บิ๊กโจ๊ก เผย คดีทุนจีนสีเทาจับแล้ว 2 นอมินีคนไทยรอแถลง 14 พ.ย.นี้
บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงคืบหน้าคดี กลุ่มทุนจีนสีเทา 5 มาเฟีย จับแล้ว 2 ราย อีกสามหนีออกนอกประเทศไปแล้ว 14 พ.ย.นี้ เตรียมแถลงใหญ่
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกาายน 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกลุ่มทุนจีนสีเทาที่กำลังเป็นประเด็นจัวตาของสังคม โดยล่าสุด รอง ผบ.ตร. ระบุตอนนี้ กลุ่มทุนจีนมี 5 กลุ่ม จับกุมได้แล้ว 2 คน อีก 3 คนที่เหลือได้หลบหนีออกจากประเทศไปแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีกลุ่มทุนจีนมี 5 กลุ่ม ตอนนี้จับกุมแล้ว 2 คน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือได้หลบหนีออกจากประเทศไปแล้วโดยได้ดำเนินการขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าราชอาณาจักรและกำลังดำเนินการขอหมายแดงหรือหมายจับจาก Interpol หรือตำรวจสากล
ตำรวจได้ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยลงพื้นที่ 15 จังหวัดรวม 26 จุด จากเจ้าของรถที่สามารถยึดได้จากผับจินหลิน พบว่าเป็นของกลุ่มคนจีนที่สวมชื่อคนไทยเป็นเจ้าของทั้งหมด จากการปฏิบัติงานสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านบาท เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งปฎิบัติการตรวจค้นครั้งนี้เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานและหาความเชื่อมโยงเพื่อขยายผลจับกุมขบวนการคนไทยที่อาจมีส่วนช่วยกลุ่มทุนจีนเหล่านี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า ภายในวันจันทร์ ที่ 14 พ.ย. ความคืบหน้าเรื่องนี้จะชัดเจนมากขึ้น และจะแถลงข่าวรวมถึงข้อมูลของขบวนการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุนจีนทั้งหมด รวมไปถึงกลุ่มนอมินีชาวไทยที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ ซึ่งตอนนี้ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมก่อน
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่ากลุ่มทุนจีนเหล่านี้จะมาประกอบธุรกิจในประเทศไทยไม่ได้ถ้าไม่มีคนไทยช่วยเหลือ ทั้งผับ TOP ONE ย่านสุทธิสาร ผับ SP ย่านทองหล่อ และผับจินหลิง ย่านยานนาวา
จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 ผับ มีความเชื่อมโยงมีเครือข่ายเดียวกัน และมีคนไทยเป็นนอมินีให้การช่วยเหลือในการเปิดธุรกิจและไม่ว่าใครก็ตาม แม้จะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือชื่อเสียงมากเพียงใดหากมีพยานหลักฐานครบถ้วนก็พร้อมดำเนินคดีแต่หากใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ยินดีให้ความเป็นธรรม ส่วนอดีตรัฐมนตรีที่เอี่ยวหรือไม่นั้นรอฟังวันที่ 14 พ.ย.นี้