ลาออกแล้ว “ครูใช้ฟุตเหล็กตีเด็ก” สพป. เดินหน้าสอบต่อ แม้พ้นหน้าที่สอน

ครูฟุตเหล็กตีหน้าเด็ก ยื่นลาออกแล้ว เด็ก ผอ.โรงเรียนแม่จางชี้แจงอนุมัติตามความประสงค์ เชื่อช่วยลดกระแส สพป.ย้ำเดินหน้าสอบต่อแม้พ้นหน้าที่สอน
กรณีเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถูกครูประจำชั้นชายอายุ 23 ปี ซึ่งเป็นครูผู้ช่วยลงโทษโดยการใช้ฟุตเหล็กตีเข้าที่ใบหน้าของเด็กทั้งสองข้าง จำนวน 14 ครั้ง แถมตบปาก หยิกคอและทำโทษไปล้างห้องน้ำ ตามที่น้องได้เล่าให้ฟัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเรื่องผู้ปกครอง คือ แม่เด็กได้พาบุตรไปตรวจร่างกายที่ รพ.แม่เมาะ และเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่เมาะ โดยล่าสุด วันนี้ (6 ต.ค.แม่ได้พาน้องเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพที่เข้าร่วมรับฟังและชักถาม ซึ่งเป็นการสอบปากคำเด็กครั้งแรก ในเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้าน นายธนายุทธ คำพีระ ในฐานะรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต1 ลำปาง ได้เข้าร่วมประชุม กับนายนายบุญศักดิ์ นาคอ่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนสบป้าดวิทยา รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่จาง เจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และท้องถิ่น รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางในการติดตามความคืบหน้าของคดีของเด็ก รวมถึงการดูแลสวัสดิภาพเด็กในโรงเรียน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก
ขณะที่ นายนายบุญศักดิ์ นาคอ่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนสบป้าดวิทยา รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่จาง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ครูผู้สอนได้ยื่นหนังสือลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบให้กับตนเองแล้ว และมีการพิจารณาอนุมัติให้ครูลาออกตามความประสงค์ โดยเชื่อว่าหากครูลาออกแล้วจะสามารถลดกระแสสังคมในขณะนี้ลงได้
ทั้งนี้ นายธนายุทธ กล่าวด้วยว่า แม้ครูจะยื่นใบลาออกแล้ว แต่ การสืบสวนและสอบสวนของทาง สพป.ก็จะยังคงดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น ตามขบวนการไม่เกี่ยวกับการลาออกของครูแต่อย่างใด ดังนั้นก็ขอให้สังคมสบายใจว่าทาง สพป.จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและทำให้ดีที่สุด

รายละเอียดเพิ่มเติมจาก กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อ 4 ต.ค. ผศ.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา ให้ข้อมูลของคุณครูคนดังกล่าวเป็นครูผู้ช่วยของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น ซึ่งออกให้เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 หมดอายุวันที่ 6 พ.ค. 2571 จึงรับเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2568.


อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: