ไลฟ์สไตล์

เปิดกรุของเล่น Barbie จากตุ๊กตา Beauty Standard สู่แรงบันดาลใจคนทั่วโลก

เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงทั่วโลกอย่างมากสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Barbie ที่มีแผนจะเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ที่กำลังจะถึงนี้ อาจกล่าวได้ว่า “บาร์บี้” เป็นตุ๊กตาของเล่นที่ฝังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับเด็กผู้หญิง

ด้วยความที่ตุ๊กตาบาร์บี้เป็นภาพแทนของผู้หญิงรูปลักษณ์สวยงามตามมาตรฐานความสวยในยุคก่อน แม้ว่าในภายหลังจะเปลี่ยนมาใช้คอนเซปต์ “Barbie You Can Be Anything” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงทั่วโลก รวมถึงการออกแบบสไตล์ตุ๊กตาบาร์บีมามากกว่า 200 อาชีพ ยิ่งทำประวัติศาสตร์ของตุ๊กตาบาร์บี้ไม่มีที่สิ้นสุด

และเนื่องในโอกาสที่ใกล้จะถึงวันเข้าฉายภาพยนตร์ Barbie (2023) เดอะไทยเกอร์ไม่รอช้า ขอพาทุกคนย้อนเวลากลับไปในวัยเด็กอันแสนหวาน โลดแล่นสู่จินตนาการที่ไร้สิ้นสุดกับตุ๊กตาสาวสวยบาร์บี้ กว่าจะผ่านมาจนถึงภาพยนตร์ฉบับคนแสดงนั้น จุดเริ่มต้นประวัติของตุ๊กตาบาร์บี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ไปติดตามอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย

ประวัติ barbie
ภาพจาก : barbie

ประวัติ ‘บาร์บี้’ (Barbie) ตุ๊กตาสาวพิมพ์นิยมที่เปลี่ยนคอนเซปต์ไปตามยุคสมัย

ตุ๊กตาบาร์บี้ (Barbie) เป็นของเล่นจำลองรูปคน โดยช่วงแรกผลิตเป็นเพศหญิงก่อน ประกอบไปด้วยเครื่องแต่งกายตามแฟชั่น ซึ่งสัดส่วนของตุ๊กตาจะเล็กกว่าคนจริง 6 เท่า แต่ความสูงจะอยู่ที่ประมาณ 11.5 นิ้ว ผลิตครั้งแรกโดยบริษัทผลิตของเล่นในประเทศสหรัฐอเมริกานามว่า แมทเทล (Mattel) ภายใต้การรังสรรค์โดย 1 ในผู้ก่อตั้งชื่อว่า รูธ แฮนด์เลอร์ (Ruth Handler)

บาร์บี้เป็นที่รู้จักครั้งแรกในงาน Toy Fair ที่จัดขึ้นในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1959 โดยคำว่า บาร์บี้ มาจากชื่อของลูกสาว รูธ แฮนด์เลอร์ ซึ่งมีชื่อเต็มว่า บาร์บารา มิลลเซนต์ โรเบิร์ตส์ (Barbara Millicent Roberts) ทั้งนี้ต้นแบบของตุ๊กตาบาร์บี้นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากตุ๊กตาผู้หญิงชื่อว่า Bild Lilli ของเล่นจากประเทศเยอรมนี โดยรูธได้ซื้อมาให้ลูกสาวของเธอในขณะที่ได้ไปเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่รูธเกิดประทับใจเสียเองและอยากสร้างตุ๊กตาผู้หญิงแบบนี้ในหลาย ๆ สไตล์บ้าง

ประวัติบาร์บี้
ภาพจาก : bbc

จากข้อมูลบทสัมภาษณ์ที่รูธเคยให้ไว้กับทาง BBC เมื่อปี 1997 ก่อนที่รูธจะเสียชีวิตในอีก 5 ปีต่อมา จากบัทสัมภาษณ์มีการเปิดเผยว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคเพศชายไม่ชอบใจตุ๊กตาบาร์บี้เนื่องจากเป็นตุ๊กตาของเล่นที่เน้นทรวดทรงองค์เอวของผู้หญิงมากเกินไป กล่าวคือเป็นตุ๊กตาที่มาพร้อมคอนเซปต์ผู้หญิงเซ็กซี่ จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะนำมาเป็นของเล่นเด็กผู้หญิงเสียเท่าไร ทว่าในทางตรงกันข้ามตุ๊กตาบาร์บี้กลับขายดีมาก ๆ ในหมู่ผู้บริโภคเพศหญิง

อย่างไรก็ดีความฮิตของตุ๊กตาบาร์บี้ก็สร้างความรำคาญใจให้กับบาร์บาร่าลูกสาวของรูธด้วยเช่นกัน เพราะมีผู้คนมากมายที่ปลาบปลื้มในความสวยงามของบาร์บี้ และเมื่อเจอตัวผู้สร้างพร้อมลูกสาวของเขาที่หลายคนอนุมานให้เธอเป็น “ต้นแบบ” จึงมักมีใครต่อใครกล่าวว่าบาร์บาร่าคือบาร์บี้ตัวจริง แต่ทัศนคติด้านลบของบาร์บาร่าก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมบาร์บี้ลดลง ในอีกด้านหนึ่งตุ๊กตาบาร์บี้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นในทุก ๆ ปี

ประวัติ barbie
ภาพจาก : bbc

กระทั่งต่อมาในปี 1961 แมทเทลก็ได้เปิดตัว “เคน” (Ken) ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้เพศชาย ในฐานะแฟนหนุ่มของบาร์บี้ โดยชื่อเคนนี้ก็มาจากชื่อลูกชายของรูธด้วยเช่นกัน ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นเคนอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ทางทีมดีไซน์ได้มีการถกเถียงกันถึงเรื่องอวัยวะเพศของเคนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าเคนไม่ควรจะมีอวัยวะเพศ

ในปี 1963 แมทเทลเปิดตัวตุ๊กตาเพื่อนซี้บาร์บี้ชื่อว่า “มิดจ์” (Midge) และเปิดตัวน้องสาวของบาร์บี้ชื่อว่า “สกิปเปอร์” (Skipper) ในปี 1964 หรือปีต่อมานั่นเอง อย่างไรก็ดีใช่ว่าบาร์บี้จะไม่เคยมีดราม่าเลย เพราะในช่วงปี 1968 ก็มีกระแสต่อต้านบาร์บี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นตุ๊กตาที่สร้างตามพิมพ์นิยมของผู้หญิงชาวตะวันตก คือส่วนสูงและทรวดทรงเซ็กซี่ ที่มาพร้อมกับผมสีบลอนด์กับปากสีแดง เหตุนี้เองจึงทำให้แมทเทลแก้ปัญหาด้วยการสร้าง “บาร์บี้สัญชาติแอฟริกัน-อเมริกัน” ขึ้นมาในปี 1980

ประวัติบาร์บี้
ภาพจาก : bbc

ไม่อาจเลี่ยงได้ว่าความนิยมของตุ๊กตาบาร์บี้นั้นมาพร้อมกับดราม่าเรื่องค่านิยมของสังคมหลายประการ ทั้งเรื่องความงามตามพิมพ์นิยมที่ไม่เื้อให้เกิดแรงบันดาลใจกับผู้หญิงทุกคน รวมไปถึงประเด็นของการเป็นภาพจำลองชีวิตมนุษย์ที่คลั่งวัตถุ เนื่องจากบาร์บี้มักมาพร้อมกับชุดแต่งกายหรูหรามากมาย ตามด้วยเครื่องประกับ บ้าน ของตกแต่ง และลหายสิ่งหลายอย่างที่บ่งบอกว่าบาร์บี้คือสาวที่มีแนวคิดแบบวัตถุนิยม

ในปัจจุบันแมทเทลได้พัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับตุ๊กบาร์บี้ให้ทันยุคสมัยอยู่ตลอด ซึ่งจะเห็นได้จากสโลแกนที่เรามักจะเห็นตามสื่อโฆษณาของบาร์บี้ตลอดก็คือ “Barbie You Can Be Anything” หรือ บาร์บี้คือโลกที่ทุกคนเป็นได้ทุกสิ่งตามที่ต้องการ ซึ่งวาทกรรมดังกล่าวช่วยเป็นแรงผลักดันให้เด็ก ๆ จากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงมุ่งมั่นและทะเยอทะยานกับอนาคตของตัวเองมากขึ้น ประกอบกับการที่คอลเลกชั่นบาร์บี้ปัจจุบันทำออกมากว่า 200 อาชีพแล้ว ยิ่งตอกย้ำว่าเราทุกคนเป็นได้ทุกอย่างที่อยากจะเป็นจริง ๆ

ประวัติ barbie
ภาพจาก : mattel

ผ่านมาแล้วกว่า 64 ปี แม้ผู้สร้างสรรค์ตุ๊กบาร์บี้ รูธ แฮนด์เลอร์ จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่ผลงานที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้หญิงทั่วโลกยังคงปรากฏให้เห็นอยู่จนจวบปัจจุบัน และไม่เพียงแต่ของเล่นเท่านั้น เพราะบาร์บี้ถูกนำไปต่อยอดเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันอีกมากมายหลายเรื่อง กระทั่งล่าสุดในปี 2023 ผู้กำกับหญิงดีกรีเจ้าของรางวัลอย่าง “เกรต้า เกอร์วิก” (Greta Gerwig) ก็ได้มานั่งแท่นกำกับภาพยนตร์บาร์บี้ฉบับคนแสดง พร้อมขนทัพนักแสดงชื่อดังของฮลลีวูดมาร่วมงานด้วยอีกเพียบ

หากใครที่เป็นสาวกบาร์บี้แล้วละก็ พลาดไม่ได้เด็ด เพราะภาพยนตร์ Barbie กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทยวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นี้ ไปร่วมย้อนวัยกับของเล่นแห่งความทรงชิ้นนี้พร้อมกันได้เลย

ประวัติบาร์บี้
ภาพจาก : imdb

ขอบคุณข้อมูลจาก : 1 2 3

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button