เปิดตัวแล้ว Perplexity Deep Research AI นักวิจัยส่วนตัว ใช้ฟรีวันละ 5 ครั้ง

ปฏิวัติการวิจัยด้วย Perplexity Deep Research AI อัจฉริยะ ค้นคว้าเชิงลึก รวดเร็วทันใจ เจาะลึกข้อมูลการทำงาน ข้อแตกต่าง ใครสามารถใช้ได้บ้าง เข้าใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ จำกัด 5 ครั้งต่อวัน
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ Perplexity ได้เปิดตัว Deep Research อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ใหม่ล่าสุดที่จะช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาในการค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างมาก เครื่องมือนี้ถูกออกแบบมาให้ทำการค้นหาข้อมูลหลายสิบครั้ง อ่านแหล่งข้อมูลหลายร้อยแห่ง และใช้เหตุผลเชิงตรรกะจากข้อมูลเหล่านั้น เพื่อสร้างรายงานที่ครอบคลุมทุกแง่มุมในเวลาเพียงไม่กี่นาที Deep Research มีความโดดเด่นในการทำงานที่ซับซ้อนระดับผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การตลาด การวิจัยผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งการวางแผนการเดินทางส่วนตัว
Deep Research ทำงานอย่างไร?
Deep Research ยกระดับความสามารถในการตอบคำถามของ Perplexity ไปอีกขั้น โดยใช้เวลาเพียง 2-4 นาทีในการทำงานที่ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เครื่องมือนี้ทำงานโดย
1.วิจัยด้วยการใช้เหตุผล Deep Research ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือค้นหา แต่เป็นนักวิจัย AI ที่แท้จริง ด้วยความสามารถในการค้นหาและเขียนโค้ด ทำให้ Deep Research สามารถค้นหา อ่านเอกสาร และใช้เหตุผลอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงแผนการวิจัย เหมือนกับนักวิจัยที่เป็นมนุษย์ที่เรียนรู้และปรับความเข้าใจในหัวข้อใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ
2. เขียนรายงาน เมื่อประเมินแหล่งข้อมูลอย่างครบถ้วนแล้ว Deep Research จะสังเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดและเขียนออกมาเป็นรายงานที่ชัดเจนและครอบคลุม ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรองและวิเคราะห์มาอย่างดี
3. ส่งออกและแบ่งปัน รายงานฉบับสมบูรณ์สามารถส่งออกเป็นไฟล์ PDF หรือเอกสาร หรือแปลงเป็น Perplexity Page เพื่อแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงานหรือบุคคลอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

Deep Research เหมาะกับใครและเมื่อไหร่ควรใช้?
Perplexity สร้าง Deep Research ขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในระดับผู้เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดาย เครื่องมือนี้เหมาะสำหรับการสร้างผลงานที่โดดเด่นในสาขาต่างๆ เช่น การเงิน การตลาด เทคโนโลยี รวมถึงเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในด้านสุขภาพ การวิจัยผลิตภัณฑ์ และการวางแผนการเดินทาง ตัวอย่างการใช้งาน Deep Research ได้แก่
1.การวิเคราะห์ทางการเงินและการลงทุน วิเคราะห์แนวโน้มตลาด รายงานทางการเงิน หรือเปรียบเทียบตัวเลือกการลงทุนต่าง ๆ
2. การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย แนวโน้มของอุตสาหกรรม หรือประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด
3. การวิจัยผลิตภัณฑ์ ศึกษาข้อมูลคู่แข่ง แนวโน้มของผู้บริโภค หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
4. การวางแผนการเดินทาง ค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เปรียบเทียบราคาโรงแรมและเที่ยวบิน หรือวางแผนกิจกรรมการเดินทาง
5. การค้นคว้าข้อมูลด้านสุขภาพ ศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ งานวิจัย หรือแนวทางการรักษาโรคต่างๆ
ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ Deep Research ไม่เพียงแต่ใช้งานง่าย แต่ยังมีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม
- Humanity’s Last Exam: Deep Research ได้คะแนนความแม่นยำ 21.1% ซึ่งสูงกว่าโมเดล AI ชั้นนำอื่นๆ อย่าง Gemini Thinking และ DeepSeek-R1 อย่างมีนัยสำคัญ Humanity’s Last Exam เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ครอบคลุมซึ่งประกอบด้วยคำถามกว่า 3,000 ข้อใน 100 สาขาวิชา
- SimpleQA: ในเกณฑ์มาตรฐาน SimpleQA ซึ่งทดสอบความรู้รอบตัว Deep Research ทำคะแนนความแม่นยำได้ถึง 93.9% ซึ่งสูงกว่าโมเดลชั้นนำอื่นๆ เช่นกัน
- ความเร็วในการทำงาน: Deep Research สามารถทำงานวิจัยส่วนใหญ่ให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน
ทำไมต้องใช้ Deep Research ของ Perplexity?
ผู้ใช้งานจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ Perplexity มากกว่าเครื่องมือค้นหาแบบเดิม เหตุผลหลักมาจากประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลที่เหนือกว่า Google Search แบบเดิม Perplexity สามารถให้คำตอบที่รวดเร็ว แม่นยำ และมีรายละเอียดมากกว่า โดยปราศจากเว็บไซต์โฆษณาหรือเว็บไซต์ที่เน้นการตลาด Perplexity ยังโดดเด่นกว่า Gemini ในด้าน:
- ความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ: Perplexity ให้คำตอบที่แม่นยำกว่า Gemini พร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย
- บริบทและความลึกของข้อมูล: Deep Research นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและบริบทที่ครบถ้วน ไม่ใช่แค่รายการหัวข้อย่อยสั้นๆ ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจหัวข้อที่ซับซ้อนได้อย่างรอบด้าน
- การถามคำถามเพิ่มเติม: ฟีเจอร์ “Ask follow-up” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเจาะลึกในหัวข้อที่สนใจได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการค้นพบข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าสนใจ

การเข้าใช้งาน Perplexity Deep Research
การเริ่มต้นใช้งาน Deep Research นั้นง่ายดายอย่างยิ่ง เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ Perplexity.ai และเลือกโหมด ‘Deep Research’ จากเมนูตัวเลือก ก่อนพิมพ์คำถามที่ต้องการค้นคว้า จากนั้นรอเพียง 2-4 นาที Deep Research จะประมวลผลและส่งมอบรายงานฉบับเต็มที่ครอบคลุมทุกแง่มุมให้คุณทันที
Perplexity เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถทดลองใช้ Deep Research ได้ฟรีวันละ 5 ครั้ง สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถสมัครสมาชิก Pro Plan ในราคา $20 ต่อเดือน เพื่อปลดล็อกการสืบค้น Deep Research ได้สูงสุดถึง 500 ครั้งต่อวัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Deep Research จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและช่วยประหยัดเวลาได้ ผู้ใช้งานควรตระหนักว่า AI ยังคงมีข้อจำกัดและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อน
ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบและทบทวนรายงานที่ได้จาก Deep Research อีกครั้งก่อนนำไปใช้งานจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ใช้กระเป๋าเงินคริปโตแบบไหนดี? – ความแตกต่างของกระเป๋าเงินคริปโตแต่ละประเภท
- เปิดตัว iPhone 16E สเปค ราคา เทียบ iPhone 16 น่าซื้อไหม
- วิธีเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ LINE ให้ขยับได้ ทำเองง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน
อ้างอิง: zdnet, perplexity.ai
