5 โรคที่มากับหน้าหนาว ปวดหัวเมื่อยตามตัว เหมือนจะมีไข้ รู้ไว้ไม่มีป่วย
ทำความรู้จัก 5 โรคร้ายแฝงมาในฤดูหนาว พร้อมแนะนำวิธีป้องกันแล้วแนวทางในการรักษาจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข เช็กอาการเบื้องต้นใครที่รู้สึกหนาว ๆ สั่น ๆ เหมือนจะเป็นไข้ หรือปวดเมื่อยตามตัว เสี่ยงป่วยเป็นโรคอะไรได้บ้าง เตรียมต้อนรับสายลมเย็นจากฤดูหนาวส่งท้ายปลายปีนี้ เหตุจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิลดลงฉับพลันอาจทำให้ร่างกายไม่ทันได้ปรับตัวจนโรคภัยไข้เจ็บเข้ามารุมเร้า วันนี้จึงขอพาทุกคนมารู้จักโรคร้ายที่มาในหน้าหนาว รวมทั้งวิธีรักษาและป้องกันจากกรมควบคุมโรค เพื่อสามารถใช้ชีวิตในหน้าหนาวอย่างมีความสุข
1. โรคไข้หวัด
สำหรับโรคไข้หวัด เกิดจากการเปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อร่างกายอ่อนแอก็สามารถติดเชื้อไวรัสได้โดยง่าย อีกทั้งโรคนี้ยังสามารถติดต่อกันได้ทางอากาศ โดยอาการเบื้องต้นจะมีไข้ต่ำ คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการตาบวมและน้ำตาไหลด้วย
วิธีรักษาโรค
ไข้หวัดนั้นเกิดจากเชื้อไวรัส สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติภายใน 1 สัปดาห์ โดยวิธีรักษาคือ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่
วิธีป้องกันโรค
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ ด้วยการสวมเสื้อผ้าแขนยาว ขายาว สวมถุงเท้า เพื่อป้องกันอากาศหนาว
2. โรคไข้หวัดใหญ่
โรคที่ระบาดหนักในช่วงหน้าหนาว คือ โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอ็นซา (influenza virus) สามารถติดต่อได้จากการ ไอ จาม หรือแพร่เชื้อในสถานที่แออัดหรือรวมกลุ่ม รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่เปื้อนน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วย เช่น โทรศัพท์ แก้วน้ำ ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น
อาการเบื้องต้นจะมีไข้ปานกลางถึงสูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาจมีน้ำมูกหรือไอ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต โดยผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป
วิธีรักษาโรค
หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว ให้รักษาตามอาการ เช่น หากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล มีน้ำมูกให้รับประทานยาลดน้ำมูก หากอาการป่วยหนักขึ้นเรื่อย ๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยโดยเร็วที่สุด
วิธีป้องกันโรค
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง
- หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด
3. โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ
ภัยร้ายต่อมาอย่างโรคปอดอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ปอด ทำให้เนื้อปอดบริเวณนั้นเกิดหนองและไม่สามารถรับออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ สามารถติดต่อได้จากการไอ จาม หรือหายใจรดกัน อาการเบื้องต้นจะหายใจลำบาก หอบเหนื่อย ไอ มีเสมหะ มีไข้สูง อาจมีอาการไอปนเลือด โดยอาการจะรุนแรงมากในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
วิธีรักษาโรค
ให้รีบมาพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรับยาปฏิชีวนะและยาลดไข้ ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
วิธีป้องกันโรค
- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
- หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำกับสบู่ และเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ
4. โรคหัด
โรคหัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสรูบีโอรา (Rubeola virus) สามารถติดต่อจากระบบทางเดินหายใจ หรือการสัมผัสน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วยโรคหัด แพร่กระจายจากคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว มีระยะฝักตัวประมาณ 10 – 14 วัน อาการเบื้องต้นจะมีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ ตาแดง พบจุดสีเทาขาวบริเวณกระพุ้งแก้มตรงข้ามกับฟันกรามซี่ใน มีตุ่มเล็ก ๆ สีแดงคล้ำขึ้นตามผิวหนัง มักพบได้มากในเด็กเล็ก
วิธีรักษาโรค
เมื่อเป็นโรคหัดแล้วให้รักษาตามอาการ เนื่องจากไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง หรือไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยและแนะนำแนวทางการรักษาโรค หากมีไข้ให้รับประทานยาพาราเซตามอล
วิธีป้องกันโรค
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
5. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
สิ่งที่มาพร้อมกับหน้าหนาวอย่างโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อไวรัสโรต้า (Rotavirus) เจือปน มักพบได้ง่ายในช่วงฤดูหนาว อาการเบื้องต้นจะปวดท้อง ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำหลายครั้ง อาเจียน ปวดท้อง มีไข้ อ่อนเพลีย หากเกิดในเด็กทารกอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โรคนี้เป็นมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
วิธีรักษาโรค
หากมีอาการท้องเสียให้จิบเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป หรือรับประทานยาบรรเทาอาการท้องเสีย
วิธีป้องกันโรค
- ดูแลสุขภาพอนามัยของอาหารและน้ำอยู่เสมอ
- หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำกับสบู่ และเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
โรคที่มาพร้อมกับหน้าหนาวนั้น หากเรารู้จักวิธีดูแลป้องกัน รักษาสุขภาพให้ดี อีกทั้งรับประทนอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้มาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้โรคร้ายมายุ่งเกี่ยวกับเราได้แล้ว ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดฤดูแห่งความหนาวเย็นนี้กันทุกคนนะครับ
อ้างอิงจาก กรมควบคุมโรค, โรงพยาบาลเปาโล
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง