รีวิว The Sandman การผจญภัยสุดแฟนตาซีของเทพเจ้าระดับจักรวาล
รีวิว The Sandman ซีรีส์เทพเจ้าสร้างจากหนังสือการ์ตูนค่าย DC รับประกันความดาร์ก โหด สะใจ คอซีรีส์แฟนตาซีไม่ควรพลาด รับชมที่ Netflix
ก่อนที่จะเริ่มรีวิว The Sandman ต้องบอกก่อนว่า The Sandman เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงมากใน Netflix ตอนนี้ สำหรับแฟนซีรีส์ท่านใดที่ชื่นชอบความแฟนตาซีไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการรีวิวซีรีส์ The Sandman ครั้งนี้ ทีมงาน The Thaiger จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับซีรีส์ให้มากยิ่งขึ้น The Sandman มีเรื่องย่อคืออะไร นักแสดงคนไหนบ้าง หากพร้อมแล้วไปอ่านรีวิว The Sandman กันเลยครับ
รีวิว The Sandman ตำนานพื้นบ้านจากทั่วมุมโลก
ซีรีส์ The Sandman เป็นซีรีส์ที่มีความแฟนตาซีสุด ๆ อ้างอิงเนื้อเรื่องมาจากปกรณัม ตำนาน เทพ เรื่องเล่า นิทานพื้นบ้านต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้แฟนซีรีส์สายแฟนตาซีไม่ควรพลาดรับชมเด็ดขาดเลยครับ
เพียงแค่ชื่อ The Sandman ทุกคนก็น่าจะเดากันได้ว่ามาจากตำนานเรื่องอะไร เฉลยครับ! The Sandman คือเจ้าแห่งความฝัน ผู้ควบคุมความฝัน ส่วนมากก็จะเป็นฝันดี มีชื่อที่หลากหลายตามแต่ละยุคสมัย เช่น Morpheus เป็นต้น
อีกหนึ่งความน่าสนใจของซีรีส์ The Sandman คือเป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน (คอมมิก) ของ DC ผู้สร้างซูเปอร์ฮีโร่อย่างซูเปอร์แมน และแบทแมนนั่นเอง
ซีรีส์ The Sandman เรื่องย่อ
The Sandman เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Dream หรือ มอร์เฟียส (Morpheus) หนึ่งในเทพเจ้ากลุ่ม Endless ทั้ง 7 ตน มอร์เฟียส หรือแซนด์แมน (Sandman) เป็นเทพเจ้าแห่งความฝันที่ถูกกุมขังโดยมนุษย์ผู้ที่เคยเรียกมอร์เฟียส รวมระยะเวลาการถูกขังเป็น 105 ปี
หลังจากที่มอร์เฟียสหนีออกมาได้ก็พบว่า จักรวาลที่เขาอาศัยอยู่เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาจากการละเลยหน้าที่ของมอร์เฟียสในช่วง 105 ปีที่เขาถูกกุมขังไว้
สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นในซีรีส์เป็นหลักเลยคือเนื้อเรื่องที่ว่าด้วย มอร์เฟียส หรือแซนด์แมนออกผจญภัยหาสิ่งของ 3 ชิ้น คือหน้ากาก ถุงทราย และทับทิมเปลี่ยนแปลงความจริง เพื่อช่วยกอบกู้จักรวาล และทำให้ทุกอย่างคืนสู่สภาพเดิม
The Sandman กับปรัชญาของมนุษย์
นีล ไกแมน หรือ Neil Gaiman เป็นนักเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น รวมทั้งการ์ตูนชื่อดัง นีลมีสไตล์การเขียนที่มีการแทรกซึมปรัชญาและคติธรรมพื้นฐานของมนุษย์ลงไปในผลงานด้วยเสมอ ทำให้ The Sandman ก็มีการสอดแทรกปรัชญาลงไปเล่าในเนื้อเรื่องเช่นเดียวกัน
The Sandman ในฉบับกราฟิกโนเวลก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ The Sandman ที่ฉายบน Netflix ได้ถูกยกย่องให้ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times ทั้งยังบอกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนสำหรับปัญญาชนอีกด้วย
ทั้งนี้ในซีรีส์ The Sandman ก็ได้มีการต่อสู้กันระหว่างคติธรรมของมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง เช่น สีขาวกับสีดำ ความมืดกับแสงสว่าง และด้วยลายเซ็นของจักรวาล DC ที่แฟนคลับหลายคนคงทราบกันดีว่า ค่าย DC มักจะทำฉากหนังในแนวดาร์กแฟนตาซี สมจริง โหด เลือดสาด ทำให้ The Sandman มีความสมจริงเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ
รู้จักนักแสดงในซีรีส์ The Sandman
ทอม สเตอร์ริดจ์ (Tom Sturridge) รับบทเป็นมอร์เฟียส ดรีม หรือแซนด์แมน เทพเจ้าแห่งความฝันที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล Endless
เคอร์บี้ โฮเวลล์-บาติสต์ (Kirby Howell-Baptiste) รับบทเป็นเดธ (Death) เทพเจ้าแห่งความตายผู้มีพลัง อำนาจ และความรู้ที่ไร้ขอบเขต
ดอนนา เพรสตัน (Donna Preston) รับบทเดสแปร์ (Despair) เทพเจ้าแห่งความสิ้นหวัง นอกจากนี้ยังเป็นฝาแฝดกับดีไซร์อีกด้วย
มสัน อเล็กซานเดอร์ พาร์ก (Mason Alexander Park) รับบทเป็นดีไซร์ (Desire) เทพเจ้าแห่งความปรารถนา ฝาแฝดของเดสแปร์
บอยด์ โฮลบรู๊ก (Boyd Holbrook) รับบทเป็นโครินเธียน (Corinthian) หรือไนท์แมร์ ฝันร้ายที่สร้างขึ้นจากมอร์เฟียส
เจนน่า โคลแมน (Jenna Coleman) รับบทเป็น โจฮานนา คอนสแตนทีน (Johanna Constantine) นักปราบปีศาจและผู้ใช้เวทมนตร์ในศตวรรษที่ 18
รีวิว The Sandman หลังดูมีความคิดเห็นอย่างไร
สำหรับซีรีส์ The Sandman ที่ฉายบนช่องทางสตรีมมิ่ง Netflix มีทั้งหมด 10 ตอนด้วยกัน ปัจจุบันเน็ตฟลิกซ์ได้ลงตอนครบหมดแล้วทั้ง 10 ตอน
เนื้อเรื่อง The Sandman เรียกว่าเปิดตัวมาได้ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างมาก หากใครที่เคยชอบเหล่าซีรีส์แฟนตาซีของเน็ตฟลิกซ์ก็น่าจะชอบ The Sandman กันในพริบตาแรกแน่นอนครับ
อย่างที่บอกกันไปว่า The Sandman มักจะใช้ปรัชญาเข้ามาสอดแทรกในคำพูด หรือฉากที่ปรากฏในซีรีส์บ่อย ๆ ทำให้ความขลังของการเป็นเทพเจ้าในตัวละครต่าง ๆ ดูขัดแย้งกันนิดหน่อย แต่ภาพรวมยังถือว่ามีความลื่นไหลอยู่ เพราะพวกเขาเปรียบจักรวาลเป็นเหมือนบ้าน ทำให้ฉากใน The Sandman ดูเป็นชนบทที่รู้สึกเข้าถึงได้ง่าย
ขอแนะนำว่าอย่าดู The Sandman ติดต่อกันหลายตอนในครั้งเดียว เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างมีความยืด บางทีก็ออกทะเลไปบ้าง ถึงแม้นักแสดงจะเล่นดีตีบทแตกแค่ไหนก็อาจทำให้ผู้ชมเอียนได้เช่นกันครับ
เนื่องจากซีรีส์ The Sandman มาจากสตูดิโอ DC ทำให้มีฉากที่ค่อนข้างรุนแรง คำพูดก็หนักแน่นเกินไป หากจิตใจอ่อนไหวง่ายให้หลีกเลี่ยงเรื่อง The Sandman จะดีที่สุดครับ
สุดท้ายนี้ก็การรีวิว The Sandman ในครั้งนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้น ผู้อ่านสามารถไปรับชมบรรยากาศความแฟนตาซีของ The Sandman ได้ในสตรีมมิ่ง Netflix หรือ คลิกที่นี่.
- รีวิว Prey (2022) เมื่อนักล่าแห่งจักรวาล ปะทะเผ่าโคแมนชีสุดแกร่ง.
- รีวิว The Gray Man ล่องหนฆ่า ตามล่าสุดมันส์ แอ็กชันฟอร์มยักษ์จากผู้สร้างอเวนเจอร์.
- รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ หนังบล็อกบัสเตอร์จากเกาหลีใต้.