รู้หรือไม่ หากไอโฟน (iPhone) เปียกน้ำ ห้ามนำไปแช่ถังข้าวสาร เพราะนั่นอาจทำให้สมาร์ทโฟนของคุณเสียหายได้ และต้องทำเช่นไรให้ไอโฟนกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นเดิม ที่นี่มีคำตอบ
สาวกแอปเปิ้ลต้องรู้ ไอโฟนเปียก น้ำเข้าโทรศัพท์ ไอโฟนตกน้ำ ต้องทำอย่างไร เพื่อให้ไอโฟนกลับมาใช้ได้ดังเดิม ทั้งยังได้ผลจริง ปลอดภัย และไม่ทำลายไอโฟนของคุณ
เดิมทีบรรดาคุณ ๆ ก็อาจจะนำโทรศัพท์ไปเป่าแห้งด้วยไดร์ หรือไม่ก็นำไปแช่กับข้าวสาร แต่รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นการทำลายไอโฟนของคุณโดยไม่รู้ตัว เพราะเศษข้าวสารเล็ก ๆ อาจหลุดเข้าไปในโทรศัพท์จนก่อให้เกิดความเสียหายได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ควรจะทำอย่างไรดีล่ะ
เคล็ดลับที่ไม่ลับ “การทำให้ iPhone แห้ง”
หากไอโฟนของคุณเปียก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งการทำตกน้ำหรือแม้แต่เปียกน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ เพียงคุณทำตาม 2 วิธีง่าย ๆ นี้ สมาร์ทโฟนก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ดังเดิม ซึ่งขั้นตอนแรกคือ ให้ยก iPhone ของคุณขึ้นในแนวตั้งโดยให้ช่องต่อคว่ำลง เพื่อให้น้ำสามารถระบายไหลลงมาได้ ต่อมาขั้นที่สองเป็นการวางไอโฟนของคุณไว้ในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท
จากนั้นให้ปล่อยไอโฟนของคุณไว้อย่างน้อย 30 นาที และให้ลองชาร์จด้วยสาย Lightning หรือ USB-C หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอีกครั้ง และหากคุณเห็นข้อความแจ้งเตือน “ตรวจพบน้ำ” แสดงว่ายังมีน้ำอยู่ในช่องต่อหรือใต้หมุดของสายเคเบิลของคุณ และนำ iPhone ของคุณไปไว้ในที่แห้งที่มีอากาศถ่ายเทเป็นเวลา 1 วัน
อย่างไรก็ดี ในระหว่างการนำไอโฟนไปวางในที่แห้ง คุณสามารถลองชาร์จหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมเพื่อตรวจสอบว่าโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ปกติหรือยัง ซึ่งไม่เกิน 24 ชั่วโมงไอโฟนก็จะแห้งสนิทในที่สุด หากครบ 1 วันแต่ยังใช้งานไม่ได้ คุณสามารถติดต่อไปยังศูนย์ซ่อม หรือร้านค้า iPhone เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คความผิดปกติ
ไอโฟนเปียก อย่าเพิ่งชาร์จแบตเตอรี่
สำหรับผู้ใดที่ใช้ iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR หรือรุ่นที่ใหม่กว่า เมื่อคุณเชื่อมต่อสาย Lightning หรือ USB-C หรืออุปกรณ์เสริมเข้ากับสมาร์ทโฟนแล้ว และหากตรวจพบน้ำอยู่ในช่องต่อโทรศัพท์ของคุณก็จะแสดงข้อความแจ้งเตือนทันที
- “ตรวจพบน้ำในช่องต่อ Lightning” ข้อความแจ้งเตือนนี้จะปรากฏขึ้นหากคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม Lightning เข้ากับ iPhone ของคุณ หลังตรวจพบน้ำในช่องต่อ
- “ตรวจพบน้ำ” ข้อความแจ้งเตือนนี้จะปรากฏขึ้นหากคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม USB-C เข้ากับ iPhone ของคุณ ในกรณีที่ไอโฟนตรวจพบน้ำ
เช่นนั้นแล้ว หากไอโฟนอยู่ในสภาพที่เปียกจึงไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ เพราะการชาร์จ iPhone ในขณะที่ช่องต่อ Lightning หรือ USB-C อยู่ในสภาพที่เปียก หมุดบนตัวเชื่อมต่อหรือสายชาร์จอาจสึกกร่อน และทำให้เกิดความเสียหายถาวรหรืออาจเพียงแค่หยุดทำงานชั่วคราว เช่นนั้นจึงไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ในขณะทีไอโฟนของคุณยังคงเปียก
ในกรณีหากคุณจำเป็นที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าโทรศัพท์จะเปียกอยู่ก็ตาม คุณสามารถใช้แท่นชาร์จไร้สาย (magsafe) แทน แต่เพื่อให้แท่นชาร์จไม่เสียหาย ก่อนชาร์จควรจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าด้านหลังของ iPhone ของคุณแห้งดีแล้ว
สำหรับสาวกแอปเปิ้ลคนใดไม่มีแท่นชาร์จไร้สาย แต่จำเป็นต้ององชาร์จแบตเตอรี่จริง ๆ คุณสามารถกดยกเลิกการตรวจจับน้ำที่แสดงอยู่หน้าจอโทรศัพท์ และชาร์จ iPhone ของคุณต่อไปได้
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากไอโฟนของคุณเปียก
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรทำ หากไอโฟนของคุณอยู่ในสภาพที่เปียก มีด้วยกัน 3 ข้อ ดังนี้
1. ห้ามทำให้ iPhone ของคุณแห้ง โดยใช้แหล่งความร้อนภายนอกหรือใช้ลมอัด อาทิ การใช้ไดร์เป่าผม
2. ห้ามใส่สิ่งของแปลกปลอมเข้าไปในช่องต่อ ไม่ว่าจะเป็นคอตตอนบัด หรือกระดาษทิชชู่
3. ห้ามนำ iPhone ของคุณใส่ลงไปในถังข้าวสาร หรือถุงข้าวสาร เพราะการทำเช่นนี้อาจทำให้เศษข้าวขนาดเล็กเข้าไปทำลาย iPhone ของคุณได้
อย่างไรก็ดี หากคุณเห็นข้อความแจ้งเตือน “ตรวจพบน้ำ” ทุกครั้งที่เชื่อมต่อสายเคเบิล Apple Lightning หรือ USB-C รวมถึงอุปกรณ์เสริมบางอย่าง ทั้ง ๆ ที่ไอโฟนของคุณไม่เปียก มีความเป็นไปได้ว่า สายเคเบิลหรืออุปกรณ์เสริมนั้นอาจเสียหาย ดังนั้นคุณสามารถนำไอโฟนและอุปกรณ์เสริมที่สั่งซื้อจาก Apple Store หรือร้านค้าอื่น ๆ ในเครือ ไปติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple ได้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความผิดปกติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิธีปิดเสียง “เฟสบุ๊กอัปเดต” บนไอโฟน แก้ไขชั่วคราว หยุดปัญหากวนใจ
- Apple เผยสาเหตุที่ทำให้ iPhone 15 เครื่องร้อนเกินกว่าปกติ
- รวมข่าวลือ iphone 16 เตรียมเปิดตัวสเปคใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม