ข่าวต่างประเทศ

พิธีศพ โป๊ปฟรานซิส วาติกันแจงขั้นตอนพิธีศพ-การฝัง ครั้งประวัติศาสตร์

ทั่วโลกร่วมแสดงความอาลัย ‘สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส’ สิ้นพระชนม์แล้ว สิริพระชนมายุ 88 พรรษา นครรัฐวาติกันเริ่มขั้นตอนตามประเพณี ทั้งพิธีศพ และการฝัง

สำนักข่าวต่างประเทศ วาติกันนิวส์ รายงานข่าวอันน่าเศร้า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ลำดับที่ 266 และผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวคาทอลิกกว่า 1.4 พันล้านคนทั่วโลก ได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 สิริพระชนมายุ 88 พรรษา ปิดฉากสมณสมัยแห่งความอ่อนน้อมถ่อมตน การเอาใจใส่ต่อผู้ยากไร้ และความพยายามในการปฏิรูปศาสนจักร ซึ่งพระองค์ทรงเริ่มต้นนับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในปี 2556 เป็นต้นมา

การสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถือเป็นการสิ้นสุดยุคสมัยหนึ่ง และเป็นการเริ่มต้นกระบวนการสำคัญต่าง ๆ ตามธรรมเนียมปฏิบัติอันเก่าแก่หลายศตวรรษของนครรัฐวาติกัน เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์ และเตรียมการสู่การเปลี่ยนผ่านสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่

FILE – Pope Francis delivers his blessing as he arrives to hold his weekly general audience, in St. Peter’s Square, at the Vatican, Wednesday, Sept. 17, 2014. (AP Photo/Andrew Medichini, File)

ขั้นตอนสำคัญหลังการสิ้นพระชนม์ ตามธรรมเนียมวาติกัน

ทันทีหลังการประกาศออกสู่สาธารณชน เจ้าหน้าที่วาติกัน นำโดยฝ่ายสาธารณสุขและ คาร์ดินัลคาแมร์เลนโก (Camerlengo) หรือผู้ดูแลทรัพย์สินของสันตะสำนัก รักษาการโดย คาร์ดินัลเควิน โจเซฟ ฟาร์เรลล์ วัย 77 ปี จะเข้ายืนยันการสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการ

 1. การยืนยันและพิธีกรรมเบื้องต้น

ตามธรรมเนียม พระศพจะถูกเคลื่อนไปยังพระราชวังส่วนพระองค์ แต่งพระศพด้วยอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์สีแดง (Red Vestments) ก่อนจะเชิญลงบรรทมในหีบพระศพไม้บุสังกะสี ขณะที่หมวกไมเตอร์ (Mitre) และผ้าพาดพระศอ (Pallium) จะถูกเก็บแยกไว้

ในพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่เป็นการฉลองวาระสุดท้ายของตำแหน่งพระสันตปาปา “แหวนชาวประมง” (Fisherman’s Ring) ซึ่งเป็นแหวนตราประจำตำแหน่งพระสันตะปาปา จะถูกทำลายลงอย่างเป็นทางการโดยคาร์ดินัลคาแมร์เลนโก ด้วยค้อนพิเศษ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการสิ้นสุดสมณสมัย และป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด

FILE – Camerlengo of the Holy Roman Church Cardinal Eduardo Martinez Somalo, second right, swings an incense burner as Pope John Paul II’s body lies in state inside St. Peter’s Basilica for public viewing, four days before his remains will be entombed in the grotto below the church, at the Vatican, Monday, April 4, 2005. (AP Photo/Plinio Lepri, pool )

 2. ช่วงเวลาไว้อาลัยและถวายความเคารพ

วาติกันจะประกาศ ช่วงเวลาไว้อาลัยเป็นเวลา 9 วัน (Novendiale) ซึ่งจะมีการประกอบพิธีมิสซาและกิจกรรมรำลึกต่าง ๆ โดยในระหว่างนี้อาจมีการประกาศให้เป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติ เพื่อให้ชาวคาทอลิกสามารถแสดงความอาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสได้

การตั้งพระศพ คาดว่าพระศพจะประดิษฐานอยู่ในหีบพระศพ แทนการตั้งบนแท่นสูงแบบดั้งเดิม เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถวายความเคารพ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร (St. Peter’s Basilica) ซึ่งสอดคล้องกับพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ทรงเน้นความเรียบง่าย

ในช่วงเวลานี้ ตำแหน่งพระสันตะปาปาจะว่างลง การบริหารศาสนจักรชั่วคราวจะตกอยู่ภายใต้การดูแลของ คณะพระคาร์ดินัล (College of Cardinals) ซึ่งจะจัดการเฉพาะเรื่องทั่วไป ไม่มีการตัดสินใจสำคัญใด ๆ

FILE – Pope Francis is helped by his aide Archbishop Diego Giovanni Ravelli, right, as he arrives for the start of a public consistory to elevate 21 new cardinals, in St. Peter’s Basilica, at the Vatican, Saturday, Dec. 7, 2024. (AP Photo/Gregorio Borgia, file)

 3. พระราชพิธีพระศพและการฝัง

จากธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา พระราชพิธีพระศพจะจัดขึ้นราว 4 – 6 วันหลังการสิ้นพระชนม์ ตามด้วยพิธีกรรมเพิ่มเติมอีก 9 วันในโบสถ์ต่าง ๆ ทั่วกรุงโรม

การฝังพระศพ ตามพระประสงค์ส่วนพระองค์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะได้รับการบรรจุในหีบพระศพไม้บุสังกะสีเพียงชั้นเดียว ต่างจากธรรมเนียมเดิมที่ใช้หีบ 3 ชั้น จากนั้นพิธีก็จะจัดขึ้น ณ มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร (Basilica of St Mary Major) ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงโปรดเสด็จไปภาวนาเป็นการส่วนพระองค์

ก่อนการปิดหีบพระศพ จะมีการคลุมพระพักตร์ด้วยผ้าไหมสีขาว และอาจมีการบรรจุถุงเหรียญที่ผลิตในสมณสมัยของพระองค์ พร้อมเอกสาร “โรจิโต” (Rogito) ซึ่งบันทึกเรื่องราวและพันธกิจสำคัญในชีวิตของพระองค์ ลงไปในหีบพระศพด้วย

FILE – Pope Francis speaks during an interview with The Associated Press at The Vatican, Tuesday, Jan. 24, 2023. Pope Francis said there’s a risk that what could be a trailblazing reform process in the German church could become “ideological.” (AP Photo/Andrew Medichini, File)

 4. การประชุม “คอนเคลฟ” (Conclave) เลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่

การประชุมเลือกสันตะปาปา จะจัดขึ้นภายใน 15 – 20 วันหลังการสิ้นพระชนม์ ณ โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำกัดเฉพาะพระคาร์ดินัลที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี ประมาณไม่เกิน 120 องค์ โดยในส่วนของประธานการประชุม คาดว่าจะเป็น คาร์ดินัลโจวานนี บัตติสตา เร วัย 91 ปี ผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะพระคาร์ดินัล แต่เนื่องจากท่านอายุเกิน 80 ปี จึงไม่มีสิทธิ์ออกเสียง รองคณบดีหรือคาร์ดินัลอาวุโสลำดับถัดไปจะทำหน้าที่กำกับดูแลการลงคะแนน

เมื่อได้ผู้รับเลือก คณบดีจะทูลถามการยอมรับตำแหน่ง และให้ทรงเลือกพระนามใหม่ จากนั้นคาร์ดินัลอาวุโสจะประกาศคำว่า “Habemus papam” หรือที่หมายถึง เรามีพระสันตะปาปาแล้ว จากระเบียงมหาวิหารนักบุญเปโตรสู่สาธารณชน

ตลอดสัปดาห์ต่อจากนี้ไป ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของวาติกันและคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่จะเต็มไปด้วยพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ การไว้อาลัย และการเปลี่ยนผ่านสู่ผู้นำทางจิตวิญญาณคนใหม่

FILE – Pope Francis sits by the coffin of late Pope Emeritus Benedict XVI in St. Peter’s Square during a funeral mass at the Vatican, on Jan. 5, 2023. (AP Photo/Andrew Medichini, File)

ข้อมูลจาก indiatoday 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button