ข่าว

แห่ชื่นชม หัวจิตหัวใจทีมหมอผ่าตัด ขนผู้เชี่ยวชาญข้ามจังหวัด “ช่วยลูกช้างใจสู้”

แห่ชื่นชมหัวใจทีมแพทย์หลังจาก โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ร่วมกับสัตวแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเกือบทุกหน่วยงาน ระดมกำลังผ่าตัดใส่เหล็กดามขา ลูกช้าง ถูกแม่ทำร้ายกระดูกหัก พร้อมอัปเดตอาการเจ้าไอยราตัวน้อยแต่ใจสู้ล่าสุด

เรื่องราวสุดประทับนี้ ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 หลังจากที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย (Elephant Hospital-TECC) ได้รับความร่วมมือจากทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดรักษาลูกช้างตัวผู้ อายุ 8 วัน ซึ่งถูกส่งตัวจากพื้นที่แม่วาง จ.เชียงใหม่ มารักษาที่รพ.ช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกแม่ช้างทำร้ายตั้งแต่วันแรกที่คลอด

โดยทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันผ่าตัด เพื่อแก้ไขภาวะกระดูกขาหน้าท่อนบนหัก มีการใส่เครื่องยึดตรึงกระดูกภายนอก

ต่อมาหลังการผ่าตัดนานกว่า 3 ชม. เจ้าลูกช้างใจสู้ ! ก็มีเหล็กดามขาและค่อย ๆ ฟื้นจากการวางยาสลบ โดยไม่งอแงใดๆ

ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC

อย่างไรก็ดีรายงานหลังการผ่าตัด ลูกช้างตัวนี้ยังต้องฟื้นฟูสุขภาพ ทำกายภาพบำบัดจัดการด้านโภชนาการและพฤติกรรมซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน โดยก่อนหน้านี้ในช่วงที่รับเข้ามารักษาในวันแรก สัตวแพทย์ตรวจร่างกายโดยละเอียดพบว่า ลูกช้างอยู่ในภาวะขาดน้ำ

ระดับน้ำตาลต่ำ และพบการบวมของขาหน้าขวา ด้วยเหตุนี้ึงจำเป็นต้องส่งเอกซเรย์ กระทั่งพบว่า “กระดูกขาหน้าท่อนบนหัก” เป็น 2 ท่อน

เบื้องต้นให้สารน้ำและสารให้พลังงาน รวมทั้งจัดท่านอนให้เหมาะสมบนวัสดุรองนอน เตียงลม และใส่เฝือกอ่อนประคองจำกัดการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้หัวกระดูกไปทำลายเนื้อเยื่อมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ คณะสัตวแพทย์ได้ประชุมระดมสมองเพื่อวางแผนการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตลูกช้าง ซึ่งได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน ทั้งจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สำหรับการผ่าตัดในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนทั้งจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ม.เกษตรศาสตร์ สัตวแพทย์จากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สัตวแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านการวางยาสลบจากโรงพยาบาลรักษานานาสัตว์ รวมทั้งแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกจากโรงพยาบาลและจากคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่.

เปิดโพสต์คำชม ! ส่งตรงจากคนทั่วไปถึง “ทีมแพทย์ระดมช่วยลูกช้าง” สุดความสามารถ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การระดมสรรพกำลังของทีมสัตว์แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานนั้น เป็นสิ่งที่ใครต่อใครเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว ล้วนจะอดแซ่ซ้องและร่วมแสดงความยินดีต่อการที่ได้ปรากฏภาพการใช้วิชาควาสามารถเพื่อช่วยเหลือสัตว์ร่วมโลกที่แม้จะเป็นแค่เจ้าช้างตัวน้อย แต่สิ่งที่น่าซูฮกยิ่งกว่ใดๆ คือ หัวใจที่มุ่งมั่นจะช่วยและเดินหน้าผ่าตัดเคสที่ไม่ง่ายนี้ จนลุล่วงตามแผนจนสำเร็จตามกระบวนการที่ถึงเวลานี้ก็ยังต้องเฝ้าดูแลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ตัวนี้อมย่างใกล้ชิด

ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC
ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC

“สตาร์ทเครื่องอวยแป๊บค่ะ เริ่ม!!! เจ้าจิ๋วรู้ตัวมั้ยเนี่ย ว่าเทอโชคดีมากๆเลยนะ ที่ได้มาเจอคูมหมอที่สู้เต็มที่ขนาดนี้”

“ก่อนผ่า: เฝ้าดูแลอดหลับอดนอน ประสานงานจนได้ความร่วมมือทั้งจากหมอคน หมอน้อนหมา และสัตว์แพทย์ด้านผ่าตัด ด้านดมยา และหมอจ๊างง กี่ฝ่ายเนี่ย โหๆ ที่พีคคือ เป็นความร่วมมือตั้งกี่หน่วยงานเนี่ย ทั้งรัฐและเอกชน รร.แพทย์ อ่านไป โอ้โหไป ไหนจะเครื่องเอกซเรย์อันบิ๊กเบิ้มที่บริษัทกรุณาให้ยืมมาใช้”

“แค่นึกว่าเอาหมอที่มีภารกิจยุ่งตลอด เดินทางไกลข้ามจังหวัดข้ามภาค เอามารวมตัวกันได้ในวันเดียวกัน ใช้พลังลมปรานไปเท่าไหร่คะ”

“ตอนผ่า ไม่ง่ายนะคะ เคสที่ไม่เคยเจอ ชุดfluก็หนัก แต่คูมหมอทุกท่านก็พยายามจนสำเร็จ มันเริ่ดมันปังง มันไม่ใช่จบแค่การผ่า เพราะหลังผ่า หมอก็ต้องมาเฝ้าผู้ป่วยกันต่ออีก”

“ขอบคุณแทนน้องมากเลยนะคะ นึกภาพแล้วมันซึ้งใจจริงๆค่ะ ขอให้ผลการรักษาครั้งนี้ออกมาดีค่ะ(หรือไม่ว่าผลจะยังไง ทุกคนบนโลกและดาวอังคารมองเห็นค่ะ ว่าหมอสู้เพื่อผู้ป่วยของเค้าแค่ไหน) การแพทย์น้อนจ๊างเราก็ได้พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เย่ๆ”

“แล้วทั้งหมดนี้ ตามนโยบาลคือคชบาลไม่เรียกเก็บค่ารักษา ใครพอมีทุนมีกำลัง มาสนับสนุนคชบาลกันเถอะค่า เครื่องอวยทำงานเสร็จแล้วและภูมิใจกับความก้าวหน้าในครั้งนี้มากกกก (เรานี่มันทีมอวยคูมหมอชัดๆ )” คอมเมนต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งต่อมามีคนเข้ามาตอบกลับเชิงทีเล่นทีจริงด้วยว่า

“หมอบอกว่าไม่ต้องอวยมาก สั่ง KFC มาส่งดีกว่า แก้เคล็ด ถ้าเวรจะเยินขนาดนี้”.

ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC
ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC
ภาพ Facebook @elephanthospital.TECC

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button