เปิดตัว “Apple watch series 10” พร้อมจอ OLED ตัวเรือนบางลง ชาร์จไฟเร็วขึ้น
Apple Watch Series 10 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ประจำปีจาก Apple มาพร้อมกับหน้าจอ OLED แสดงผลได้กว้างขึ้นขึ้น ตัวเครื่องบางลง พร้อมชาร์จไฟเร็วสุดเท่าที่เคยมีมา
งานใหญ่ที่สุดประจำปีของ Apple ซึ่งจัดขึ้นในคืนวันที่ 9 กันยายน 2024 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ภายใต้ธีม It’s Glow Time ที่นอกจากไฮไลท์อย่างการเปิดตัว iPhone 16 แล้ว อีกสิ่งที่ขาดกันไม่ได้อย่างอุปกรณ์แกดเจ็ต อย่าง Apple Watch Series 10 ก็ถูกปล่อยในงานนี้เช่นกัน มาลองดูข้อมูลของสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดจากแอปเปิ้ล ว่ามีลูกเล่นและฟังก์ชันอะไรใหม่พร้อมราคาเปิดตัวในบทความนี้
Apple Watch Series 10 เป็นรุ่นที่บางและใส่สบายที่สุดเท่าที่เคยมีมา มาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดในบรรดา Apple Watch พร้อมการชาร์จเร็วขึ้น, ฟีเจอร์วัดความลึกและอุณหภูมิน้ำ, และข้อมูลด้านสุขภาพและฟิตเนสใหม่ ๆ รวมถึงความชาญฉลาดของ watchOS 11 มีให้เลือกทั้งรุ่นอะลูมิเนียมและไทเทเนียมในหลายสีและผิวสัมผัสที่โดดเด่น เช่น สีดำเจ็ทแบล็คแบบขัดเงา หรือไทเทเนียมสีธรรมชาติ, สีทอง, และสีเทาสเลทที่มีประกายสวยงาม
เพรียวบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Apple Watch Series 10 บางกว่า Series 7, 8, และ 9 ถึง 10% พร้อมคุณสมบัติใหม่และแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง ฝาหลังโลหะใหม่รวมเสาอากาศกับตัวเรือนได้อย่างลงตัว ตัวเรือนอะลูมิเนียมเบากว่า Series 9 ถึง 10% และตัวเรือนไทเทเนียมเบากว่าตัวเรือนสแตนเลสสตีลถึง 20% มีมุมมนและจอภาพกว้างขึ้น ขนาดตัวเรือนใหม่คือ 42 มม. และ 46 มม.
หน้าจอ OLED ที่แสดงผลภาพที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุด
Apple Watch Series 10 เป็นรุ่นแรกที่ใช้จอภาพ OLED ขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเพิ่มพื้นที่หน้าจอสูงสุด 30% และสว่างกว่า Series 9 ถึง 40% จอภาพแบบมุมกว้างช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นจากทุกมุม และประหยัดพลังงานมากขึ้น อัตรารีเฟรชในโหมดติดตลอดเร็วขึ้นจากทุก 1 นาทีเป็นทุก 1 วินาที ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของเข็มวินาทีได้โดยไม่ต้องยกข้อมือ
ชาร์จที่เร็วขึ้น
ฝาหลังโลหะแบบใหม่ของ Apple Watch Series 10 มาพร้อมขดลวดสำหรับการชาร์จที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ Series 10 เป็น Apple Watch ที่ชาร์จเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และทำให้การใช้งานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย การชาร์จ 15 นาทีช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน หรือชาร์จ 8 นาทีเพื่อติดตามการติดตามการนอนหลับได้สูงสุด 8 ชั่วโมง และการชาร์จเร็วยังทำให้ผู้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้สูงสุด 80% ในเวลาประมาณ 30 นาทีอีกด้วย
วัดความลึกและอุณหภูมิสำหรับกิจกรรมทางน้ำ
Series 10 เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ ด้วยการออกแบบกันน้ำที่ทนลึกถึง 50 เมตร มีฟีเจอร์ตรวจจับท่าว่ายน้ำอัตโนมัติ, นับรอบ, และการออกกำลังกายแบบกำหนดเองในสระน้ำ watchOS 11 นอกจากนี้ยังมีตัววัดความลึกใหม่วัดได้ถึง 6 เมตร เหมาะสำหรับดำน้ำสนอร์เกิลและดำน้ำตื้น รวมถึงเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิของน้ำที่แสดงข้อมูลเช่น เวลา, ความลึก, อุณหภูมิของน้ำ, ระยะเวลาที่อยู่ใต้น้ำ และความลึกสูงสุด รวมถึงตัวเลือกให้เปิดทำงานอัตโนมัติเมื่ออยู่ใต้น้ำ
เล่นเสียงผ่านลำโพงและการแยกเสียงการโทร
รุ่นนี้มาพร้อมลำโพงในตัวที่ให้เสียงชัดเจน ผู้ใช้สามารถฟังแอปต่าง ๆ เช่น Apple Music, Apple Podcasts, Apple Books และแอปอื่น ๆ รวมถึงการโทรเข้าออกได้โดยตรงจากนาฬิกา นอกจากนี้ยังใช้ Neural Engine แบบ 4-core เพื่อแยกเสียงและลดเสียงรบกวนรอบข้างในขณะคุยโทรศัพท์หรือ FaceTime ดังนั้นปลายสายจะได้ยินเสียงของผู้ใช้ชัดเจน แม้ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง เช่น ร้านอาหาร, ถนนในเมือง, หรือกลางแจ้งในวันที่ลมแรง
ระบบปฏิบัติการ watchOS 11
watchOS 11 ยังมีวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว, หน้าปัดนาฬิการูปภาพที่ออกแบบใหม่ที่ใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อช่วยผู้ใช้เลือกและจัดองค์ประกอบภาพที่ดีที่สุด, แอปแปลภาษาและเช็คอินบน Apple Watch, ความสามารถในการเลื่อนดูแอปใดๆ ก็ได้ด้วยคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”, สรุปการแจ้งเตือนที่ขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence2 และอื่น ๆ อีกมากมาย
- แอปสัญญาณชีพใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบตัวชี้วัดสุขภาพตอนกลางคืนและรับการแจ้งเตือนเมื่อค่าตัวชี้วัดผิดปกติ พร้อมข้อมูลเกี่ยวข้อง เช่น ระดับความสูงหรือการบริโภคแอลกอฮอล์
- คุณสมบัติความหนักเบาในการฝึก วัดผลกระทบของความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายเพื่อช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
- วงแหวนกิจกรรมที่ปรับแต่งได้ ตั้งเป้าหมายตามวันในสัปดาห์และหยุดวงแหวนได้โดยไม่กระทบต่อสถิติต่อเนื่อง
ราคาและการวางจำหน่าย
Apple Watch Series 10 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ถูกระบุว่าจะเปิดให้สั่งซื้อเร็ว ๆ นี้ และยังมี Apple Watch Ultra 2 ที่มาใน ‘สีไทเทเนียมดำ’ โดยยังคงวางขายในราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ซึ่งถูกกว่าครั้งแรกที่วางขายในราคา 31,900 บาท และรอบนี้ยังมี Apple Watch Hermès Ultra จำหน่ายในราคา 50,500 บาท โดยเริ่มวางขาย 20 กันยายนนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง