รีวิว บ่มีวันจาก (The Long Walk) : อดีต-วิญญาณ-อนาคต
รีวิว บ่มีวันจาก (The Long Walk) แบบไม่สปอยล์ ภาพยนตร์ไซไฟ-สยองขวัญ น้ำดีจากประเทศลาว ผสมสานเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตเข้ากับวัฒนธรรมแห่งเอเชียอาคเนย์ รับชมได้แล้ววันนี้ทาง Netflix
หนึ่งในภาพยนตร์ Top 10 Netflix ประเทศไทยตอนนี้คงหนีไม่พ้น บ่มีวันจาก (The Long Walk) ภาพยนตร์สยองขวัญผสมผสานกลิ่นอายของวิทยาศาสตร์ที่คุณภาพคับแก้วส่งตรงจากประเทศลาว เรื่องราวว่าด้วยชายชราผู้มีสัมผัสที่ 6 ผีสาวที่สามารถเดินทางข้ามมิติเวลาได้ และทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก ทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในฉากหลังที่ก้ำกึ่งระหว่างเทคโนโลยีแห่งอนาคตและชนบทอันห่างไกล
รีวิว บ่มีวันจาก (The Long Walk) เรื่องย่อ : เมื่ออดีตบ่มีวันจากอนาคตไปได้
เผยเรื่องย่อ รีวิว บ่มีวันจาก (The Long Walk) ในอนาคตอันใกล้ ณ ประเทศลาว ทุกสิ่งล้วนดูจะพัฒนาไปไกลจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีการฝังชิปไว้ที่แขนของประชาชนเพื่อใช้แทนบัตรประชาชน รวมถึงแทนที่การใช้เงินสดในการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ แม้จะเป็นสิ่งที่ขัดเคืองอยู่ในใจของผู้ชมไปบ้าง แต่หนังก็ทำให้เราเชื่อได้โดยไร้ข้อกังขาว่า การที่เครื่องบินเจ็ตบินผ่านหัวของเราไปนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะเป็นโลกอนาคตอันทันสมัย ทว่าฉากหลังสำคัญของเรื่องดำเนินไปที่ชนบทอันห่างไกล ถนนลูกรัง และกระต๊อบหลังเก่า ล้วนเป็นภาพคุ้นตาที่ไม่ทำให้โครงเรื่องเกี่ยวกับอนาคตดูด่างพร้อยเลยแม้แต่นิดเดียว รวมถึงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครในเรื่องก็ยิ่งสร้างบรรยากาศอันคุ้นเคยให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี
หนังเล่าเรื่องของ “ลุง” คนหนึ่งที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณได้ และแม้จะดูแปลกแยกจากความเป็น “อนาคต” แต่ทางตำรวจก็ได้เชิญคุณลุงท่านนี้ไปร่วมไขคดีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของหญิงสาว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลุงและวิญญาณหญิงสาวที่ตามติดลุงมาตลอด พากันย้อนข้ามเวลากลับไปยังอดีต
เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ลุงเคยทำพลาดไว้ ซึ่งส่งผลต่ออนาคตที่เป็นอยู่ไปทีละเล็กละน้อย และยิ่งย้อนเวลากลับไปถึงช่วงอดีตมากเท่าไร ความลึกลับและปริศนาต่าง ๆ ก็ยิ่งเติบโตขึ้นในใจของคนดูมากเท่านั้น ทั้งลุงและวิญญาณหญิงสาวปริศนาต่างจูงมือกันดำดิ่งเข้าสู่ความลับอันไม่อาจคาดเดาได้
รีวิว ความรู้สึกหลังดู บ่มีวันจาก (The Long Walk)
แม้ภาพยนตรเรื่อง บ่มีวันจาก (The Long Walk) จะจัดฉากไว้ในชนบทอันห่างไกล แต่ความ “เจริญ” ที่ตัวหนังพยายามจะถ่ายทอดให้คนดูนั้น กลับผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี เหมือนได้เห็นภาพยนตร์ไซไฟระดับฮอลลีวูดที่มีพื้นเพของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐานราก
และถึงแม้ว่าจะจั่วหัวเป็นแนวไซไฟ-สยองขวัญ แต่ดูทรงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้จะชอบเล่นกับ “ความเชื่อ” ของคนในภูมิภาคนี้เสียมากกว่า โดยเฉพาะความเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดของทางศาสนาพุทธ ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองอย่างที่เป็นและทำให้ผู้ชมคิดว่าควรจะเป็น
แต่ตัวหนังเองก็ไม่ได้ละทิ้งความรู้สึกน่าขนลุกไปจากตัวเรื่องเลย ด้วยดนตรีประกอบ และการเล่นกับความมืด โดยเฉพาะความวับ ๆ แวม ๆ ของวัตถุในเรื่องที่คนดูไม่อาจมองออกได้เลยว่าเป็นคนหรือสิ่งของ องค์ประกอบเหล่านี้ที่คนไทยก็คุ้นเคยกันดียิ่งทำให้ตกอยู่ในห้วงจินตนาการอันน่าขนพองสยองเกล้าได้ง่ายขึ้น
รวมไปถึงมุมกล้องที่ชวนขวัญผวาตลอดเวลา แม้จะไม่มีฉากที่ทำให้สะดุ้งตกใจกลัว แต่หนังก็ดำเนินไปบนความลึกลับที่ไม่น่าไว้ใจ สร้างความหวาดหวั่นให้ผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่อง เป็นหนังผีที่หลอกว่าหลอกให้เชื่อได้อย่างสนิทใจ และเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเรา ๆ หัวใจเต้นรัวได้
นับได้ว่าเป็นประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์แบบใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ทั้งการหยิบจับเรื่องไสยศาสตร์มาผูกโยงให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความไม่น่ากลัวที่น่ากลัวจนหลอกหลอนคนดูไปจนจบเรื่อง และการคลี่คลายปมในเรื่องที่ทำให้เราเอ๊ะอ๊ะอ๋อเออกันไปตลอดทาง
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหนังผีหรือไม่ ก็ไม่มีส่วนในการลดทอนอรรถรสของการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ให้น้อยลงเลย กลับกันผู้ชมที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง บ่มีวันจาก (The Long Walk) ล้วนแล้วแต่จะได้รับประสบการณ์ในการดูที่แตกต่างกัน ถือว่าเป็นอาหารรสเลิศที่ควรลิ้มลอง และรับรองว่าดูแล้วจะไม่รู้สึกผิดหวังแน่นอน.