เหยื่อแก๊งคอลฯ ชาวเกาหลีใต้ เล่านาทีสยอง ในกัมพูชา เผยถูกทุบตีด้วยท่อเหล็ก-ช็อตไฟฟ้า

เปิดใจเหยื่อเกาหลี เผยประสบการณ์นรกในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา ถูกทารุณด้วยท่อเหล็ก-ช็อตไฟฟ้า ถูกขายต่อเป็นทอดๆ ซ้ำเห็นคนถูกฆ่าตายต่อหน้า
สำนักข่าวเกาหลีใต้ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของชายชาวเกาหลีใต้ 2 คน ที่เพิ่งได้รับการช่วยเหลือจากฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ทั้งคู่ได้เปิดเผยประสบการณ์เลวร้ายที่ต้องเผชิญกับการถูกทุบตีและช็อตไฟฟ้ามานานหลายเดือน จนหนึ่งในนั้นยังคงมีอาการหวาดผวาและกล่าวว่า “ผมยังสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงไขกุญแจ”
ชายทั้งสองคนซึ่งระบุชื่อเพียง นาย A (อายุ 28 ปี) และ นาย B (อายุ 35 ปี) ถูกหลอกด้วยข้อเสนองานออนไลน์เงินเดือนสูง ก่อนจะพบว่าตนเองติดอยู่ใน “เหวินฉี” (wenqi) ซึ่งเป็นคำภาษาจีนที่ใช้เรียกฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลลวง “งานรายได้สูง” สู่ “นรกบนดิน”
นาย A ซึ่งเคยทำงานในบริษัทเกาหลี ถูกหลอกด้วยประกาศรับสมัครงานทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่เสนอเงินเดือนสูงถึง 2-3 แสนบาท พร้อมที่พักและอาหารเกาหลี แต่เมื่อเขาบินมาถึงกัมพูชากลับถูกพาตัวไปยังฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทันที เมื่อเขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ก็ถูกทุบตีด้วยท่อเหล็กและถูกย้ายไปยัง “เหวินฉีหมายเลข 10” ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ที่โหดร้ายที่สุดใกล้เมืองปอยเปต
ส่วนนาย B ซึ่งทำงานอยู่ในเวียดนาม ก็ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน เมื่อเขาพยายามหลบหนี ก็ถูกจับตัวและขายต่อให้กับกลุ่มอื่นในราคา 3,000 ดอลลาร์ โดยค่าตัวของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกย้ายตัว ผู้คุมคนหนึ่งข่มขู่เขาว่า “ถ้าอยากออกไป ก็จ่ายเงิน 8,000 ดอลลาร์ที่เราจ่ายไปเพื่อพาแกมาที่นี่ บวกกับค่าอาหาร ที่พัก และแม้กระทั่งอากาศที่แกหายใจเข้าไป”

การทรมานรายวันและสภาพไร้มนุษยธรรม
ภายใน “เหวินฉี” ไม่มีคำว่าสิทธิมนุษยชน ทั้งคู่กล่าวว่า “เราถูกปฏิบัติแย่ยิ่งกว่าหมาหรือไก่” คนสิบสองคนต้องนอนเบียดกันในเตียงสองเตียง ประทังชีวิตด้วยบะหมี่เพียงมื้อเดียวต่อวัน ถูกล่ามโซ่ที่ข้อเท้าในตอนกลางวัน และถูกใส่กุญแจมือล่ามไว้กับเตียงในตอนกลางคืน
พวกเขาเล่าว่า “ห้อง G106” คือห้องทรมานที่น่ากลัวที่สุด เหยื่อจะถูกแขวนจากเพดานหรือถูกช็อตด้วยกระบองไฟฟ้า “ชายชาวจีนคนหนึ่งพยายามหลบหนีและถูกทุบตีจนเสียชีวิตต่อหน้าเรา” นาย B เล่า “ผู้จัดการขู่ว่าจะเผาร่างเราในเตาเผาถ้าพยายามทำแบบเดียวกัน” นาย A กล่าวเสริมว่า “พวกเขาบังคับให้ผมเช็ดคราบเลือดออกจากกำแพง กลิ่นเลือดยังติดมือผมอยู่เป็นสัปดาห์”

ความพยายามหลบหนีและเสียงจากผู้รอดชีวิต
หลังจากความพยายามหลบหนีครั้งแรกล้มเหลวและถูกทรมานอย่างหนัก ทั้งสองก็ยังไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดก็หาช่องโหว่ของระบบ Wi-Fi และส่งข้อความบอกตำแหน่งของตนเองออกไปได้สำเร็จ ข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปถึงครอบครัวและสำนักงานของ ส.ส. พัค ชาน-แด ในกรุงโซล นำไปสู่การบุกช่วยเหลือโดยตำรวจท้องที่ในวันที่ 29 กันยายน หลังจากที่พวกเขาถูกกักขังนานถึง 160 วัน
ปัจจุบันทั้งสองยังคงอยู่ในการคุ้มครองของตำรวจในกัมพูชา แต่ยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีใต้ได้ “ตอนนี้ผมแค่อยากกลับบ้านให้เร็วที่สุดแม้เพียงวินาทีเดียว ผมแค่อยากเจอครอบครัว” นาย A กล่าวทั้งน้ำตา เขาประเมินว่าน่าจะมีชาวเกาหลีใต้อย่างน้อย 1,000 คนที่ยังติดอยู่ในศูนย์เหล่านี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้เข้ามาจัดการปัญหานี้อย่างจริงจังมากขึ้น
ที่มา: The Korea Times
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “คณะพิเศษเกาหลีใต้” เข้าพบ “ฮุน มาเนต” คุยปราบแก๊งสแกมเมอร์
- แรงงานกัมพูชาในเกาหลีใต้ โอดโดนเลือกปฏิบัติ นายจ้างแห่ไม่รับทำงาน พนมเปญอ้างล้างดงสแกมเมอร์
- เกาหลีใต้ เอาจริง สั่งห้ามไป “ปอยเปต” ใครละเมิด โดนกฎหมายลงโทษ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: