แรปเปอร์เกาหลี ‘Sik-K’ เข้ามอบตัวกับตำรวจ ข้อหาใช้สารเสพติด
สื่อเกาหลียืนยัน แรปเปอร์ชื่อดัง Sik-K เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหาเคยใช้สารเสพติด และครอบครองกัญชา สาเหตุเกิดจากการเพ้อเพราะผลข้างเคียงของยารักษาโรค ไม่ใช่มอบตัวเพราะเมากัญชา
สืบเนื่องจากข่าวร้อนแรงที่รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 แรปเปอร์ชื่อดัง Sik-K เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้กับสำนักงานกิจการทหารผ่านศึกภูมิภาคโซลในเมืองยงซาน ในข้อหาใช้สารเสพติด
ล่าสุดวันนี้ (29 เมษายน 2567) สำนักข่าวเกาหลี naver รายงานว่า สำนักงานกฎหมาย Sedam ตัวแทนทางกฎหมายของแรปเปอร์ชื่อดัง Sik-K กล่าวว่า “ในเช้าวันที่ 19 มกราคม ขณะที่ซิกเค (Sik-K) แสดงอาการเพ้อ เขาได้แสดงความตั้งใจที่จะมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานใกล้กับสำนักงานกิจการทหารผ่านศึกภูมิภาคกรุงโซล โดยได้ยอมรับว่าเขาเคยเสพยา ซึ่งทำให้เขาถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจในท้องที่เพื่อใช้มาตรการป้องกัน”
ภายหลังการสอบสวน และการวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์โดยละเอียดของ National Forensic Service พบว่า ผลการทดสอบยาเสพติดเป็นบวก ด้วยเหตุนี้ Sik-K จึงถูกส่งไปยังสำนักงานอัยการเขตตะวันตกของกรุงโซลพร้อมคำแนะนำในการดำเนินคดีในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติควบคุมยาเสพติด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกควบคุมตัวก็ตาม
ทั้งนี้ ตัวแทนทางกฎหมายของเขาได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า Sik-K เคยใช้กัญชาเมื่อในอดีตจริง แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเขาได้เข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่และออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 18 มกราคม 2567 ซึ่งเขาได้รับการสั่งยาระงับประสาทหลายชนิด อาทิ propofol และ lidocaine และยาแก้ปวด tramadol รวมทั้งยานอนหลับ
ผลข้างเคียงของการผ่าตัดทำให้มีภาวะเพ้อ และออกจากบ้านไปยังสถานีตำรวจเพื่อสารภาพว่าใช้ยา ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบแล้วไม่เจอสารเสพติดในร่างกาย ดังนั้นสภาวะเพ้อสับสนของเขาจนออกไปมอบตัวนั้น เกิดจากการนอนหลับไม่เพียงพอและผลของยารักษาโรค ไม่ใช่การใช้สารเสพติดก่อนที่จะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในขณะนี้ข่าวดังกล่าวยังคงถูกพูดถึงอย่างร้อนแรง แฟน ๆ และชาวเน็ตพากันวิจารณ์กับการกระทำของแรปเปอร์ดัง
สำหรับผลงานล่าสุดของ Sik-K เขาเปิดตัวอัลบั้มไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังเกิดเหตุการณ์มอบตัวกับตำรวจ และในปัจจุบันเป็นหนึ่งในศิลปินที่จะขึ้นแสดงในงาน HIPHOPPLAYA FESTIVAL วันที่ 4 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
ภาพจาก : younghotyellow94
ภาพจาก : younghotyellow94
อ่านข่าวที้เกี่ยวข้อง