การเงินเศรษฐกิจ

สายเที่ยวเฮ เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีสูงสุด 20000 เริ่ม 29 ต.ค.68

ครม. เคาะแล้ว เที่ยวลดหย่อนภาษี สูงสุด 20,000 บาท เริ่ม 29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 68 ไฮไลท์เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า เช็กเงื่อนไขที่นี่

คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาลอนุทิน ชูโรงด้วยการให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 20,000 บาท แถมอัดฉีดโบนัสพิเศษสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวในเมืองรอง ให้สิทธิ์ลดหย่อน 1.5 เท่า

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวภายในประเทศมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง คิดเป็น 14% ของ GDP แต่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยชะลอตัวลง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

มาตรการชุดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย 5 เสาหลัก ซึ่งเสาที่ 1 คือการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาหนี้สิน, เพิ่มสภาพคล่องให้ SMEs, เพิ่มการออม และการลงทุนเพื่ออนาคต

สรุป 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ครม. ได้อนุมัติ 5 มาตรการย่อย ซึ่งครอบคลุมทั้งประชาชนทั่วไป (บุคคลธรรมดา) และบริษัทเอกชน (นิติบุคคล) ดังนี้

1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว

บุคคลธรรมดานำค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สามารถนำมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง ดังนี้

1.1 ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่อยู่ในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ไม่เกิน 10,000 บาท

1.2 ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น เพิ่มจากข้อ 1.1 ได้อีกจำนวนไม่เกิน 10,000 บาท

การท่องเที่ยวเมืองรอง ประกอบด้วยจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดและพื้นที่บางอำเภอในจังหวัด 15 จังหวัด สามารถหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายตามข้อ 1.1 และ/หรือข้อ 1.2 ได้ 1.5 เท่า ของจำนวนที่จ่ายจริง (ลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท)

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนิติบุคคลจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดให้แก่ลูกจ้าง และค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนานั้น ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568

โดยจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เว้นแต่ค่าขนส่งจะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ต้องได้ใบรับที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) สามารถหักรายจ่ายดังกล่าวได้ ดังนี้

1. หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง

2 หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามข้อ 1

3. ในกรณีที่การจัดอบรมสัมมนาครั้งหนึ่ง ๆ เกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1 และข้อ 2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1 หรือข้อ 2 แล้วแต่กรณี และให้หักรายจ่ายที่ไม่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง

3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เร่งรัดการเบิกค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของวงเงินฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569 ให้พิจารณาดำเนินการในเมืองท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองเป็นลำดับแรก

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้การขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดผลการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ (เฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามปีงบประมาณ) และ อปท. ขอความร่วมมือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประสาน อปท. พิจารณาจัดการอบรมสัมมนาในท้องถิ่นอื่น และให้รายงานผลการเบิกจ่ายดังกล่าวต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐต่อไป

พร้อมทั้งกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางจะพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าเช่าที่พักและค่าอาหารสำหรับการจัดฝึกอบรมในประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

4. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พักให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม

สามารถหักรายจ่ายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ (โดยไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม) 2 เท่า ของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569 สำหรับทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ ได้แก่

1. อาคารถาวรที่มีไว้ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรม

2. เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบและยึดติดกับอาคารตามข้อ 1 เป็นการถาวร

โดยให้หักรายจ่ายเท่าแรกเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามปกติ และทยอยหักรายจ่ายเท่าที่ 2 เป็นระยะเวลา 20 รอบระยะเวลาบัญชีในจำนวนที่เท่ากันทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้เริ่มหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมแหล่งเงินสำหรับรองรับการปรับปรุงโรงแรม ที่พัก โดยธนาคารออมสินซึ่งอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

5. มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ

สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ เช่น ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตได้มีการบูรณาการร่วมมือกรมการปกครองให้นำผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิตต่อไป

ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 5 ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า มาตรการทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นให้ GDP ในปี 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.04 – 0.05% และส่งผลดีต่อเนื่องไปยังปี 2569

ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ลดหย่อนภาษีสูงสุด 20,000 บาท
ภาพจาก : prd

ข้อมูลจาก : prd

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button