“ทรัมป์” ประกาศลั่น คนไร้บ้านต้องออกจากวอชิงตัน ดี.ซี. อ้างเป็นการปราบอาชญากรรม

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศทวงคืนกรุงวอชินตัน ดี.ซี. ด้วยการขับไล่คนไร้บ้านทั้งหมดออกจากตัวเมืองหลวง
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาเตรียมที่จะเริ่มปฏิบัติการ “ทวงคืนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.” โดยมีเป้าหมายหลักคือการขับไล่คนไร้บ้านทั้งหมดออกไปจากเมืองหลวง ของสหรัฐฯ
ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “คนไร้บ้านต้องย้ายออกทันที เราจะให้ที่พักแก่คุณ แต่ให้ไกลจากเมืองหลวงไปเลย ส่วนพวกอาชญากร เราจะจับคุณเข้าคุกในที่ที่คุณควรอยู่” เขายังเสริมว่า “จะไม่มีคำว่า ‘คุณคนดี’ เราต้องการให้เมืองหลวงของเรากลับมา”
การเคลื่อนไหวของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่เขาให้คำมั่นว่าจะจัดการกับอาชญากรรมในเมือง โดยบอกว่าเขามีแผนที่จะทำให้เมืองหลวงปลอดภัยและสวยงามกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งลงนามในคำสั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมเพื่อให้จับกุมคนไร้บ้านได้ง่ายขึ้น และสั่งให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางจากหลายหน่วยงาน เช่น FBI ลงพื้นที่ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อควบคุมระดับอาชญากรรมที่เขาเรียกว่า “เกินความควบคุมโดยสิ้นเชิง”
แต่ มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดี.ซี. จากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาโต้แย้งคำกล่าวอ้างของทรัมป์ โดยชี้ว่า “เราไม่ได้ประสบปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น” เธอเปิดเผยสถิติว่า ในปีที่แล้ววอชิงตัน ดี.ซี. มีสถิติอาชญากรรมรุนแรงโดยรวมต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี และในปีนี้ก็ลดลงอีก 26% โดยระบุว่า “การเปรียบเทียบวอชิงตัน ดี.ซี. กับประเทศที่ถูกสงครามทำลายล้างนั้นเกินจริงและไม่เป็นความจริง”
รายละเอียดของแผนของทรัมป์ยังไม่ชัดเจน แต่เคยมีรายงานว่าเขาเสนอให้ย้ายคนไร้บ้านไปยังเต็นท์ “คุณภาพสูง” บนที่ดินราคาไม่แพงนอกเมือง พร้อมกับให้ห้องน้ำและบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงได้
ขณะที่ สตีเฟน มิลเลอร์ รองหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว เรียกสถานการณ์ในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ว่า “มีความรุนแรงมากกว่าแบกแดด” ในทางกลับกัน Community Partnership องค์กรที่ทำงานเพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านในดี.ซี. ระบุว่า ในเมืองที่มีประชากร 700,000 คน มีคนไร้บ้านที่มักเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนประมาณ 800 คนในแต่ละคืน
ทรัมป์ยังกล่าวถึงนายกเทศมนตรีโบว์เซอร์ว่าเป็น “คนดีที่พยายามแล้ว” แต่ก็เสริมว่า แม้เธอจะพยายามแล้ว แต่อาชญากรรมก็ยังคงแย่ลง และเมืองก็ “สกปรกและน่าดึงดูดน้อยลง”
อ้างอิง : BBC
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” คุยโว อ้างเป็นผู้ยุติศึก ไทย-กัมพูชา ใช้ดีลการค้ากดดัน หยุดความขัดแย้ง
- “ทรัมป์” เผชิญหน้า “ปูติน” สัปดาห์หน้า หารือยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: