ข่าวการเมือง

ทักษิณ ไม่ซีเรียส “สทร.” คนชอบแปล “สุดที่รัก” เผยเองถ้าเกลียดแปลอะไร

ทักษิณ ตอบโต้กรณี สทร. นิยามใหม่ใช้แทนชื่อเรียก อักษรย่อคำพาดพิงพ่อนายกแพทองธาร ก่อนศึกซักฟอกใหญ่ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและคณะครม.ลูกสาวอุ๊งอิ๊ง ชินวัตร สบายๆ ชี้มุมคนชอบแปลลื่นหู ก่อนเฉลยเองต่อหน้านักข่าวจี้ไมค์ กลุ่มตรงข้ามตีความหมายหยาบทำนองแส่ทุกประเด็น

ตามกันต่อกระแสโหมโรงก่อนการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือ “ศึกซักฟอกรัฐบาล” ที่หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงข้อสั่งการของนายกฯ ในการประชุมในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 12 ในวันอังคารที่ 25 มี.ค.2568 นั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า การประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าจะเลื่อนออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 27 มี.ค.68 โดยนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐมนตรีทุกคนเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันจันทร์ที่ 24 -26 มี.ค.นี้ โดยให้เตรียมข้อมูลให้พร้อมในทุกมิติของส่วนราชการที่อาจจะมีการอภิปรายไปถึงทุกกระทรวง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร กล่าววานนี้ (17 มี.ค.) กับช่อง 3 เรื่องชื่อ “สทร.” นิยามใหม่ที่หากรัฐสภาอนญาตให้แทนชื่อเรียกในการอภิปรายได้นั้น เจ้าตัวย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวทันทีว่า แล้วกรณีดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ ส่วนตนเองเกรงว่าจะไม่เหมาะ แต่ก็ย้ำส่วนตัวไม่ติดใจอะไรกับคำย่อสทร. “สบายๆ”

ทักษิณ สาบยๆ คนเรียก สทร
ภาพ @เรื่องเล่าเช้านี้

เมื่อถามว่าถ้าถูกพาดพิงในสภาจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นตามมาหลังจบการซักฟอกหรือไม่นั้น นายทักษิณระบุว่าต้องดูเหตุการณ์ก่อน บางครั้งขอกันทานเล็กๆ น้อยๆ ก็แปล่อยเขาเถอะ อย่าไปคิดอะไรมากมาย

ส่วนประเด็นนายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เปิดทางให้วิปฝ่ายค้านใช้คำว่า “สทร.”แทนนั้น นายทักษิณยืนกรานว่าไม่เป็นไร! ในความรู้สึกของคนไม่ชอบตนก็เอาคำพูดที่ตนเคยพูดว่า สทร. “เสือกทุกเรือง” แต่คนที่ชอบตนแปลว่า “สุดที่รัก”

“สบายๆ ไม่เห็นไปเดือดร้อนอะไร วอลลูมไม่ตั้งหรอก วอลลูมอยู่ติดตัวผม”

“ไม่เป็นไร เพราะในความรู้สึกของคนที่เขาไม่ชอบผม เขาก็เอาคำพูดที่ผมพูดไว้ สทร. แปลว่าเสือกทุกเรื่อง แต่คำพูดที่คนชอบผมเขาว่า สุดที่รัก ก็โอเค มีทั้ง 2 ทางไม่มีปัญหา” โดยจบประโยคนี้ ทักษิณ ชินวัตร ยังยิ้มแย้มแจ่มใสตอบคำถามต่างๆ ของสื่อมวลชนด้วยท่าทางเป็นกันเอง

ต่อมามีการระบุถึง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับแก้ไขเรียบร้อยแล้วต่อประธานวันนอร์ เมื่อเช้าวานนี้ (17 มี.ค.) โดยเป็นการ “ขีดฆ่า” เปลี่ยนข้อความพร้อมเซ็นชื่อกำกับ นั่นคือ ขีดฆ่าชื่อของทักษิณ ชินวัตร และคำว่า “ผู้เป็นบิดา” ออก แล้วเปลี่นมาใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัวแทน”

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ญัตติฝ่ายค้าน
แฟ้มภาพ

ประโยคหนึ่งที่มีการอ่านเป็นตัวอย่าง การปรับปรุงแก้ไขฉบับสมบูรณ์ในรายการกรรมกรข่าวเมื่อสายที่ผ่านมา ระบุ

“นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้ “บุคคลในครอบครัว” ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบุคคลในครอบครัวเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”

ญัตติฝ่ายค้าน บุคคลในครอบครัว
แฟ้มภาพ

ทั้งนี้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า การเปลี่ยนมาใช้คำว่า บุคคลในครอบครัวนั้น ตนเอง คิดว่าโอกาสนี้แก้ให้สามารถอภิปรายได้กว้างขวางขึ้น คลอบคลุมมากขึ้น หรือจะใช้คำว่าสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างหนักหนาสาหัสมากขึ้น

เพราะว่าถ้าคำว่า “ทักษิน ชินวัตร” ถ้าเราไปพูดถึงอดีตนายกท่านอื่น เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดี๋ยวจะโดนประท้วงอีก

“เกิดจะพูดถึงบุคคลนั้น บุคคลนี้ที่มีส่วนในการกระทำบางอยบ่างของแพทองธาร ชินวัตร เดี๋ยวก็จะโดนประท้วงอีก แก้เป็นบุคคลในครอบครัว คราวนี้ก็น่าจะพากันมาได้หมดทุกองค์ประกอบจำเลย เรียกว่าทั้งครอบครัว ญาติโกโหติกา บรรดาบุคคลใกล้ชิดทั้งหมดถ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง”

“เรียกว่าเข้มข้นขึ้น คราวนี้ผู้อภิปรายแต่ละคนจะได้สบายใจ เพราะหลายคนปรึกษาไม่ได้แตะคนชื่อนี้ แตะคนชื่อนั้น ตอนนี้คือทุกชื่อเรียบร้อยสะดวกโยธิน”

นอกจากนี้ วิโรจน์ยังฝากบอกไปทางฟากฝ่ายรัฐบาลในเมื่อนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร บอกว่า 30 ชั่วโมงไม่มีปัญหา ในเมื่อฝ่ายบริหารบอก 30 ชม.ก็โอเค แล้วบริวารจะมาเรียกร้องอะไร

“ในเมื่อบริหารเขาโอเค บริวาร! คุณยังมีหน้ามาไม่ให้เกียรติหน้ายกฯ อีกเหรอ” นายวิโรจน์ ทิ้งท้าย

สำหรับประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คความคืบหน้าล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีขณะนี้ฝ่ายค้านได้ยอมแก้ไขญัตติแล้ว คงไม่มีปัญหา รอหนังสือที่มีการแก้ไขเข้ามา คาดว่าจะเป็นวันที่ 17 มี.ค. เมื่อพิจารณาเรียบร้อยจะสั่งให้บรรจุระเบียบวาระและในวันนี้จะส่งให้นายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดวันเปิดอภิปราย

หากเป็นไปตามนี้น่าจะเปิดอภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนกรอบเวลาจะกี่ชั่วโมงกี่วัน ประธานสภาคนปัจจุบันยืนยันวิป 3 ฝ่าย ต้องไปตกลงกันซึ่งได้พูดคุยรอบหนึ่งแล้ว หากพูดคุยกันในวันที่ 19 มี.ค.อีกรอบ คงจะเรียบร้อย ตกลงกันได้และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button