ผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ทางทะเล แจ้งความคืบหน้าสถานการณ์เอลนีโญในไทย รุนแรงสุดไปจนถึงสิ้นปี 2566 คาดลากยาวไปปีหน้าด้วย เตือนภาคใต้อากาศเริ่มแปรปรวน
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat อัปเดตความคืบหน้าสถานการณ์เอลนีโญ (El Nino) ในประเทศไทย โดยระบุว่า
“มาอัปเดทเอลนีโญกันบ้างครับ
ข้อมูลล่าสุดจาก NOAA บอกว่าเอลนีโญแรงสุดนับแต่นี้ไปจนถึงสิ้นปี จากนั้นจะเริ่มลดลง
แต่ลดลงหมายถึงยังไม่จบ ลากยาวไปเดือนมีนาคมเกือบจะแน่นอน และอาจจะนานกว่านั้น
เรากำลังเข้าสู่ปลายฝนทางเหนือ/อีสาน หลังจากนี้คงต้องรออีกนานกว่าจะมีฝนมาใหม่
อีกเดี๋ยวจะเป็นช่วงฝนภาคใต้ แต่ปีนี้ค่อนข้างแปรปรวน มีความเป็นไปได้ที่ฝนจะน้อยกว่าปรกติ
คราวนี้มาดูทะเล แผนที่จาก NOAA แสดงการทำนายอุณหภูมิผิวหน้าน้ำทะเลในเดือนต่างๆ ไปถึงมีนาคม/ต่อเนื่อง
ทะเลอ่าวไทยจะร้อนผิดปรกติแบบแรงหน่อยช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ แต่เผอิญเป็นหน้าหนาว น่าจะพอไหวอยู่
ที่ห่วงคือมีนาคม/เมษายน/พฤษภาคม เป็นช่วงน้ำร้อนพีคของทะเลไทยตามฤดูกาล เมื่อมีเอลนีโญที่ยังไม่จบทับซ้อนลงไป จะเป็นอย่างไรบ้าง
สิ้นปีนี้ผมจะขยายผลเร่งสำรวจแนวปะการังต่างๆ และข้อมูลสมุทรศาสตร์ไว้เท่าที่ทำได้ นอกเหนือไปจากพื้นที่เดิมๆ ที่ทำไว้ก่อนหน้านั้น
หากเกิดปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่จริง ข้อมูลพวกนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
สำหรับเพื่อนธรณ์ที่ดำน้ำไปตามจุดต่างๆ ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน หากอยากช่วย ลองถ่ายภาพปะการังในมุมที่จำได้ไว้ เผื่อเกิดอะไรในปีหน้า เราจะได้มีข้อมูล before & after
เรื่องพวกนี้จะมีความสำคัญมากต่อการรับมือและดูแลระบบนิเวศในยุคโลกร้อนครับ”
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในปีนี้ ประเทศไทยจะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเอลนีโญในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม และต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ จากข้อมูล Ocean Nino index (ONI) ที่แสดงการเกิดปรากฏการณ์เอนโซในอดีต พบว่าปรากฎการณ์เอลนีโญจะไม่ลากยาวเหมือนปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง 2-3 ปี
