สั่งย้าย ผู้บังคับการเรือหลวงชลบุรี เซ่นปืนใหญ่ลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ เจ็บ 14 ราย
สั่งย้ายแล้ว ผู้บังคับการเรือหลวงชลบุรี หลังปืนใหญ่ลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย เตรียมสอบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
พลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ร่วมกับพลเรือตรี เฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ แถลงกรณีไฟไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ หลังจากที่ปืนใหญ่เรือหลวงชลบุรี ลั่นใส่ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ เปิดเผยว่า เรือหลวงชลบุรี ได้ออกเรือเพื่อทำการฝึกยิงปืนในทะเล แต่ปืนเรือได้มีการขัดข้อง และสามารถทำการยิงต่อไปได้ โดยระหว่างการฝึกยิงปืนรอบสุดท้าย จึงกลับมาจอดเรือที่ฐานทัพเรือสัตหีบ
ทั้งนี้จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธทหารเรือทราบว่า ตรวจพบลูกปืนหนึ่งนัด อยู่ในถาดบรรจุ และอีกสองนัดอยู่บนพลูป้อนลูกปืน และมีปลอกกระสุนที่ยิงออกไปแล้ว ถูกขัดอยู่บริเวณนิรภัยลองเปล่า ทำให้ลำกล้องปืนไม่เลื่อนเข้าไปสู่สภาวะปกติ เนื่องจากปืนอยู่ในสถานะปลอดภัย ลูกปืนไม่อยู่ในสถานะพร้อมยิง มีกลไลนิรภัยที่จะห้ามไก ช่างสรรพาวุธ จึงมีแนวคิดในการถอนลองลูกปืนที่ค้างก่อน เพื่อจะถอนลูกปืนออกจากตัวปืนได้
แต่ในระหว่างเริ่มดําเนินการซ่อม ปืนเกิดอาการกลับเข้าที่ข้างหน้าอย่างรุนแรง ทําให้ลูกปืนที่อยู่บนถาดบรรจุถูกผลักเข้าไปในรังเพลิง และลูกเลื่อนปิดทันทีที่ลูกปืนเข้ารังเพลิง ก่อนลั่นออกจากปืน จึงสรุปได้ว่า สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิด แต่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากความปกติของเครื่องนิรภัยการลั่นไก
ด้าน ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการกล่าวว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหาย บริเวณท้ายเรือของเรือหลวงคีรีรัฐทำให้เกิดความเสียหายจำนวนสี่ห้องบริเวณท้ายเรือ คือ ห้องใต้ป้อมปืนขนาด 40 มม. ห้องครัว ห้องเสมียนช่างกล และห้องน้ำนายทหาร ซึ่งไม่มีอุปกรณ์สำคัญของเรือได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และเรือหลวงคีรีรัฐ ยังคงมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการ โดยกองเรือยุทธการ ได้ประสานให้กรมอู่ทหารเรือ เข้ามาตรวจสอบ เพื่อดำเนินการซ่อมทำให้อยู่ในสภาพเดิมต่อไป
ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บทั้ง 14 นาย ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ปัจจุบันกลุ่มผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 9 นาย ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บที่ต้องการการเฝ้าระวัง จำนวน 5 นาย ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจร่วมกับการทำการรักษาด้วยเครื่องปรับความดันบรรยากาศสูง เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บในระบบทางเดินหายใจ โดยปัจจุบันทุกนายมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ยังคงเหลือผู้ป่วยที่ยังอยู่ห้อง ICU จำนวน 2 นาย
นอกจากนั้นกองทัพเรือยังได้มีการช่วยเหลือเยียวยาโดยได้มอบเงินสวัสดิการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ทรัพย์สินเสียหายให้กับทุกคน และมีการบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลประจำเรือ 111 นาย
ส่วนผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจุบันทางกองกองเรือตรวจอ่าว ได้ลงคำสั่งให้ผู้บังคับการเรือหลวงชลบุรีมาช่วยราชการที่ กองบัญชาการกองเรือตรวจอ่าวแล้ว โดยจะมีการสอบสวนผู้บังคับการเรือ และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีความผิดพลาดก็จะมีการพิจารณาโทษ โดยไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า กองทัพเรือมีการดำเนินการเป็นมาตรฐาน ตามขั้นตอน ซึ่งในขั้นตอนแรก คือการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้กองเรือยุทธการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและทำการสอบสวน ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ภายใน 3 วันตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งการ สิ่งที่ได้จากขั้นตอนนี้ คือ สาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งกองเรือยุทธการ ได้จัดทำรายงานผลการสอบสวนนำเรียนผู้บัญชาการทหารเรือแล้ว จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีปัจจัยที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องขององค์วัตถุและองค์บุคคล ซึ่งกองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องต่าง ๆ ดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติ และหากพบว่ามีการกระทำผิดในขั้นตอนใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้น จะพิจารณาลงโทษต่อไป รวมทั้งดำเนิน การทบทวนมาตรการและขั้นตอนปฏิบัติ เพื่อมิให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง