การเงินเศรษฐกิจ

สมัครงานแล้วเงียบกริบ? ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่เรซูเม่ถูกปัดตกเพราะ AI

เปิดเบื้องหลังระบบ AI คัดกรองใบสมัครงาน บริษัทใหญ่ใช้เป็นด่านแรก หลายคนตกม้าตาย ไม่โดนเรียกสัมภาษณ์ เผยวิธีทำเรซูเม่ให้ ‘หุ่นยนต์’ เข้าใจและชื่นชอบ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ HR ตัวจริงเรียกสัมภาษณ์ พร้อมเครื่องมือช่วยเช็กฟรี

ในยุคนี้หลายคนเจอประสบการณ์เดียวกัน สมัครงานไปหลายสิบที่ โปรไฟล์ก็ตรงกับตำแหน่งที่เปิดรับ แต่กลับไม่มีบริษัทไหนติดต่อกลับมาสักที จนท้อแท้ เกิดความสงสัยว่าหรือสกิลที่เราใส่ในเรซูเม่ไม่เจ๋ง ไม่ดีพอ

แต่ความจริงแล้ว ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของคุณ แต่อยู่ที่ระบบ Ai ทำให้ เรซูเม่ไม่เคยถูกส่งไปถึงมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล (HR) เลยด้วยซ้ำ

ปัจจุบัน บริษัทขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งในต่างประเทศและบริษัทชั้นนำในไทย ได้นำระบบ AI ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ระบบติดตามผู้สมัคร (Applicant Tracking System หรือ ATS) เข้ามาเป็นด่านแรกในการคัดกรองใบสมัครจำนวนมหาศาล

หน้าที่หลักของ ATS คือการสแกนเรซูเม่ของผู้สมัครทุกคน เพื่อจัดลำดับ คัดกรองหาคนที่มีคุณสมบัติตรงกับ “คีย์เวิร์ด” ที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครงานมากที่สุด เรซูเม่ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ของระบบ AI ก็จะถูกปัดตกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ HR จะมีโอกาสได้เห็นด้วยซ้ำ

2 กับดักสำคัญที่ทำให้เรซูเม่ถูก AI ปฏิเสธ

1. รูปแบบสวยงาม แต่หุ่นยนต์อ่านไม่ออก

เรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม ใช้กราฟิกเยอะๆ แบ่งเป็นหลายคอลัมน์ หรือใช้ฟอนต์แปลกตา มักพบบนเทมเพลตสำเร็จรูปดาวน์โหลดฟรีในอินเตอร์เน็ต แม้จะดูน่าสนใจในสายตามนุษย์ แต่สำหรับ ATS แล้ว สิ่งเหล่านี้คือสิ่งไร้ประโยชน์ ระบบไม่สามารถอ่านและดึงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ทำให้ตีความประวัติการทำงานหรือทักษะของคุณผิดเพี้ยนไป

ผลลัพธ์คือเรซูเม่ของคุณได้คะแนนน้อย ถูกคัดออก

2. ขาดคีย์เวิร์ดที่ตรงกับตำแหน่งงาน

ATS ทำงานโดยการจับคู่คำในเรซูเม่ของคุณกับคำในประกาศรับสมัครงาน (Job Description) หากในประกาศระบุว่าต้องการคนมีทักษะ “Data Analysis” แต่ในเรซูเม่คุณเขียนว่า “Experienced in reviewing numbers” ระบบ AI อาจไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจว่า 2 อย่างนี้คือสิ่งเดียวกัน เรซูเม่ของคุณจึงถูกมองว่าขาดคุณสมบัติสำคัญไป

ทำอย่างไรให้เรซูเม่ผ่านด่าน AI ไปถึงมือ HR

การปรับเรซูเม่ให้เป็นมิตรกับ ATS ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้

ใช้รูปแบบเรียบง่าย เลือกเทมเพลตแบบคอลัมน์เดียว ไม่มีตารางหรือกราฟิกที่ไม่จำเป็น ใช้หัวข้อมาตรฐาน เช่น ประสบการณ์การทำงาน, การศึกษา, ทักษะ และใช้ฟอนต์ที่อ่านง่ายอย่าง Arial, Helvetica หรือ Times New Roman

อ่านรายละเอียดของตำแหน่งงานที่สนใจอย่างละเอียด ดึงคีย์เวิร์ดสำคัญเกี่ยวกับทักษะ หน้าที่ความรับผิดชอบ และคุณสมบัติ มาใส่ในเรซูเม่ของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ปรับคีย์เวิร์ดให้ตรงกับตำแหน่งงาน

แทนที่จะบอกแค่ว่าทำอะไร ให้บอกว่าทำแล้วเกิดผลลัพธ์อะไร เช่น แทนที่จะเขียนว่า “ดูแลแคมเปญการตลาดออนไลน์” ให้เปลี่ยนเป็น “บริหารแคมเปญการตลาดออนไลน์ เพิ่มยอดขายขึ้น 15% ในไตรมาสล่าสุด” ตัวเลขที่ชัดเจนจะช่วยให้ทั้ง AI และ HR เห็นคุณค่าของคุณมากขึ้น

5 เทคนิคสัมภาษณ์งาน ให้ได้งาน ตอบแบบไหนถูกใจ HR จบใหม่ก็ทำได้

เครื่องมือช่วยชีวิตคนหางานยุคใหม่

การตรวจสอบ ปรับแก้เรซูเม่ด้วยตัวเองตามแนวทางข้างบน อาจยิบย่อยน่าปวดหัว โชคดีที่ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยผู้สมัครงานโดยเฉพาะ หนึ่งในนั้นคือ Resume Captain ช่วยสแกนเรซูเม่ของคุณเทียบกับรายละเอียดของตำแหน่งงานที่ต้องการสมัคร พร้อมให้คำแนะนำว่า รูปแบบเรซูเม่เป็นมิตรกับ ATS หรือไม่ ระบบจะทอดลองตรวจสอบว่า AI สามารถอ่านข้อมูลในเรซูเม่ของคุณได้ถูกต้องหรือไม่, ระบบจะวิเคราะห์และให้คะแนนความเข้ากันได้ พร้อมแนะนำว่าควรเพิ่มหรือปรับแก้คีย์เวิร์ดจุดไหนบ้าง ให้คำแนะนำว่าประโยคส่วนไหนคลุมเครือ ควรเขียนให้กระชับ แสดงผลงานให้โดดเด่นขึ้นอย่างไร จุดไหนควรปรับปรุง

การสละเวลาตรวจสอบและปรับแก้เรซูเม่เพียงเล็กน้อย อาจเป็นตัวตัดสินว่าใบสมัครของคุณจะได้ไปต่อหรือถูกคัดทิ้งตั้งแต่ด่านแรก ในยุคที่ AI มีบทบาทมากขึ้น การเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูสู่โอกาสการได้สัมภาษณ์งานในฝันของคุณ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button