บิ๊กโจ๊ก เผยกู้ เซิร์ฟเวอร์กำนันนก ได้ 100% แล้ว สั่งออกหมายจับลูกน้องกำนันนก ซึ่งเป็นพลเรือนอีก 5 ราย เตรียมจำแนกตำรวจเป็น 3 กลุ่ม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกำนันนกหรือเหตุยิงตำรวจนครปฐม จนเป็นเหตุให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บอีก 1 นาย ว่าจะออกหมายจับลูกน้องกำนันนก ซึ่งเป็นพลเรือนเพิ่มอีก 5 ราย หลังพบว่าร่วมกันกระทำความผิด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถกู้เซิร์ฟเวอร์วันเกิดเหตุได้ 100% แล้ว
เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำพยานตลอดทั้งวัน โดยคาดว่าจะสอบพยานเสร็จภายใน 3-4 วันนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเรียกพยานทั้งในเหตุการณ์และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำพยานเรื่อยๆ ส่วนการสอบปากคำวันนี้โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายเก่ง ลูกน้องของกำนันนก และนายโบ๊ท คนที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้ง ฐานความผิดทำลายหลักฐาน
ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้ทราบว่ามีทั้งหมด 36 คน มีตำรวจ 26 นาย และพลเรือน 10 ราย ในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงตอนนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พาคนเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล กลุ่มตำรวจที่ช่วยทำลายหลักฐาน และส่วนที่สามคือตำรวจที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ซึ่งต้องมาดูกันว่ามีใครอยู่ในกลุ่มไหนบ้าง โดยตอนนี้มีความคืบหน้ามากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวนคดี
สำหรับประเด็นที่ตำรวจพาคนเจ็บและผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ได้รับรายงานว่ามีประมาณ 10 คนด้วยกัน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ามีมากกว่านี้หรือไม่แต่ยืนยันว่าไม่เหมารวมว่ามีตำรวจมาช่วยทั้งหมด หากพบว่ามีการช่วยเหลือจริงก็อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะการช่วยเหลือถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าทีเช่นกัน ส่วนตำรวจที่เหลือก็อาจมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ทำอะไรเลย
ขณะที่ประเด็นที่มีคนอ้างตัวว่าเป็นลูกน้องของกำนันนก ได้มีการโพสต์ลงในโซเชียลว่าจะมีการรวมตัวกันเพื่อชิงตัวประกัน ในส่วนทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใครแต่ยังไม่ถือว่ามีการกระทำความผิด แต่จะมีการเรียกตัวมาปรับทัศนคติและทำความเข้าใจ
สำหรับการทำงานของตำรวจชุดคลี่คลายคดีนอกจากจะทำเรื่องคดีที่มีการเสียชีวิตกันแล้ว หลังจากนี้จะมีการแตกกิ่งก้านสาขาไปจนถึงเรื่องธุรกิจของกำนันนกด้วย ว่าจะมีความผิดฐานฮั้วประมูลหรือไม่ รวมถึงเรื่องการฟอกเงิน หากพบความผิดก็จะมีการดำเนินคดี ร้ายแรงที่สุดอาจจะถึงขั้นยึดทรัพย์
ในส่วนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่มีการค้นพบเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานมาว่าสามารถกู้คืนได้อย่างแน่นอน เพราะสภาพยังสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 วัน ซึ่งต้องรอเอกสารออกมาให้ชัดเจนก่อนเพราะตอนนี้มีเพียงการพูดคุยเท่านั้น ซึ่งหลักฐานกล้องวงจรปิดตัวนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถระบุได้ว่ามีใครอยู่ในที่เกิดเหตุและใครเป็นคนลงมือยิง
