เปิดใจ รพี ชายหาหลักฐาน สู้คดีแอมไซยาไนด์ 19 เดือน 6 วัน จนยุติธรรมปรากฏ
รพี ชำนาญเรือ ชายเบื้องหลังช่วย น้องก้อย เหยื่อแอมไซยาไนด์ สู้คดี 19 เดือน 6 วัน จนได้รับความยุติธรรม มั่นใจอีก 14 คดีที่เหลือคณะทำงานตั้งแต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานทนายฯ ไม่ปล่อยเงียบ
หลังจากวันนี้ (20 พ.ย.) ศาลอาญาถนนรัชดา พิพากษาประหารชีวิต แอม สรารัตน์ คดีไซยาไนด์ และอดีตสามี โดนจำคุก 1 ปี 4 เดือน และทนายพัช จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท ล่าสุด รพี ชำนาญเรือ ชายผู้ประสานงานช่วยคดีให้กับเหยื่อและครอบครัว อีกทั้งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ติดตามขยายผลในคดี “น้องก้อย” จนส่งฟ้องเอาผิดกันในชั้นศาล
โพสต์เปิดเผยความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ ”กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา “ คดีน้องก้อย น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ ที่เสียชีวิตด้วยสารพิษไซยาไนด์ เมื่อวันที่14 เมษายน 2566 ที่ริมน้ำบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในวันนี้คดี เดินทางมา 19เดือนกับอีก6วัน ศาลท่านพิพากษาคดี #แอมไซยาไนด์ ศาลสั่งลงโทษ
- จำเลย 1 แอม ประหารชีวิต
- จำเลย 2 ออฟ คุก 2 ปี ลดเหลือ 1 ปี 4 เดือน
- จำเลย 3 พัช คุก 2 ปี
ส่วนทางแพ่งศาลสั่งชดใช้ 2.4 ล้านกว่าบาทครับ
ทั้งนี้ ก่อนวันพิจารณาคดี 1 วัน นายรพีพูดกับนักข่าวช่อง 8 หลังจากคดีของน้องก้อยที่เดินทางมากว่า 19 เดือน ครอบครัวของเหื่อและญาติๆ เพื่อน ๆ ยังได้รับความเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินทอง เฝ้ารอจนถึงวันพิพากษาว่าจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่
มุมของคดี นายรพีเผยว่านั่งฟังเกือบทุกปาก ทั้งหมด 20 นัดในฝั่งโจทก์ ฝั่งจำเลยอีก 4 นัด ตนขึ้นฟังหมด ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ขอบคุณตำรวจที่ทำคดีตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งร้อยเรียงเรื่องราวต่าง ๆ บวกกับพยานหลักฐานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์สอดคล้องหมด
ยกตัวอย่างสั่งซื้อไซยาไนด์อยู่ในมือแอมได้ยังไง ? มีทั้งหลักฐานโอนงิน, หลักฐานของแกร๊ปที่เอาไปส่งไซยาไนด์ถึงมือแอม และพฤติการณ์พฤติกรรมของแอม ในวันที่ 14 เม.ย. 2566 ที่ไปกับน้องก้อยริมน้ำบ้านโป่งก็สอดคล้องกันหมด
หลังจากนั้นเสร็จเรียบร้อยมีการนำสารพิษไซยาไนด์ไปฝากกับกลุ่มเด็กของเพื่อนแด้ สอดคล้องกันไปหมดทั้งสัญญาณโทรศัพท์ ไลน์แชตที่คุยกัน ตนจึงมั่นใจการทำคดีของตำรวจโดยเฉพาะสอบสวนกลางหรือกองปราบฯ ทำคดีได้ดีและแน่นมาก บวกกับอัยการที่ร้อยเรื่องเรียงลำดับให้สมบูรณ์
ส่วนประเด็นที่เหลืออีก 14 คดี ยังกังวลอะไรหรือไม่ เจ้าตัวก็รับว่าเกรงเรื่องจะเงียบหาย แต่ลึก ๆ รู้สึกดีใจที่คณะทำงานในคดีนี้ โดยเฉพาะทางกองปราบฯ มีการสั่งฟ้องอีก 14 คดีแล้ว ทำให้ตนจึงเชื่อมั่นในเกียรติยศและศักศรีดิ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในจะเป็นยังไงไม่ทราบ แต่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตำรวจทุกท่านยังมีในหัวจิตหัวใจจึงเชื่อคดีที่เหลือทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและทางสำนักงานอัยการถือว่าเป็นทนายของประเทศ น่าจะนำเสนอสู้ศาลจนได้ความยุติธรรมในที่สุด.
อ่านข่าวเพิ่มเติม