อโมริม เตรียมเดิมพันครั้งใหญ่ ส่ง “อูการ์เต้” ลงตัดเกมลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือดวันนี้ 19 ตุลาคม 2568 เช็กความพร้อม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังสื่อเมืองแมนเชสเตอร์เผย รูเบน อโมริม กุนซือโปรตุกีสอาจกำลังส่งสัญญาณบางอย่างถึง 11 ผู้เล่นตัวจริง ที่จะลงสนามพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คืนนี้ 4 ทุ่มครึ่งเริ่มยิงสด
เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 ต.ค.) เมื่อกล้องของ Sky Sports ได้รับอนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพการฝึกซ้อมที่แคร์ริงตัน และได้พบว่า รูเบน อโมริม กุนซือปีศาจแดงวัย 40 ปี ได้ให้วันหยุดพิเศษกับบรรดาผู้เล่นที่เพิ่งจะกรำศึกหนักจากเกมทีมชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “คาเซมิโร”
แน่นอนว่า หากอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เต็มร้อย กองกลางตัวเก๋า คือ ตัวเลือกแรกในแดนกลางอย่างไม่ต้องสงสัย แต่การที่เขาต้องเดินทางข้ามโลกไปถึงเอเชียเพื่อลงเล่นเกมอุ่นเครื่องให้บราซิล “เต็ม 90 นาที ทั้งสองนัด” นั้น คือฝันร้ายที่ผู้จัดการทีมทุกคนต่างภาวนาไม่ให้เกิดขึ้น

แต่ด้วยวัย 33 ปี และสภาพร่างกายที่บอบช้ำจากการเดินทาง การจะคาดหวังให้มิดฟิลด์แซมบ้ารายนี้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่ต้องใช้พลังงานสูงสุดอย่างการบุกไปเยือนแอนฟิลด์นั้น ดูจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป
และนั่นคือจุดที่ทำให้ชื่อของ “มานูเอล อูการ์เต้” กลับมาอยู่ในสมการอีกครั้ง
กองกลางชาวอุรุกวัย วัย 24 ปี ไม่ได้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติ ทำให้เขามีสภาพร่างกายที่สดใหม่กว่าคาเซมิโรอย่างเทียบกันไม่ได้ และที่สำคัญคือ อโมริมเคยสร้างเรื่องน่าประหลาดใจแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

ย้อนกลับไปในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ หลังเบรกทีมชาติเมื่อเดือนกันยายน อโมริมได้ตัดสินใจส่ง “อูการ์เต้” ลงเป็นตัวจริงอย่างไม่มีใครคาดคิด และเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีของครึ่งแรกในเกมนั้น
อย่างไรก็ตาม การเดิมพันกับอูการ์เต้ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะฟอร์มการเล่นของเขายังคงขาดความสม่ำเสมอ และดาวเตะรายนี้ก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้อย่างถาวร แม้จะเคยเป็นลูกทีมคนโปรดของอโมริมสมัยอยู่ที่สปอร์ติง ลิสบอนก็ตาม
แต่ความหวังสุดท้ายอาจจะอยู่ที่ภาพจำอันยอดเยี่ยมของเขาที่แอนฟิลด์
ในเกมที่ยูไนเต็ดบุกไปเสมอลิเวอร์พูล 2-2 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อูการ์เต้ได้จับคู่กับ ค็อบบี ไมนู ในแดนกลางและโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดจนทำให้หลายคนเชื่อว่านั่น คือ ผู้เล่นที่สมควรแกการที่สโมสรทุ่มเงินกว่า 42 ล้านปอนด์คว้าตัวมาอย่างแท้จริง
ดังนั้น ในการบุกไปเยือนแอนฟิลด์วันอาทิตย์นี้ อโมริม กุนซือใหญ่กำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญ เขาจะเลือกประสบการณ์ระดับโลกที่อ่อนล้าของ “คาเซมิโร” หรือจะเลือกความสดใหม่ที่คาดเดาไม่ได้ของ”อูการ์เต้” รายชื่อ 11 ตัวจริงในเกมแดงเดือดคืนนี้ (19 ต.ค.) จะบอกเราทุกอย่างเกี่ยวกับสภาพจิตใจของกุนซือผู้นี้
ที่มา : Manchestereveningnews

ทั้งนี้หากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูลและแมนฯ ยูไนเต็ด เจอกันมาแล้วกว่า 66 ครั้ง เป็นลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 20 ครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะไป 29 ครั้ง และเสมอกันไป 17 ครั้ง
“แมนฯ ยูไนเต็ด” มีสถิติเล่นในบ้านที่ดีกว่าลิเวอร์พูล โดยเอาชนะไปได้ 17 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลเอาชนะไป 12 ครั้ง ด้านเกมเยือน ขุนพลเร้ดเดวิลส์มีสถิติที่ดีกว่า โดยเก็บชัยชนะเกมนอกบ้านได้ 12 ครั้ง ส่วนหงส์แดงชนะไป 8 ครั้ง โดยศึกแดงเดือดนัดล่าสุดนี้ ถือเป็นนัดที่ 245 ที่สองอริสำคัญพบกัน
ขณะที่ “เกมแแดงเดือด” ที่ยิงประตูกันมากสุดนั้น ต้องย้อนไปตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดียังเรียกว่า “ดิวิชัน 1” เมื่อ 25 มีนาคม 1908 โดยลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 7 – 4 โดยยิงประตูรวมกันไปทั้งสิ้น 11 ประตู
แมตช์แดงเดือดที่ ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยผลสกอร์มากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2023 ผลรวมสกอร์ 7 – 0 ส่วนวันแดงเดือดที่แมนฯ ยูชนะลิเวอร์พูลขาดลอยที่สุด เกิดขึ้นในศึกดิวิชัน 1 เมื่อวันที่ 5 พ.ค.1928 ด้วยสกอร์ 6 – 1
สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบ แมนฯ ยูไนเต็ด จะลงเตะคืนนี้ (19 ต.ค.) ถ่ายทอดสดเวลา 22.30 น.








อ่านข่าวกีฬาประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2025
- เปิดก่อนได้เปรียบ(มั้ง) เพจลิเวอร์พูล โพสต์รูปถล่มแมนยู 7-0 ก่อนศึกแดงเดือดสุดสัปดาห์นี้
- เฟอร์ดินานด์ ตอบโต้ คาร์ราเกอร์ วิจารณ์ด้อยค่า คาเซมิโร่ หลังเกมแดงเดือด
- รอดไม่รอด สื่อเผยแล้ว บอร์ดแมนยูสั่งปลด เทน ฮากหรือไม่ หลังแพ้แดงเดือดคาบ้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: