ทองร่วงแรง 2,500 บาท คาด เทขายทำกำไร ไม่ใช่สัญญาณเศรษฐกิจทรุด

ราคาทองคำดิ่งหนักเช้านี้ (22 ต.ค.) ทั้งในและต่างประเทศ หลังพุ่งทำสถิติสูงสุด นักวิเคราะห์ชี้ปัจจัยหลักมาจากแรงเทขายทำกำไร-ปัจจัยทางเทคนิค ไม่ใช่สัญญาณเศรษฐกิจทรุด
เปิดตลาดเช้าวันนี้ (22 ต.ค. 68) ราคาทองคำในประเทศดิ่งลงอย่างรุนแรงถึง 2,500 บาท โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำแท่งขายออกที่ 63,750 บาท และทองรูปพรรณ 64,550 บาท ซึ่งเป็นการปรับตัวลงตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกที่ร่วงลงหนักถึง 5-6% ในวันเดียวก่อนหน้า ถือเป็นการดิ่งลงแรงที่สุดในรอบหลายปี
คาดสาเหตุหลัก เทขายทำกำไรหลังราคาพุ่ง ไม่ใช่สัญญาณเศรษฐกิจถดถอย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชี้ว่า การปรับตัวลงอย่างรุนแรงครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจาก แรงเทขายทำกำไร (Profit Taking) หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่องตลอดทั้งปี (YTD +60%) เมื่อราคาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงเกิดแรงขายเพื่อล็อกกำไรออกมา ประกอบกับปัจจัยทางเทคนิคอื่น ๆ
แม้การร่วงลงอย่างหนักอาจทำให้หลายคนกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ยังไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในทันที
การร่วงลงของทองคำเกิดขึ้นพร้อมกับการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งโดยปกติหากตลาดกังวลเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ดอลลาร์มักจะอ่อนค่าลงพร้อมกับทองคำที่ปรับตัวขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
มีสัญญาณการล้างพอร์ต (Long Liquidation) ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นการขายทางเทคนิคเพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่การขายเพราะปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแย่ลง
มีปัจจัยบวกเข้ามาในตลาด เช่น สัญญาณการคลี่คลายของภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพื่อหลบภัยลดลงชั่วคราว
การปรับฐานครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น การย่อตัวทางเทคนิคในแนวโน้มขาขึ้นใหญ่ มากกว่าจะเป็นการจบรอบ ตราบใดที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกยังอยู่ในช่วงผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูง และตั้งจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
สำหรับนักลงทุนในประเทศ ต้องพิจารณาทั้งราคาทองคำในตลาดโลกและ ค่าเงินบาท ประกอบกัน เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าหรืออ่อนค่าสามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ราคาทองวันนี้ 21 ตุลาคม 68 พุ่งแรง 1100 บาท เปิดบทวิเคราะห์-นักลงทุนแห่จับตา
- ราคาทองวันนี้ 19 ต.ค.68 ทองคำแท่ง-รูปพรรณ ขึ้นลงหยุดที่บาทละเท่าไหร่ ?
- ราคาทองวันนี้ 1/10/68 ทองขึ้น 1,000 บาท ทุบสถิติทะลุ 60,000 บาท
ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News: