ตรวจสอบความคืบหน้า “ประกันรายได้ข้าว” งวดที่ 13 ปี 2565/66 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ่ายเงินส่วนต่างกี่บาท ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ประกันรายได้ข้าว ปี 2565/66 ได้เดินทางมาถึงงวดที่ 13 แล้ว หลังจากที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เริ่มการจ่ายชดเชยส่วนต่าง ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน และ ในฐานะคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 รอบที่ 1 นายธีร์วริศ พรพันธวิศ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเงินประกันรายได้ข้าวงวดที่ 13
โดยระบุว่าคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการ “ประกันรายได้เกษตรกร” ผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ ครั้งที่1/2566 (งวดที่ 13) ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง คำนวณจากราคาข้าวชนิดต่างๆ ย้อนหลัง 7 วัน ทำการ (26 ธันวาคม 2565-5 มกราคม 2566) ความชื้นไม่เกิน 15% เกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 256-มกราคม 2566 มีรายละเอียดดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 977.05 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 489.64 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 201.89บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
นายธีร์วริศ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเปรียบเทียบราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่คำนวณได้ในงวดที่ 12 – 13 แล้ว พบว่า ราคาข้าวเปลือกทุกชนิด ปรับตัวสูงขึ้น
วิธีตรวจสอบเงิน “ประกันรายได้เกษตรกร”
- เข้าไปที่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com
- จากนั้นให้ระบุเลขประจำตัวประชาชน
- จะปรากฎสิทธิตามโครงการรัฐที่ได้รับสนับสนุน
- เช็กข้อมูลยอดเงินที่แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile อีกครั้ง
หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
