‘แอน ทองประสม’ เสียใจมาก ของหมั้น ‘เอ ทินพันธ์’ ถูกขโมย
แอน ทองประสม เปิดใจ ถูกขโมย ของหมั้น เอ ทินพันธ์ แฟนหนุ่ม เล่าว่าตอนนี้กลายเป็นคนขี้ระแวง และทำใจไม่ได้เพราะของทุกชิ้นมีความหมายมากและเป็นของที่ซื้อสะสมตั้งแต่เด็ก
แอน ทองประสม ออกมาเล่าความคืบหน้า พร้อมเปิดใจว่าหนึ่งในของที่ ถูกขโมย คือ ของหมั้น จาก เอ ทินพันธ์ แฟนหนุ่มนักธุรกิจ ก่อนเปิดใจว่า เสียใจที่ของถูกขโมยไป เผยอีกว่าตอนนี้กลายเป็นคนขี้ระแวง ทั้งยังขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ มันมีความหมายมาก
แอน ทองประสม ได้ออกมาเล่าความเคลื่อนไหว หลังถูกลูกน้องคนสนิทขโมยทรัพย์สินกว่า 20 ล้านบาท ให้สื่อมวลชนได้ฟัง พร้อมเล่าว่าหนึ่งในของสำคัญทางใจที่ถูกขโมยไปคือ ของหมั้นจาก เอ ทินพันธ์ หวานใจ เผยเสียใจมาก ของทุกอย่างที่ถูกขโมยยังทำใจไม่ได้เพราะเก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่อายุ 15-16
อัปเดตความคืบหน้าคดีตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
“ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงติดตามเอาของคืนค่ะ ก็ต้องไปคุยกับตามที่ทางผู้ต้องหาเอาของเราไปจำนำ เอาของเราไปฝากขาย ก็อยู่ในช่วงที่ เฮ้อ…(ถอนหายใจ) ต้องต่อสู้นิดหนึ่ง”
มีชิ้นไหนที่ได้กลับมาแล้วบ้างไหม ?
“ยังไม่มีค่ะ อยู่ในช่วงของการหาข้อมูล แล้วก็เตรียมไปเจรจาค่ะ”
เห็นว่าบางโรงรับจำนำสามารถคืนให้ได้เลย แต่บางที่เขาก็ไม่คืนให้ เพราะเขาก็เสียเงินไปเหมือนกัน ?
“อันนี้ก็ต้องสืบกันต่อไป ต้องหาข้อมูลกันต่อไป อย่างที่บอกว่ามันก็มีหลายรูปแบบ มีทั้งที่พร้อมจะยินดีและไม่ยินดี เราก็ต้องเอาหลักฐานมาคุยกัน ต้องใช้กฎหมายเข้าไปช่วย แอนก็หวังว่ากฎหมายจะคุ้มครองผู้เสียหายอย่างแอนบ้าง
แอนก็อยากจะลองต่อสู้ หมายถึงว่าหาข้อมูล หรือทำทุกอย่างให้มันไปในทางที่ถูกต้อง ที่เราสมควรที่จะได้รับการดูแล ก็พยายามหาข้อมูลอยู่ มันเป็นเรื่องเซนซิทีฟค่ะ บางทีอ่านแล้วอันนี้อาจจะเข้าข่าย อันนี้ไม่เข้าข่าย ก็ไปหาข้อมูลเอา”
มีที่เขายินดีให้เราเอาของได้ เขาให้เสนอเรามาว่าอย่างไรบ้าง ?
“คือยังไม่ได้เริ่มคุยค่ะ วันนี้แอนเพิ่งไปหาข้อมูลกับทนายมา ก็เพิ่งได้ข้อมูลมาเนี่ยค่ะ หลังจากนี้ก็ค่อยไปย่อยกันอีกที แล้วค่อยจัดสเต็ปว่าจะยังไงต่อ เข้าไปสำนักอัยการมาแล้วค่ะ ไปดูทิศทาง ไปดูแนวทาง ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ตรงนี้
ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อ ต้องแก้ไขปัญหาต่อ แต่พอเราไปยืนอยู่ตรงนั้นก็แบบ…นี่เรามาศาลเหรอ จะมีความรู้สึกแบบ ทั้งชีวิตเรา ใช้ชีวิตระวังตัวมาก แทบจะไม่ทำผิดกับใคร แต่ลืมคิดในมุมที่เราจะถูกกระทำ มันก็ไม่ทันได้ระวังตัวตรงนั้น ก็กลายเป็นว่าต้องมายืนตรงนี้ มันก็เลยงงๆ นิดหน่อย”
เราโพสต์ว่าไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ?
“ใช่ แอนก็งงเหมือนกัน มายืนแล้วแอนก็เหมือนใจสั่น มีความรู้สึกหวั่นไหวบ้าง เพราะไม่คุ้นตา ไม่คิดว่าจะมามากกว่า”
กับบางชิ้นเราทำใจไว้ไหม ว่าอาจจะต้องควักเงินเพื่อเอามันกลับคืนมา ?
“ไม่ค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไปในทางไหนชัดเจน อยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูล และเราจะดูว่าเราไปทางไหนได้ ก็ต้องให้ทนายไปย่อยอีกที แล้วแอนค่อยมาบอกได้ไหมคะ”
ณ ตอนนี้เรายังนอนหลับปกติไหม ?
“เอาจริงๆ อะ แอนหลับนะ แต่มันเป็นมุมเหมือนดีเลย์มากกว่า เหมือนอยู่ๆ ก็แบบอะไรอะ นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม มันมาเป็นวูบๆ เวลาเราหายยุ่งจากงาน หรืออยู่ๆ ความเศร้ามันเข้ามาก็มีบ้าง ที่แบบ…เฮ้ย มันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง แล้วภาพที่เราเห็นวันนั้น มันไม่ใช่เหรอ
ทำไมมันเกิดสิ่งนี้กับเรา มันเป็นแฟลชแบคเข้ามา แต่โชคดีอย่างหนึ่ง คือแอนเป็นคนยุ่งมาก มีอะไรให้ทำตลอดเวลา มันก็เลยทำให้เราไม่อยู่จมกับตรงนั้น ชีวิตแอนมันไปข้างหน้า แอนล้าไม่ได้ แอนต้องหาข้อมูลเพื่อยืนต่อให้ได้
มันก็เลยกลายเป็นว่า อาจจะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เรารู้สึกหวั่นไหว มนุษย์ทุกคนโดนตีก็เจ็บ เราโดนลมพัดแรงๆ เราก็มีเซๆ แต่เราก็พยายามจะทำให้มันเสถียร ประคองให้มันไปต่อได้”
ทุกคนก็พยายามมาสร้างรอยยิ้มให้เรา ?
“สิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่ง ในยามที่เราเจออะไรแบบนี้ แอนเพิ่งเห็นว่ามีคนดีๆ อยู่รอบตัวแอนเยอะมาก แล้วเขาไม่เคยได้แสดงความรู้สึกนั้นกับเรา เขาดูเห็นใจเรา ก็มีความอบอุ่นตรงนี้แผ่ออกมาให้เรารู้สึกดีเรื่อยๆ”
คนที่มีประสบการณ์ด้านนี้ มีส่งข้อความมาแนะนำเราบ้างไหม ?
“มีหลายรูปแบบเลยค่ะ แอนถึงบอกว่าแอนบอกเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่ชัดเจนตอนนี้ไม่ได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่เราจะไปต่อสู้กัน ถ้าเราทำข้อมูลได้ดี เราชัดเจน เราก็สามารถไปต่อได้ ก็จะมีคนทั้งที่แบบเป็นเวย์นั้นเวย์นี้มาเยอะแยะ เราก็ต้องมีสติในการฟัง ว่าอันไหนมันใกล้เคียงเคสเรา อะไรแบบนี้ค่ะ”
สำหรับของที่ยังเหลืออยู่ เราเพิ่มวิธีจัดเก็บดูแลยังไงบ้าง ?
“เอาเป็นว่าถ้าเห็นใส่อะไรตอนนี้คือของปลอม เอาอย่างนั้นดีกว่า (หัวเราะ)”
กลายเป็นคนขี้ระแวงไปเลยไหม ?
“มีนิดหนึ่งเหมือนกันนะ คือแบบจะวางกระเป๋าก็ไม่กล้าวาง มันเหมือนเรารู้แหละว่าไม่มีใครเอาหรอก แต่เราอย่าไปสร้างนิสัยให้คนที่ไม่เคยคิดจะเอาได้มีโอกาสจะเอา ดังนั้นเราก็เลยต้องดูแลตัวเอง ซึ่งของแอนจะเป็นในลักษณะนั้นมากกว่า ไม่ใช่ว่าแอนไม่ไว้ใจคนที่อยู่รอบตัวนะ แต่ว่าดูแลตัวเองดีกว่าเราคิดแค่นั้นจริงๆ”
ก็คือเน้นที่การดูแลตัวเองมากขึ้น ?
“ใช่ และก็…และก็มันเหมือนไม่ได้อยากจะไปเอาอะไรต่อแล้วในชีวิตอ่ะ อันนี้แค่บอกให้ฟังนะ คือเราเจอแบบนี้มาและท้ายที่สุดเราก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย”
ใช้คำว่าหมดเนื้อหมดตัวเลยได้ไหม ?
“ของที่มี ที่แอนเก็บมาตั้งแต่อายุ 15-16 ปี คือแอนไม่ได้เพิ่งเก็บ แต่แอนเก็บสะสมที่ละเล็กละน้อยของแอนมาเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนนั้นมันก็ไปหมด แต่ว่ามันอาจจะมีนาฬิกาอีกอันที่มันเป็นรุ่นที่ไม่สามารถปล่อยขายได้ในทันที มันก็เลยทำให้ไม่ได้ถูกเอาไป”
มีของชิ้นไหนที่มีคุณค่าทางจิตใจที่สุดไหม ?
“มีค่ะ มีของหมั้น อันนั้นก็เสียใจ”
เป็นของหมั้นที่ พี่เอ ทินพันธ์ มอบให้ ?
“ใช่ มีรวมอยู่ในนั้นด้วย”
เป็นแหวน ?
“ใช่ค่ะ ก็มีก้อนนั้นรวมอยู่ด้วย”
ต้องถึงขั้นพบจิตแพทย์เลยไหม จากความเครียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ?
“ไม่ค่ะ ไม่ แค่มันเป็นช่วงจังหวะที่มีความรู้สึกใหม่ๆ เข้ามามากกว่า ซึ่งแอนคิดว่าแอนสามารถคอนโทรลได้ เพราะสถานการณ์ ณ ตอนนี้ มันยังอยู่ในช่วงของการเดินทาง มันยังได้มีการสรุปว่าเราไม่มีโอกาสต่อไปแล้ว แอนรู้สึกว่าแอนยังมีหวัง และแอนก็ยังไปต่อได้”
พี่เอ ทินพันธ์ ปลอบใจเรายังไงบ้าง ?
“ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ เขาแค่เดินมากอด อย่างตัว น้องญาญ่า ที่ได้เจอกันวันนี้ เขาเองก็เดินมากอดแอนแน่นๆ ช่วงนี้แอนได้รับการกอดแน่นๆ มาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งมันช่วยแอนได้ แค่นี้มันก็พอแล้ว”
ได้คุยกับ คิมเบอร์ลี่ บ้างไหม ?
“เจอกันบ่อยค่ะเพราะอยู่ที่เดียวกัน และก็จะมีแบบขอให้คิมลงมาหาพี่หน่อยพี่ไม่ไหวแล้ว พี่อยากมีเพื่อนคุย ซึ่งนางก็ลงมา เป็นการคุยกับพี่น้องปกติทั่วไป”
จากข่าวที่เกิดขึ้นคนก็ค่อนข้างสงสัยว่าเป็นคนเดียวกับของคิมเบอร์ลี่ไหม ?
“เอ่อ…อันนั้นก็ในส่วนของคิม ต้องเป็นข้อมูลที่คิมต้องไปจัดการต่อ คือมันเป็นคนละเหตุการณ์กับแอน แอนจะไปผสมโรงไม่ได้”
เคยนั่งคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างไหม ?
“อ๋อ อันนั้นเป็นเรื่องปกติที่เราแชร์กันอยู่แล้ว มีการพูดคุยกันบ้างค่ะ ตอนแรกแอนก็แบบ ‘น้องทำในเหอะ’ ในตอนที่เกิดเหตุการณ์กับเขา แต่พอมาเจอกับตัวเองถึงได้รู้ว่ามันก็เป็นอะไรที่ทำใจยากเหมือนกัน เข้าใจแล้ว เข้าใจจริง ๆ”
เรื่องระบบการเข้าคอนโดตอนนี้จัดการยังไง ?
“สำหรับคอนโดแอน คือถ้าเป็นคนอื่นเข้าไม่ได้อยู่แล้วค่ะ และจริงๆ แอนก็ไม่ได้ห่วงเรื่องการเข้าออกหรอก แต่ว่าแอนจะทำในลักษณะเป็นการจำกัดบริเวณคนในของเรามากกว่า คือไม่ให้เข้าอีกแล้ว”
เรื่องการทำงานกับทีมงานต่างๆ ที่ต้องทำงานร่วมกันล่ะ ?
“ไม่มีแล้วค่ะ ไม่ให้ใครเข้าแล้วค่ะ เข้าไม่ได้แล้ว ซึ่งแอนต้องจัดการใหม่ทั้งหมด ต่อให้แอนไม่มีอะไรแล้วแอนก็ให้เข้าไม่ได้ คือแอนต้องฝึกตัวเองด้วยในการที่จะจำกัดพื้นที่ทุกๆ เรื่องในชีวิต เหตุการณ์นี้สอนให้แอนต้องปรับตัว”
จากนี้ไปโซนทำงานกับพื้นที่ส่วนตัวต้องแยกออกจากกัน ?
“ใช่ค่ะ ใช่”
อยากขอบคุณแฟนๆ ที่ส่งกำลังให้เราไหม ?
“แอนขอใช้พื้นที่ตรงนี้นะคะ แอนขอบคุณทุกคนที่เข้ามาหาแอนทางโซเชียลฯ และให้กำลังใจ ซึ่งแอนไม่สามารถเข้าไปตอบทุกคนได้ครบ แอนขอใช้พื้นที่ตรงนี้นะคะขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจ มันมีความหมายสำหรับแอนมากค่ะ”