ศาลไม่ให้ประกัน ตำรวจ 6 นายเอี่ยวคดีกำนันนก หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
ตำรวจ 6 นาย เอี่ยวคดีกำนันนกสั่งยิงสารวัตรแบงค์ ช่วยเหลือทำลายหลักฐาน พาหนี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ไม่ให้ประกันตัว เหตุโทษสูงอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณี ข่าวการเสียชีวิตของ พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่บ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรืออดีตกำนันนก จังหวัดนครปฐม ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย.66) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ตำบลแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้มีการพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 ไม่สมควรที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะอาจเป็นเหตุให้หลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนได้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
สำหรับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้ยื่นคำร้องขอหมายขังและนำตัวตำรวจ 6 นาย มารับฟังการพิจารณาคดี ประกอบด้วย
- พ.ต.ต. เกียรติศักดิ์ สมสุข
- ร.ต.ท. ประสาร รอดผล
- ร.ต.ท. นิมิตร สลิดกุล
- ร.ต.ต. สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์
- ร.ต.ท. ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ
- ร.ต.อ. ณัฏฐพล นาคกร
สำหรับตำรวจทั้ง 6 นาย ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมก่อนมีการเสนอต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
อีกทั้ง เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด และร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ
โดยให้พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่บ้าน ประวีณ จันทร์คล้าย หรืออดีตกำนันนก จังหวัดนครปฐม
ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เรียกไต่สวนคำร้องขอให้ออกหมายขัง และพิจารณาหลักฐานของผู้ร้องแล้วเห็นว่า ผู้ร้องมีพยานหลักฐานตามสมควรว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 เป็นผู้ซึ่งศาลได้ออกหมายจับได้อยู่ก่อนแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 น่าจะได้กระทำความผิดอาญาตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 ตามคำร้อง มีกำหนด 12 วันนับแต่วันนี้ โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสอบสวน
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เชื่อว่าหากผู้ต้องหาทั้ง 6 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วอาจจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 6 ในระหว่างสอบสวน ให้ยกคำร้อง โดยได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 และผู้ประกันทราบแล้ว.