10 ข้อห้าม ‘วันคริสต์มาส’ ใครเผลอทำ โชคร้ายยันปีใหม่
ส่องความเชื่อ 10 ข้อห้ามทำในวันคริสต์มาส พลั้งเผลอไปอาจเจอโชคร้ายจนถึงปีใหม่
ฉลองวันคริสต์มาส 25 ธันวาคม 2023 ฉบับคนคิดมาก แม้จะเป็นวันดี ๆ หรือที่คนไทยเรียกว่าวันมงคล แต่ก็ยังมีตำนานเล่าว่าในวันแห่งการเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูนั้น มีสิ่งที่เหล่าชาวคริสต์ห้ามทำอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตต้องประสบกับความโชคร้ายไปจนถึงวันปีใหม่
อย่างไรก็ดี ความเชื่อเหล่านั้นถือเป็นตำนานที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ถือว่าเป็นจารีตประเพณีที่เน้นปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่รู้ไว้เป็นข้อมูลก็ไม่เสียหาย เพราะบางข้อห้ามก็ถือเป็นกุศโลบายที่ปฏิบัติตามแล้วจะทำให้การเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขะมีข้อห้ามว่าด้วยเรื่องอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลย
1. ต้องเปิดเพลงเกี่ยวกับคริสต์มาสเท่านั้น
ชาวคริสต์หลายครอบครัวที่เคร่งศาสนาก็มักจะมีความเชื่อว่าในช่วงเวลาเทศกาลคริสต์มาสก็ต้องเปิดแต่เพลงที่เกี่ยวข้องกับคริสต์มาสเท่านั้น เพื่อให้จิตใจของเหล่าคริสตชนเชื่อมอยู่กับการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ดังนั้นพอเข้าสู่ฤดูกาลของการเฉลิมฉลองเราก็มักจะได้ยินเสียงเพลงที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาสยาวไปจนถึงปีใหม่
2. ห้ามทะเลาะกับคนในครอบครัว
ขึ้นชื่อว่าเป็นเทศกาลครอบครัวประจำปี ก็คงไม่มีใครอยากเจอดราม่าในวันนี้แน่ ๆ ดังนั้นหลายบ้านจึงถือคติละทิ้งทุกอย่างเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อให้สมาชิกในครอบครัว ได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไร้ความเครียดหรือความกดดันตลอดวันคริสต์มาสนี้ เพราะฉะนั้นห้ามสมาชิกคนใดในครอบครัวเปิดปากทะเลาะกันทำลายบรรยากาศเด็ดขาด
3. ห้ามกินของว่างจนอิ่มก่อนถึงมื้อใหญ่
อาจจะขัดใจสายกินเล็กน้อย สำหรับกฎการห้ามเติมอาหารเรียกน้ำย่อย หรือของหวานก่อนมื้ออาหารคริสต์มาสจริง เพราะเกรงว่าจะอิ่มก่อนถึงมื้อใหญ่ เนื่องจากการรวมตัวรับประทานอาหารมื้อใหญ่ของครอบครัวนั้นมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้ทุกคนอิ่มอร่อยและมีความสุขแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้พูดคุยกันถึงความทรงจำดี ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งปีด้วย
4. ห้ามสวมเสื้อผ้ารัดรูป
เพราะเป็นเทศกาลแห่งการพักผ่อน ในช่วงวันคริสต์มาสจึงควรเน้นใส่เสื้อผ้าที่สบาย เพราะในหลายบ้านจะมีธรรมเนียมคือ หลังทานอาหารและเปิดของขวัญครบแล้ว จะทิ้งตัวนอนเพื่อดูหนังด้วยกันต่อแบบยาว ๆ งานนี้ใครใส่ชุดฟิตเปรี๊ยะ ก็อาจจะอึดไม่สบายตัว ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองไม่ราบรื่นเท่าที่ควร
5. ห้ามทำงานในวันคริสต์มาส
ขึ้นชื่อว่าเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ทุกคนจะต้องพักผ่อนหย่อนใจกันให้เต็มที่ ห้ามใครทำงานในวันแห่งการประสูติของพระเยซูเด็ดขาด เพราะมีความเชื่อว่าหากเราไม่ร่วมเฉลิมฉลองในวันสำคัญเช่นนี้ก็จะทำให้ชีวิตในอีกหลายปีข้างหน้าพบเจอแต่ความยากลำบาก
6. อย่าลืมแลกของขวัญกับคนอื่น
คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาของการให้และแบ่งปัน ดังนั้นคุณควรจะมองหาของขวัญมามอบให้คนที่รักตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่จำเป็นต้องเน้นราคาแพง แต่ขอให้คำนึงถึงผู้รับว่าได้ไปแล้วจะต้องเกิดประทับใจ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
7. ห้ามถามว่าเปิดของขวัญได้เมื่อไร
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาส หากคุณอายุเกิน 9 ขวบ ก็ไม่ควรถามว่าจะเปิดของขวัญได้เมื่อไร เพราะถือเป็นการเสียมารยาทและทำลายบรรยากาศในวันหยุดพักผ่อน คอยจับตาดูจังหวะสมาชิกในครอบครัวให้ดี แล้วจึงค่อยเปิดของขวัญพร้อมกัน
8. ห้ามวิจารณ์ของขวัญที่ได้ในแง่ลบ
ลุ้นเปิดของขวัญกันไปแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องมารยาทกันด้วยนะ เพราะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ อาจมีหลายคนที่ได้ของขวัญไม่ตรงตามที่ใจหวัง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการรักษาน้ำใจผู้ให้ ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะได้อะไร ก็อย่าพูดว่าไม่ชอบหรือวิพากษ์วิจารณ์ของขวัญในแง่ลบเด็ดขาด
9. ห้ามลบหลู่ความเชื่อคนอื่น
แน่นอนว่าการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสนั้นมีขึ้นทั่วทุกมุมโลก แต่ก็เป็นไปตามความเชื่อดั้งเดิมของวัฒนธรรมในท้องถิ่น จึงไม่แปลกหากเราจะพบว่าที่อื่น ๆ มีการฉลองคริสต์มาสในแบบที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะความเชื่อในเรื่องการประสูติของพระเยซูของคนเราอาจได้รับมาไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ควรยึดมั่นคือความเมตตาที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของวันนี้
10. อย่าลืมแบ่งปันความรักให้คนรอบตัว
สิ้นสุดเทศกาลคริสต์มาส ก็อย่าลืมหันไปแสดงความรักกับครอบครัวบ้างนะ เพียงแค่กอดและบอกรักกันเบา ๆ ก็ช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้านดีขึ้นได้เยอะมากทีเดียว ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงคนในครอบครัว แต่คุณยังสามารถร่วมแบ่งปันโมเมนต์ดี ๆ กับเพื่อนหรือคนรักของคุณได้อีกด้วย
ในความเป็นจริงแล้วข้อห้ามทั้ง 10 ประการนี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นกลอุบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยทำให้ผู้ที่เข้าร่วมเทศกาลฉลองคริสต์มาสมีความสุขเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถือเสียว่าเป็นข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับใครที่กำลังจะเข้าร่วมโมเมนต์ในวันหยุดพักผ่อนปีนี้