การเงินเศรษฐกิจ

12 บ้านพักคนชรา รัฐบาล ทั่วประเทศ อยู่ฟรี เช็กเงื่อนไข วิธีสมัครเข้าพัก

บ้านพักคนชรา สถานที่สำหรับพึ่งพิงของเหล่าผู้สูงอายุ ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายของชีวิต พร้อมมีผู้คอยดูแลปรนนิบัติเป็นอย่างดี ทั้งนี้หากผู้สูงอายุที่มีความประสงค์ต้องการมาอยู่ใน บ้านพักคนชรา รัฐบาล 12 แห่งทั่วประเทศ อยากรู้รายละเอียดว่า ต้องทำอย่างไรจึงสามารถเข้าอยู่ได้ เงื่อนไขต่าง ๆ รวมถึงบ้านพักมีอยู่ในจังหวัดใดบ้าง วันนี้เราจะมาแจกแจงข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบกัน

รายชื่อบ้านพักคนชราของรัฐบาล

บ้านพักคนชราทั่วประเทศ ภายใต้การกำกับของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีทั้งหมด 12 แห่ง โดยจะบริการด้านที่พักอาศัยแก่ผู้สูงอายุเต็มเวลา 11 แห่ง (ยกเว้น ศูนย์พัฒนาจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่น) มีรายชื่อดังนี้

1. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่)

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน และลำพูน

2. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 8 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก อุตรดิษถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

3. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่น

  • เป็นหน่วยงานที่ให้บริการผู้สูงอายุในรูปแบบ Day Center โดยไม่มีบริการรูปแบบสถาบันแบบเต็มเวลา

4. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 13 จังหวัด ได้แก่ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ หนองคาย และบึงกาฬ

5. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดบุรีรัมย์

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ มหาสารคาม และอุบลราชธานี

6. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 8 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ และอุทัยธานี

7. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 6 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครนายก นครปฐม และกาญจนบุรี

8. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ และประจวบคีรีขันธ์

9. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว

10. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุภูเก็ต

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง และชุมพร

11. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี

12. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา

  • ครอบคลุมเขตรับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา สตูล ปัตตานี และนราธิวาส
12 ที่ตั้งบ้านพักคนชราของรัฐฯ ทั่วประเทศ
ภาพจาก : กรมกิจการผู้สูงอายุ

คุณสมบัติผู้สูงอายุ ที่มีสิทธิเข้าอยู่อาศัย

1. มีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย

2. ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญาและอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

3. ไม่เป็นโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

4. มีความสมัครใจ

5. สามารถช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน

6. ไม่มีอาการทางจิตที่รุนแรง หรือมีพฤติกรรมด้านลบที่จะส่งกระทบต่อผู้อื่น

7. ไม่ติดสารเสพติด หรือติดสุรา

8. กรณีคนเร่ร่อน ถูกทอดทิ้งหรือคนไร้ที่พึ่ง ต้องผ่านกระบวนการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 ก่อน เช่น การเยี่ยมครอบครัว/ชุมชน การหาอาชีพที่เหมาะสม เป็นต้น

9. ต้องเป็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

  • มีฐานะยากจน
  • ไม่มีที่อยู่อาศัย
  • ขาดผู้อุปการะ หรือผู้ให้ความช่วยเหลือดูแล
คุณสมบัติผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา
ภาพจาก : กรมกิจการผู้สูงอายุ

วิธีสมัครและขั้นตอนการเข้าบ้านพักคนชรา

1. รับคำขอเข้ารับบริการ

1.1 มีการส่งต่อจากหน่วยงานอื่น หรือสามารถติดต่อขอเข้ารับบริการด้วยตนเองได้ที่

  • กรุงเทพมหานคร : กรมกิจการผู้สูงอายุ และศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
  • ส่วนภูมิภาค : สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และศูนยพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุทุกแห่ง

1.2 เอกสารและหลักฐานการสมัคร

  • สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน
  • สําเนาทะเบียนบ้าน
  • ภาพถ่าย
  • เอกสารสําคัญอื่น ๆ ของผู้สูงอายุ (ถ้ามี)

2. วิเคราะห์สภาพปัญหาเบื้องต้น

หน่วยงานที่รับคําขอการเข้ารับบริการดําเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ เอกสารหลักฐานสําคัญต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ ได้แก่ สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน สําเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น และสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น

3. การประสานส่งต่อ

หน่วยงานที่รับคําขอการเข้ารับบริการ ดําเนินการประสานส่งต่อไปยังศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ตามพื้นที่รับผิดชอบโดยพิจารณาจากภูมิลําเนาของผู้สูงอายุ ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ และจะอนุโลมให้ในบางกรณีที่ผู้สูงอายุไม่แข็งแรง ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย/ติดเตียง ส่งผลให้เคลื่อนย้ายลําบาก จะพิจารณาส่งต่อเป็นรายกรณี เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นสําคัญ

ทั้งนี้ ตามระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการให้บริการผู้สูงอายุ พ.ศ. 2558 หมวด 3 การเข้าใช้บริการ ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ข้อ 10 ระบุว่า “ผู้อํานวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ เป็นผู้มีอํานาจในการอนุญาตให้ผู้สูงอายุเข้าใช้บริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุหากมีการส่งต่อ ระหว่างศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ หรือได้รับการประสานส่งต่อมาจากหน่วยงานอื่น ทางศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ” หากมีการส่งต่อ ระหว่างศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ หรือได้รับการประสานส่งต่อมาจากหน่วยงานอื่น สามารถประสานส่งต่อกันเองได้ เพื่อเป็นการลดขั้นตอน และเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้สูงอายุ

4. ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน

นักสังคมสงเคราะห์/เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายประสานหน่วยงานในพื้นที่ เช่น สํานักงานเขต องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข รพ.สต. เป็นต้น ลงเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ เพื่อประเมินสภาพปัญหาความเดือดร้อน และวางแผน ช่วยเหลือผู้สูงอายุในเบื้องต้นร่วมกัน

วิธีสมัครและขั้นตอนการเข้าบ้านพักคนชรา ส่วนแรก
ภาพจาก : กรมผู้สูงอายุ

5. การพิจารณาให้ความช่วยเหลือ

ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ โดยทีมสหวิชาชีพหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดําเนินการ พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุตามสภาพปัญหาความเดือดร้อน และจัดลําดับการเข้ารับบริการตามความเร่งด่วน ของสภาพปัญหาของผู้สูงอายุแต่ละราย

ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สูงอายุประสบปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนรายกรณี โดยศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคม ผู้สูงอายุ มีความจําเป็นต้องนําฝากผู้สูงอายุเพื่อรับบริการที่พัก (ชั่วคราว) ณ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง/บ้านมิตรไมตรี (กทม.) ทางศูนย์พัฒนา การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุต้องดําเนินการทําหนังสือฝากตัวผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ในทุก ๆ 7 วัน

6. แจ้งผลการพิจารณาเข้ารับบริการ

กรณีรับเข้าบริการ

เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุติดต่อแจ้งผลการพิจารณาช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุ/หน่วยงานนําส่งทราบ พร้อมขอเอกสารสําคัญอื่น ๆ ของผู้สูงอายุเพิ่มเติม รวมถึงใบรับรองแพทย์การตรวจร่างกาย ผลการเอกซเรย์ปอดของผู้สูงอายุ พื่อประเมินสุขภาพเบื้องต้นและเป็นการยืนยันว่าไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงก่อนเข้ารับบริการ จากนั้นจึงนัดหมายวันเข้ารับบริการ

ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ต้องมีใบรับรองแพทย์ซึ่งมีข้อความรับรองว่า ไม่เป็นโรคโควิด-19 ที่มีอายุไม่เกิน 3 วัน เพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้สูงอายุไม่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด – 19

กรณีไม่รับเข้าบริการ

เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ติดต่อแจ้งผลการพิจารณาช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุ/หน่วยงานนําส่งทราบ พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถรับเข้าบริการได้ โดยอาจพิจารณาช่วยเหลือบริการด้านอื่น ๆ ที่เหมาะสมเป็นรายกรณี เช่น เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลําบาก การปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ เหมาะสมสําหรับผู้สูงอายุ เครื่องอุปโภคบริโภค กายอุปกรณ์ การให้คําปรึกษาด้านต่าง ๆ เป็นต้น

วิธีสมัครและขั้นตอนการเข้าบ้านพักคนชรา ส่วนสอง
ภาพจาก : กรมผู้สูงอายุ

7. การเข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ

7.1 กระบวนการแรกรับ

7.1.1 การประเมินร่างกายเบื้องต้นและสํารวจทรัพย์สิน
7.1.2 การประเมินกิจวัตรประจําวัน ADL และกิจวัตรประจําวันตอเนื่อง
7.1.3 การปฐมนิเทศ (แนะนําสถานที่ / แนะนําบริการ / ชี้แจงกฎระเบียบ)
7.1.4 การจัดทําทะเบียนประวัติผู้สูงอายุ

  • กรณีรับผู้สูงอายุรายใหม่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ให้มีการกักตัวผู้สูงอายุเพื่อ สังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน ภายในอาคารสถานที่ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุกําหนด ก่อนเข้าสู่กระบวนการให้บริการอื่นๆ ภายในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ

7.2 กระบวนคุ้มครอง

มีการจัดบริการด้านปัจจัย 4 เพื่อดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับความปลอดภัยและความสุขในบั้นปลายของชีวิตต่อไป โดยมีการจัดบริการต่าง ๆ ไว้สําหรับให้บริการผู้สูงอายุ เช่น บริการด้านการให้คําปรึกษา บริการด้านสังคมสงเคราะห์ บริการด้านการส่งเสริมสุขภาพและกายภาพบําบัด กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณีและวันสําคัญต่าง ๆ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดําเนินการ ดังนี้

7.2.1 การประเมินผู้สูงอายุโดยทีมสหวิชาชีพ
7.2.2 การจัดทําแผนฟื้นฟูศักยภาพผู้ใช้บริการ
7.2.3 การบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม
7.2.4 การจัดทําสรุปการติดตามการให้บริการและการรับบริการทุก 6 เดือน
7.2.5 การประสานสิทธิสวัสดิการ
7.2.6 การดําเนินการและการจัดการรายกรณี

7.3 กระบวนการส่งต่อครอบครัวชุมชน

7.3.1 ผู้สูงอายุหรือญาติแสดงความประสงค์ โดยยื่นคําร้องขอลาออกจาก ศพส./ขอรับตัวผู้สูงอายุเพื่อกลับไป อยู่กับครอบครัว/ชุมชน
7.3.2 การประเมินและเตรียมพร้อมครอบครัวและชุมชน
7.3.3 การประเมินและเตรียมผู้สูงอายุก่อนกลับสู่ครอบครัวและชุมชน
7.3.4 การติดตามผลรายกรณี

7.4 กระบวนการระยะท้าย (เสียชีวิต)

7.4.1 ประสานงานและติดต่อญาติ
7.4.2 การจัดการทรัพย์สินของผู้สูงอายุ
7.4.3 จัดการศพตามประเพณี

วิธีสมัครและขั้นตอนการเข้าบ้านพักคนชรา ส่วนสาม
ภาพจาก : กรมผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และรับแบบฟอร์มคำขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้ที่นี่ คลิก

Best Writer

นักเขียนบทความประจำ Thaiger จบการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มีความเชียวชาญด้านวงการเพลงไทย ภาพยนตร์ อนิเมะ ชื่นชมติดตามข่าวสารสังคม กีฬา เทคโนโลยี แตกประเด็น สรุปเรื่องราวมาร้อยเรียงผ่านข้อความสู่สายตาผู้อ่าน ช่องทางติดต่อ best.t@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button