ข่าว

อดีตไอดอลสาวสไตล์ญี่ปุ่น ถูกช่างภาพตั้งกล้องถ่ายตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า

อดีตไอดอลสาวสไตล์ญี่ปุ่น ถูกช่างภาพตั้งกล้องถ่ายตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้านตากล้องรับสารภาพทำจริง เผยเคยไปใช้สำเร็จความใคร่

กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้นำตัวส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี อดีตวงไอดอลสาวสไตล์ญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นครีเอเตอร์ทาง TikTok และ YouTube เล่าข่าวศิลปินจีน เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับช่างภาพอิสระรายหนึ่ง หลังหญิงสาวผู้เสียหายลงบันทึกประจำวัน เมื่ออังคาร ที่ผ่านมาว่า ถูกคู่กรณีตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ เหตุเกิดที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง ย่านสุทธิสาร

Advertisements

โดยผู้เสียหายเล่าว่า ตนต้องการถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกให้แฟนคลับในงานแฟนมีตติ้ง ซึ่งตนรู้จักกับช่างภาพดังกล่าว เนื่องจากอดีตวงของตนเคยว่าจ้างเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ประจำ ด้วยความสนิทและเชื่อใจจึงติดต่อให้มาถ่ายภาพให้ โดยระหว่างการถ่ายภาพนั้น จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เลยเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นตนสังเกตนาฬิกาดิจิทัลตั้งอยู่ รู้สึกเอะใจว่าไม่ควรมาอยู่ในห้องน้ำ ห้องแต่งตัวเช่นนี้

จากนั้นตนเลยใช้ไฟฉายส่องดูก็พบว่ามีกล้องซ่อนอยู่ ประกอบกับมุมที่ตั้งนั้นก็หันไปทางที่นางแบบต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพอดี จากนั้นในช่วงที่ตนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะกลับ ก็สังเกตอีกว่าทำไมนาฬิกาเดินไม่ตรงกับเวลาจริง ด้วยความตกใจตนเลยตะโกนบอกช่างภาพดังกล่าวว่าเจอกล้องในห้องแต่งตัว และตนรู้สึกไม่สบายใจ ตนเลยนำกล้องดังกล่าวออกมาจากห้องน้ำ และมาวางในจุดที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้

พร้อมกับบอกช่างภาพว่าช่วยแกะมันออกมาหน่อย แต่ช่างภาพก็ปฏิเสธ ก่อนถามกลับว่า มันมีด้วยเหรอ กล้องในห้องน้ำ จากนั้นก็แกะให้ แต่แกะเฉพาะตรงที่เป็นถ่าน ก่อนอ้างว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของเจ้าของสตูดิโอ ต่อมาช่างภาพก็อ้างว่าได้ถามเจ้าของสตูดิโอแล้วบอกว่า มันคือเครื่องวัดอุณหภูมิ แต่ตนก็แปลกใจตรงที่ว่าเครื่องวัดอุณหภูมิอะไร ทำไม่มีหน่วยองศาเซลเซียสขึ้นมาเลย และมันไม่ควรมาอยู่ในห้องน้ำเช่นนี้

ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า คู่กรณีไม่มีท่าทีตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย พร้อมบอกกับตนว่าไม่เป็นไร พี่จะขอเก็บไว้เป็นของกลาง และจะไปแงะดูที่บ้านว่ามีกล้องจริงมั้ย ก่อนที่ต่อมาตนได้ไปเสิร์ชดูก็พบนาฬิกาแบบเดียวกัน และพบว่ามันเป็นกล้องวงจรปิด ไม่ใช่นาฬิกา ซึ่งสามารถควบคุมด้วยโทรศัพท์ได้

Advertisements

ส่วนในวันนี้ที่ตนต้องมาพูดคุยกับคู่กรณี และจะเอาเรื่องนั้นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้มีเพจออกมาเตือนมามีช่างภาพรายหนึ่งพยายามซ่อนกล้องในห้องแต่งตัว ซึ่งเป็นลักษณะนาฬิกา ประกอบกับมีแฟนคลับตนทักมาหลายคนว่า ช่างภาพรายนี้เคยมีข่าวแอบถ่าย และพบว่ากล้องนั้นเป็นตัวเดียวกันเลย ก่อนจะพบว่าขณะนี้มีผู้เสียหายที่ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน 3-4 คนแล้ว โดยไปถ่ายที่สตูดิโอเดียวกัน ช่างภาพคนเดียวกัน พบกล้องเหมือนกัน มุมเดียวกัน

รวมถึงตนได้ขอภาพกล้องวงจรปิดจากสตูดิโอเพื่อให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ และพบว่าช่างภาพคนดังกล่าวเป็นคนนำกล้องไปตั้งในห้องแต่งตัว นำกล้องออกมา และหลังเกิดเหตุก็พยายามจะเปลี่ยนเมมโมรีการ์ดของกล้อง ตนจึงมั่นใจว่าช่างภาพนายดังกล่าวเป็นคนกระทำอย่างแน่นอน ส่วนตอนนี้ไม่ทราบว่ากล้องอยู่ที่ไหน

ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เบื้องต้นยอมรับทั้งหมด สิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวนั้น ตนยอมรับว่าทำไปจริงทั้งหมด ยอมรับผิดทุกอย่าง ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนที่เป็นช่างภาพว่าควรมีจรรยาบรรณ ไม่ควรตั้งกล้องแอบถ่าย อีกทั้งตนรู้สึกเสียใจที่ทำให้นางแบบ คนในวงการเสียใจ

พร้อมยืนยันว่าลบคลิปไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพที่แอบถ่ายนั้นไม่ได้ตั้งใจถ่ายเพื่อนำมาใช้ในการสำเร็จความใคร่ แต่ยอมรับว่าเคยมีบางส่วนที่ใช้ในการสำเร็จความใคร่ ตนก่อเหตุลักษณะนี้มาประมาณ 1 ปี มีผู้เสียหาย 5-6 ราย

สุดท้ายอยากขอโทษผู้เสียหายทุกคน โดยเฉพาะผู้เสียหายรายนี้ที่มีความเชื่อใจให้กับตน ซึ่งตนได้ทำลายมันพังลงหมดแล้ว พร้อมกับอยากขอโทษเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำให้เสื่อมเสียและกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงาน ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่กลับมาประกอบอาชีพช่างภาพอีก ยอมให้สังคมประนาม และรับกรรมที่ต้องเผชิญ

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button