รองโฆษกพรรคประชาชน ซัด นายกอิ๊งค์ ไม่ฟังฝ่ายค้าน ไม่มีผลงานให้แถลง

ภัทรพงษ์ รองโฆษกพรรคประชาชน ซัด นายกอิ๊งค์ ไม่ฟังฝ่ายค้าน ไม่มีผลงานให้แถลง สูญเปล่า 90 วัน อัดหนีการตอบกระทู้ในสภา
นาย ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการแถลงผลงานในรอบ 90 วันของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ว่าเป็นอีกครั้งที่นายกฯ แสดงถึงความไม่เข้าใจในปัญหา PM2.5 เพราะช่วงเวลาที่ต้องทำงานหนักอย่างเข้มข้นที่สุดคือการเตรียมการรับมือล่วงหน้า ดำเนินมาตรการต่างๆ ให้ความชัดเจนกับหน่วยงานของรัฐ ประชาชน เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการ ให้ได้วางแผนล่วงหน้าตามมาตรการที่ชัดเจนของรัฐบาล แต่ผ่านมา 90 วัน กลับไม่มีมาตรการใดๆ เลย และยังเลือกที่จะนำเสนอข้อมูลในมุมเดียวที่ว่า สามารถลดพื้นที่เผาไหม้ในจ.เชียงใหม่ลงได้ โดยไม่พูดความจริงที่ว่า พื้นที่การเผาไหม้ในปี 2567 ของทั้งประเทศนั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2566 และเป็นพื้นที่เผาไหม้การเกษตรที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านไร่
หากนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับสภาฯ และรับฟังมากกว่านี้ 90 วันที่ผ่านมาไม่มีทางสูญเปล่า เพราะในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ตนได้อภิปรายแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างชัดเจนทุกๆ ด้าน เป็นแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนต้องดำเนินการอะไรบ้าง นำเสนอภาพปัญหาการเผาไหม้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในปี 2567 ของพืชที่มีการเผาไหม้หลักๆ 3 ชนิด คือ ข้าว อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องมีการประกาศมาตรการล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้วางแผนปรับตัวได้ทัน แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการใดๆ เลย
1. ข้าว รัฐบาลมีโครงการสนับสนุนชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ แต่กลับไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขห้ามเผาเข้าไปในมาตรการนี้ ทั้งที่จะเป็นการเริ่มต้นเพิ่มแรงจูงใจ ลดการเผาไหม้ได้เป็นอย่างดี 2. อ้อย ตอนนี้อ้อยเริ่มเปิดหีบแล้ว อ้อยเผาเข้าสู่โรงงานแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาบังคับใช้ นายกฯ กล่าวในการแถลงผลงานว่าต้องจริงจังมากขึ้นเรื่องการเผาอ้อย โดยเฉพาะโรงงานน้ำตาลทราย แต่ถึงวันนี้ไม่มีการดำเนินการใดๆ สิ่งที่เห็นลางๆ มีเพียงสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายที่เสนอมาตรการสนับสนุนชาวสวนไร่อ้อยตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตันในการประชุม ครม.สัญจรเมื่อวันที่ 29 พ.ย.และขอให้รัฐบาลมีมติ ครม. ก่อนเปิดหีบอ้อยในฤดู 67/68 นี้ แต่รัฐบาลกลับนิ่งดูดาย และร่างระเบียบ กอน. ว่าด้วยการตัดและส่งอ้อยฯ ที่จะออกมาตรการปรับโรงงานที่รับอ้อยเผาต่อวันเกิน 25% 130 บาทต่อตัน ก็ยังอยู่ในชั้นรับฟังความคิดเห็นทั้งๆที่อ้อยเปิดหีบกันไปแล้ว
3.ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นายกฯ ประกาศทุกครั้งว่าจะไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีที่มาจากการเผา แต่จนถึงวันนี้ยังเป็นเพียงคำพูดลอยๆ ไม่มีมาตรการใดออกมา ทั้งที่ตนชี้แนวทางชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรฐานบังคับข้าวโพดไม่เผาที่จะมีผลบังคับใช้ทั้งในประเทศและการนำเข้า ป้องกันปัญหาเรื่องการละเมิด National Treatment ปฏิบัติกับต่างประเทศอย่างไรก็ต้องปฏิบัติกับในประเทศอย่างนั้น แล้วออกหลักเกณฑ์การตรวจสอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลอดห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตอาหารสัตว์ หลังจากนั้นจึงออกประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบปลอดภาษีให้สอดคล้องกัน โดยให้มีการระบุ Geo-location ของแปลงเพาะปลูกเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ หรือการใช้ข้อยกเว้นการค้าเสรีของ WTO ข้อ B และ G ตนก็เคยเสนอไปแล้วในการอภิปรายทั่วไปเมื่อเดือนเม.ย. 2567 เช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้นายกฯ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
ไม่ใช่เพียงภาคเกษตรเท่านั้นที่เราต้องเร่งดำเนินการ ภาคป่าไม้ก็ถูกเพิกเฉยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนที่รัฐบาลตัดงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าภาพหลักในการดับไฟป่าในเขตป่าสงวน จาก อบต. ทั้งหมด 1,801 แห่ง ปัจจุบันได้งบประมาณเพียง 90 แห่งเท่านั้น และสุดท้ายที่นายกฯ ได้พูดไว้ว่า จะคืนสุขภาพที่ดีให้ประชาชนคนไทยทุกคน
แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการป้องกันหรือเฝ้าระวังโรคมะเร็งปอดจากปัญหา PM2.5 ทั้งที่ตนได้อภิปรายนำเสนอไปหลายต่อหลายครั้งว่าให้ทบทวนประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยโรคที่ต้องเฝ้าระวังจาก PM2.5 ให้เพิ่มโรคมะเร็งปอดเข้าไปด้วย และเพิ่มสิทธิการตรวจมะเร็งปอดแบบ Low dose CT scan ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบค่าฝุ่น PM2.5 มาเป็นเวลานาน ทั้งหมดนี้หากรัฐบาลเปิดใจรับฟังและนำไปดำเนินการ วันนี้นายกฯ แพทองธารคงมีผลงานรัฐบาล 90 วันให้แถลงจริงๆ ไม่ใช่แค่จัดงานแถลงโดยไม่มีผลงาน เพื่อหนีการตอบกระทู้ในสภาแบบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เท้ง ฟาดนายกฯ แถลงนโยบาย ไม่ผ่านเกณฑ์ สส. เดียร์ สวน ประเมินตัวเองก่อน
- นายกอิ๊งค์ ขึ้นโชว์ผลงาน 90 วัน ย้ำวางรากฐาน มีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี
- นายกอิ๊งค์ เตรียมแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. ภายใต้ชื่อ โอกาสไทยทำได้จริง