วิมานรัก วิมานหนาม ลพบุรี เปิดใจพระโย อดีตคนรัก ร.ต.พงศธร รมควันหน้าคาเฟ่ไร่ทรัพย์ประยูร ฉากสุดท้ายของความเจ็บปวด ความจริงหนังคนละม้วน
จากกรณีข่าว ร.ต.พงศธร แสงชัยไพศาล ชายชาวสมุทรปราการ วัย 44 ปี ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการรมควันในรถยนต์ หน้าคาเฟ่ไร่ทรัพย์ประยูร จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นธุรกิจที่ร่วมลงทุนกับอดีตแฟนหนุ่มด้วยเงินเกือบ 30 ล้านบาท สาเหตุผิดหวังอย่างรุนแรงจากปัญหาความรัก มีการโพสต์ผ่านโซเชียลก่อนเสียว่าอดีตแฟนหนุ่มได้ตีตัวออกห่าง ต้องการให้เขาย้ายออกจากบ้านพักในไร่ที่ลงทุนไปกว่า 22 ล้านบาท เพื่อที่จะพาแฟนใหม่เข้ามาอยู่แทน ทำให้ ร.ต.พงศธร ซึ่งรู้สึกเสียใจและถูกบีบคั้นอย่างหนัก ตัดสินใจเดินทางกลับมาจบชีวิต ณ สถานที่ที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของทั้งคู่
ล่าสุดฝั่งอดีตคนรัก ปัจจุบันบวชอยู่ชื่อ “พระโย” ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกกับสื่อมวลชนว่า จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ รู้จักกับผู้ตายตอนที่อีกฝ่ายเข้ามานั่งเล่นที่ร้านกาแฟของตน ก่อนจะคบหาและย้ายมาอยู่ด้วยกัน
ช่วงนั้นผู้ตายตกงาน ไม่มีรายได้ ตนจึงชวนมาทำธุรกิจด้วยกัน โดยก่อนหน้านั้นพระโยทำธุรกิจเฟิร์น และได้กู้เงินจาก ธ.ก.ส. 4 ล้านบาทให้ผู้ตายเป็นคนบริหารเงินทั้งหมด
ต่อมา ผู้ตายเริ่มมีรายได้และนำไปสร้างบ้านหรูสีขาวที่อยู่ติดกับร้านกาแฟ พระโยยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าเงินก้อนนั้นมาจากส่วนตัวหรือจากการลงทุนร่วมกัน เพราะหลังจากนั้นร้านก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ตนมาทราบภายหลังว่าผู้ตายเข้าไปพัวพันกับแชร์ลูกโซ่ จึงต้องกู้เงินเพิ่มอีก 5 ล้าน และขอเงินแม่อีก 8 แสนบาท ปัจจุบันตนมีหนี้สินรวมกว่า 11 ล้านบาท
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ พระโยบอกว่าเป็นวันแตกหัก ตนเห็นแชทในโทรศัพท์ของผู้ตายที่ลืมไว้ ซึ่งมีข้อความลามก ชวนคนอื่นไปมีเพศสัมพันธ์ ยืนยันว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่พบการนอกใจ เพราะเจอมากถึง 6 ครั้ง ทั้งภาพ แชท และคลิปเสียง แต่ที่ผ่านมาก็ให้อภัยมาตลอด จนเมื่อไม่ไหวจึงขอเลิก
หลังจากนั้น ผู้ตายได้มากราบอ้อนวอนขอคืนดี พร้อมนำสัญญามาให้เซ็นว่าพระโยเป็นหนี้เขา 19 ล้านบาท แต่พระโยไม่เซ็น เพราะเห็นว่าไม่มีความจริงรองรับ และไม่เคยตกลงกันเช่นนั้น เรื่องทรัพย์สิน หากจะแบ่งกันจริง ควรให้ทนายความจัดการ
พระโยยังเปิดเผยว่า ในช่วงอยู่ร่วมกัน ผู้ตายเคยมีพฤติกรรมที่กระทบธุรกิจ เช่น ทะเลาะกับลูกค้า ทุบกระจก ทุบจาน จนพระโยต้องลงไปกราบขอโทษเอง
พระโยชี้แจงว่า “คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแฟนใหม่” แท้จริงเพิ่งรู้จักกันช่วงเดือนมกราคม เพิ่งเข้ามาช่วยงานร้านเมื่อวันที่ 8 เมษายน ไม่ใช่การพาเข้ามาแทนที่ หรือแสดงความไม่เคารพต่อผู้ตายแต่อย่างใด ย้ำว่าอีกฝ่ายเพียงเข้ามาช่วยเพราะร้านขาดคน “ผมรักเขา ครอบครัวผมก็รักเขา”
แม้จะมีความขัดแย้ง พระโยยืนยันว่า ยังรักผู้ตาย รวมถึงครอบครัวของตนก็รักเขาเช่นกัน เพียงแต่โพสต์ที่ผู้ตายเขียนทิ้งไว้มีถ้อยคำที่กระทบคนในครอบครัว จึงจำเป็นต้องออกมาพูดบ้าง “ผมไม่ได้โกรธเลย คนที่มาแสดงความคิดเห็นก็ไม่ผิด เพราะเขาไม่รู้ความจริง”
พระโยกล่าวด้วยว่า เคยได้รับข้อความจากผู้ตายว่า “ถ้าเป็นอะไร ขอให้ช่วยเผาศพด้วย” ตนจึงไปแจ้งความไว้เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดว่าอาจมีการฆาตกรรม
สำหรับงานศพของผู้ตาย พระโยและญาติเดิมตั้งใจจะไปร่วมงาน แต่เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปกติ จึงยังไม่มั่นใจว่าจะไปร่วมงานได้หรือไม่ ส่วนการบวช ตนไม่ได้ตั้งใจจะบวชยาว แต่ขอใช้เวลาให้จิตใจสงบก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิมานรักพังครืน หนุ่มปลิดชีพหน้าคาเฟ่ แค้นใจถูกแฟนไล่พ้นไร่ 30 ล้าน วิมานหนาม ชีวิตจริง
- หมดอนาคต หมอนอกใจเมีย คบซ้อน 4 คน ทำชู้ท้อง ซ้ำทิ้งคนไข้เกือบดับ สั่งปลดแล้ว
- หญิงจีน อัปโหลดคลิปสามีเล่นชู้ลงเน็ต สุดท้ายโดนฟ้องเรียกเงินเอง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
