ มิกซ์ รัชพลกับหว่าหวา นัทธมน มีชื่อติดทีมไปร่วมแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ได้

ยอมรับกฏกติกาที่ทางผู้บริหารสามคมแบดมินตันชุดนี้ เป็นการแข่งขันที่ได้เหรียญทอง การส่งชุดใหญ่ลงไม่มีผิดไม่มีถูก แต่คุณต้องคิดถึงใจเขาใจเรา เขาได้รับอะไรหลังจากนัน้ เด็กต้องการอะไร ต้องการเยียวยา อย่างเช่น คุณส่งแข่งรายการโอเพน่ได้หรือไม่ หรือว่ามีการแก้ปัญหาให้เขารู้สึกว่า โอเค เราไม่ติดก็จริงแต่ก็ยังมีผลลัพธ์ในแง่มุมที่ดีด้านอื่นตามมา วนกลับถึงมือของนักกีฬาตอยแทนความมุ่งมั่นได้บ้างหรือไม่
ถ้าแก้ปัญหาแบบข้งาตน หมิว ย่ำว่าคิดว่าเด็กทุกคนเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่สมาคมฯ ตัดสินใจให้ชุดนี้เข้าการแข่งขัน แต่ปรากฏสิ่งที่ได้กลับมากลายเป็นให้นักกีฬาไปฟ้งอร้องเอาเองเพื่อที่จะได้รับความเป็นธรรม
“ก็รู้สึกว่าสมาคมเป้นเหมือนผุ้ปกครองแล้วเด็กมีปัญหา คุณควรจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาไม่ใช่ให้ไปฟ้งอร้องกันเอง” นักกีฬาแบดมินตันหญิงมือ 1 ของไทยคนปัจจุบันกล่าวด้วยน้ำเสียงซึ่งบางช่วงจับสังเกตได้ว่า เธอจุกอกไม่น้อยที่ต้องออกมาเป็นกระบอกเสียงพูดถึงสิ่งที่ยากจะเอ่ยกันตรงๆ ต่อหน้าสื่อมวลชนและประชาชนที่ติดตามวงการกีฬาบ้านเราแบบเปิดหน้าหนล่าสุด
อ้างอิงข้อมูลจากไทยรัฐ “โค้ชท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอนของ “หมิว” ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และขอเข้าพูดคุย แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกทั้งการพบตัวและการโทรศัพท์ แถมทิ้งท้ายเดือดๆ ว่า “ปัญหานี้พูดอธิบายไปแล้วมีหนังสือ-มีการคุยกันนานพอสมควร ต่อหน้าสื่อก็แล้วแต่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังบิดประเด็น ไม่ยอมรับไม่รับฟังกันเลยทุกท่านเริ่มเข้าใจปัญหาหรือยังครับ”
ทั้งนี้ เมื่อ 19 ก.ย.68 ที่ผ่านมา นายรัชพล มรรคศศิธร และนางสาวนัทธมน ไล้สวน นักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมแชมป์ประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ, พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย รวมถึงคณะทำงานและผู้ใหญ่ในวงการแบดมินตัน เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ทั้งคู่เห็นว่า “ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรม”
ต่อมา “มิกซ์” รัชพล มรรคศศิธร นักแบดมินตันประเภทคู่ผสม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว สรุปปมปัญหาทั้งหมดโดยขออนุญาตใช้โพสต์นี้เป็นโพสต์สุดท้ายที่จะชี้แจงถึงการหลุดจากทีมชาติ
- ตามที่สมาคมได้ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า วิธีการทำงาน แนวคิด และการสื่อสารของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย สะท้อนถึงทัศนคติและกระบวนการตัดสินใจที่หลายคนเองก็คงพอจะเห็นภาพว่าเป็นอย่างไร แม้จะเป็นเพียงบางส่วนที่ถูกเปิดเผยผ่านสื่อ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ถูกพูดถึง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจในลักษณะที่น่ากังวล และ ในวงการนั้นรู้ดี
- ผมยอมรับว่า การเลือกนักกีฬาไปแข่งขัน ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภท ซึ่งในหลักการ ผมเห็นด้วยครับ แต่ในรายละเอียดของการชี้แจงนั้น ข้อมูลที่สมาคมนำเสนอ ไม่ได้ครอบคลุมหรือครบถ้วนกับนักกีฬาทุกคนทุกประเภท โดยเฉพาะการอ้างถึงว่าคู่ของผมตกรอบในรายการต่างๆ ซึ่งเป็นความจริงครับ แต่สมาคมกลับไม่ได้พูดถึงนักกีฬาบางคนที่ถูกเลือกไป ทั้งที่ไม่มีคู่ ไม่มีอันดับโลก ไม่มีแชมป์ประเทศไทย และไม่ได้มีผลงานในการแข่งขันรายการใดๆ นี่คือสิ่งที่ขาดความโปร่งใสและความเป็นธรรม ขนาดท่านชี้แจงยังไม่เป็นธรรมเป็นกลางเลยครับ
- ในส่วนที่ท่านพิจาราณาให้รายชื่อคนที่ 10 ไปเป็นตัวเลือก ในกรณีจะสลับเปลี่ยนไปเล่นชายคู่ ในเรื่องนี้ ท่านไม่ต้องพิจารณารายชื่อผมก็ได้ครับ แต่ทำไม ชายคู่ แชมป์ประเทศไทย ทำไมไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจาราณาด้วย หรือ เป็นผู้เล่นชายคู่ที่เป็นคู่แท้ที่ลงแข่งขันในปัจจุบันจริงๆ จากการที่ผมได้ติดตามกระบวนการพิจารณาคัดเลือกนักกีฬา ผมมีความเข้าใจว่าเกณฑ์ที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจ ได้แก่ นักกีฬาที่มีผลงานดีที่สุด นักกีฬาที่มีฟอร์มปัจจุบันดีที่สุด นักกีฬาที่ตรงตามหลักเกณฑ์มากที่สุด
- นักกีฬาที่โค้ชเห็นว่าเหมาะสมที่สุด (ตามดุลพินิจ)
“เมื่อพิจารณาตามลำดับนี้จะเห็นว่าการใช้ดุลพินิจในข้อ 4 ควรเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อมีกรณีที่คะแนนหรือผลงานไม่แตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงจะนำความคิดเห็นส่วนตัวของโค้ชมาประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม แต่ในกรณีนี้ ผมสังเกตว่ามีการนำ “ดุลพินิจ” ขึ้นมาใช้ก่อนพิจารณาจากหลักเกณฑ์ข้ออื่นๆ ส่งผลให้บางคนที่ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์หรือมีผลงานด้อยกว่า ได้รับการคัดเลือกก่อนผู้ที่มีผลงานตรงตามเกณฑ์มากกว่า ซึ่งในมุมมองของผม ถือว่าเป็นการพิจารณาที่ขาดความเป็นธรรม และอาจสร้างความเสียหายต่อขวัญกำลังใจของนักกีฬา”

“ผมเข้าใจว่าโค้ชมีหน้าที่ตัดสินใจอย่างรอบด้าน แต่หากจะใช้อำนาจในการเลือก ควรมีเหตุผลและหลักฐานประกอบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อมีการเปรียบเทียบผลงาน เช่น รายการที่ลงแข่ง อันดับโลก หรือฟอร์มปัจจุบัน ซึ่งหากเทียบกันแล้วมีความใกล้เคียงหรือเท่ากัน จึงควรใช้ดุลพินิจเข้ามาตัดสินในลำดับสุดท้าย
สุดท้ายนี้ ผมอยากให้ท่านรับทราบว่า การตัดสินใจของท่าน ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความรู้สึก และความฝันของเด็กคนหนึ่งอย่างมาก และไม่ใช่เพียงแค่ตัวผมเท่านั้น แต่รวมถึงเยาวชนและผู้ปกครองอีกหลายคน ที่กำลังมีความหวังและแรงบันดาลใจในกีฬาแบดมินตัน”
“วันนี้ท่านอาจไม่ได้เพียงแค่ “คัดคนไม่ได้ไปแข่ง” แต่ท่านได้ “ทำลายความหวัง” ของหลายชีวิตในวงการนี้อย่างแท้จริง
ขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยุติธรรมในวงการกีฬาไทยต่อไปครับ
ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้กำลังใจครับ”.
สรุปประเด็นดราม่าวงการกีฬารอบโลก เช็กข่าวด่วนประเด็นเด็ดที่น่าสนใจรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาวงการกีฬาบ้านเราและต่างประเทศเกิดขึ้น ?
- ปัญหา หมิว ถอนซีเกมส์ถึงหู ธรรมนัส ฮึ่มสั่งแก้ด่วน ! กำชับหนักอย่าเกิดอีก
- นฤมล แจงชัดงดกิจกรรมรื่นเริง ยังจัดกีฬาสี-จตุรมิตรได้ ไม่ปิดกั้นโอกาสนักเรียน
- ป๋าเต็ด ซัดแรง รัฐบาล-ส.ฟุตบอล แยกไพ่กีฬากับโค้ชที่ดีไม่ออก
- แฟนกีฬาไทยเตรียมเฮ กกท.เผย ซีเกมส์ เล็งให้ชมฟรีทุกชนิดกีฬา พร้อมโควตานักเรียน-ผู้ด้อยโอกาส
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





