รีวิว Meta Ray-Ban Display แว่นตาอัจฉริยะ ฟีเจอร์น่าทึ่งมาก ถ่ายรูปได้ แปลภาษาเรียลไทม์
รีวิวแว่นตาอัจฉริยะ Meta Ray-Ban Display รุ่นใหม่ล่าสุด กับฟังก์ชันที่อาจดีกว่าสมาร์ทโฟน

ยูทูบเบอร์สายเทคโนโลยี “Mrwhosetheboss” ได้ทดลองใช้แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Meta ราคาเกือบ 30,000 บาท อวยฟีเจอร์น่าทึ่งมากมาย ทั้งจอแสดงผลส่วนตัว แปลภาษาแบบเรียลไทม์ ควบคุมด้วยท่าทางมือ แต่ยังคงมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ยังไม่เหมาะกับทุกคนในตอนนี้
1. ตัวแว่นตา ฮาร์ดแวร์ที่ล้ำหน้าขึ้น
แว่นตารุ่นนี้เป็นเหมือน Ray-Ban Metas เวอร์ชันอัปเกรดที่มาพร้อมฮาร์ดแวร์พื้นฐานเดิม แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น กล้องที่คมชัดขึ้น 2.5 เท่า, ลำโพง 2 ตัวสำหรับหูแต่ละข้าง และไมโครโฟนถึง 5 ตัว แต่จุดเด่นที่แท้จริงคือคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มเข้ามา แว่นมาพร้อมเลนส์เปลี่ยนสีเป็นมาตรฐาน เมื่อออกไปข้างนอก เลนส์จะปรับเป็นสีเข้มเหมือนแว่นกันแดดอัตโนมัติ และจะกลับมาใสเมื่ออยู่ในที่ร่ม
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น Meta ออกแบบแบตเตอรี่พิเศษให้พอดีกับทุกมิลลิเมตรภายในขาแว่น เพื่อให้พลังงานเพียงพอสำหรับจอแสดงผลใหม่
จอแสดงผล หัวใจสำคัญของแว่นตารุ่นนี้ เป็นภาพฉายเล็กๆ ที่มุมขวาของสายตา ไม่ใช่เทคโนโลยี AR เพราะภาพไม่ได้ซ้อนทับกับโลกจริง แต่เป็นเหมือนหน้าต่างข้อมูลขนาดเล็กที่มองเห็นได้ตลอดเวลา จอสว่างมาก สว่างกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เคยใช้
ด้วยเทคนิคการฉายภาพทางอ้อม แม้จะเปิดความสว่างสูงสุด คนภายนอกก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่คุณเห็นได้
ความสบายในการสวมใส่ แม้จะหนากว่ารุ่นทั่วไปเล็กน้อย แต่ด้วยน้ำหนักเพียง 69 กรัม (เทียบกับรุ่นปกติ 45 กรัม) และบานพับที่ยืดหยุ่นได้ ทำให้ใส่สบายมาก ผู้รีวิวระบุว่าเขาสวมมันต่อเนื่อง 1 ชั่วโมงครึ่งจนลืมไปว่าใส่อยู่
เคสเก็บให้ความรู้สึกพรีเมียม สามารถปรับเปลี่ยนโหมดได้ระหว่างการเก็บแว่น และการพับให้แบนเพื่อใส่ในกระเป๋าได้สะดวก
2. วิธีการควบคุม สั่งการด้วยท่าทางมือ
นอกจากการใช้ทัชแพดบนขาแว่นและปุ่มกดเพื่อถ่ายภาพเหมือนรุ่นก่อนหน้า แว่นตารุ่นนี้มาพร้อม “Neural Band” สายรัดข้อมือที่ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวควบคุมหลัก สายรัดข้อมือนี้จะวัดแรงกระตุ้นไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อข้อมือ ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งการแว่นตาด้วยท่าทางมือต่างๆ ได้
ประสบการณ์ใช้งาน Mrwhosetheboss บอกว่า หลังใช้งานประมาณหนึ่งชั่วโมง ท่าทางต่างๆ จะกลายเป็นเรื่องธรรมชาติ มีความแม่นยำสูงถึง 97% ไม่เคยเกิดการสั่งงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะไม่ได้ใช้กล้องจับการเคลื่อนไหวเหมือน Apple Vision Pro
ท่าทางหลักๆ ที่ทำได้
- เปิดหน้าจอ: แตะนิ้ว 2 ครั้ง
- นำทางเมนู: ใช้นิ้วบีบเข้าหากัน หรือเลื่อนมือผ่านกำปั้นเสมือนจอยสติก
- ปรับระดับเสียง: ทำท่าจับแล้วหมุน
3. ซอฟต์แวร์และฟังก์ชัน อนาคตที่ยังต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน
Meta มองว่าอุปกรณ์ประเภทนี้จะมาแทนที่สมาร์ทโฟนในอนาคต แต่ไม่ใช่ในปัจจุบัน เพราะประมาณ 50% ของฟังก์ชันยังคงต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์อยู่ หน้าจอหลักแสดงเพียงการแจ้งเตือนกับเวลา อินเทอร์เฟซยังไม่ลื่นไหลเท่าสมาร์ทโฟน ไม่มี App Store แอปส่วนใหญ่ยังเป็นของ Meta เอง เช่น MetaMaps หรือ Meta AI
ปัจจุบัน มีฟีเจอร์แอปที่ใช้ได้ ดังนี้
WhatsApp อ่านข้อความได้เต็มหน้าจอ สามารถเปิดลิงก์และดูวิดีโอ Reels ที่เพื่อนส่งมาได้ทันที
การตอบกลับ ทำได้ 4 วิธี คือ ส่งข้อความเสียง, พิมพ์ตามคำบอก ซึ่งแม่นยำมากด้วยไมโครโฟน 5 ตัว, เลือกข้อความตอบกลับสำเร็จรูป และ “การเขียนบนขา” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ทดลองที่ให้คุณใช้นิ้วเขียนตัวอักษรบนขาของตัวเอง มีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกจะพูด
คำบรรยายสด แว่นตาสามารถแยกเสียงของคู่สนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง แล้วแสดงเป็นคำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้เกือบจะทันที
การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ใช้เทคโนโลยีเดียวกับคำบรรยาย คุณภาพการแปลสูงมาก ด้วยไมโครโฟน 5 ตัว ทำให้จับเสียงพูดได้ชัดเจน การสนทนาจึงเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แผนที่ (Maps) การเห็นลูกศรนำทางเคลื่อนที่ตามการหันของศีรษะเป็นประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายมาก
เพลง เชื่อมต่อกับ Spotify ได้โดยตรง คุณภาพเสียงดีกว่าที่คาด แต่คนรอบข้างอาจได้ยินเสียงเพลงหากเปิดดังเกิน 40%
กล้องถ่ายภาพนิ่ง 12MP และวิดีโอ 3K คุณภาพเทียบเท่าสมาร์ทโฟนเมื่อ 8 ปีก่อน และยังมีอาการหน่วงเล็กน้อย
Meta AI ผู้ใช้สามารถเรียก AI เพื่อถามคำถามต่างๆ ได้ เช่น สูตรทำอาหาร แม้ AI จะไม่ได้ฉลาดเป็นพิเศษ แต่ความสะดวกสบายของการมีข้อมูลปรากฏอยู่ตรงหน้าตลอดเวลาในขณะที่มือยังว่างทำอย่างอื่น คือสิ่งที่ทำให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของอุปกรณ์ประเภทนี้
ผู้รีวิวสรุปว่า ด้วยราคา 3 หมื่นบาท แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Displays ยังไม่คุ้มค่าสำหรับคนส่วนใหญ่ในตอนนี้ นี่อาจเป็นความพยายามของ Meta ที่จะส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดก่อนที่ Apple จะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับแนวคิดนี้ และวางตำแหน่งให้ Meta กลายเป็นแบรนด์แรกที่คนนึกถึงเมื่อพูดถึงแว่นตาอัจฉริยะ
ดูคลิปรีวิวฉบับเต็มได้ด้านล่าง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: